Apple เปิดตัว iPad Mini โฉมใหม่ หน้าจอLiquid Retina คมชัดขึ้น ทำงานเร็วขึ้นด้วยชิป  A15 Bionic รองรับ Apple Pencil 2 รองรับการเชื่อมต่อ 5G

iPad Mini ดีไซน์ใหม่ ขอบจอเล็กลง ขยายขนาดหน้าจอเพิ่มเป็น 8.3 นิ้ว จากเดิม 7.9 นิ้ว  หน้าจอเป็น Liquid Retina display เพิ่มความสว่างสูงสุดเป็น 500 นิตส์ ขอบเขตสีกว้างแบบ P3, การเคลือบสารกันแสงสะท้อน, การแสดงผลแบบ True Tone® และเทคโนโลยี Full Lamination รูปภาพและวิดีโอจะมีสีสันสดใส และมาอยู่ชิดติดกับผิวกระจก ส่วน Touch ID ย้ายไปอยู่กับปุ่ม Power ด้านบน

ชิปเปลี่ยนมาเป็น A15 Bionic แบบเดียวกับ iPhone 13 ซึ่ง CPU จะเป็นแบบ 6-core  ส่งผลให้ทำงานขึ้น 40% ส่วน GPU เป็นแบบ 5 คอร์ เร็วขึ้น 80% และ Neural Engine เร็วขึ้น 2 เท่า ส่งผลให้การใช้งาน AI มีประสิมธิภาพมากขึ้น เช่น แปลภาษาจากรูปภาพทำได้แบบ Real-time ได้ถึง 7 ภาษา

ในส่วนของการเชื่อมต่อเปลี่ยนจาก Lightning มาเป็นพอร์ต USB-C ช่วยให้ถ่ายโอนข้อมูลเร็วขึ้น 10 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า แถมเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมได้หลากหลายยิ่งขึ้น ฟากของเครือข่ายรองรับ 5G ที่ความเร็ว 3.5 Gbps

กล้องหลัง 12 ล้าน รูรับแสงใหญ่ขึ้นเป็น f 1.8 มาพร้อมแฟลชทูโทน  รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K  และ Smart HDR ฟากของกล้องหน้าปรับเป็น ultra wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รองรับ Central Stage  ส่วนลำโพงดีไซน์ใหม่ วางตำแหน่งแนวนอน ให้ได้เสียงที่คมชัดมากขึ้น

ฝั่งของอุปกรณ์เสริม รองรับการใช้งาน Apple Pencil 2 ที่จะเปลี่ยนไอแพดเป็นสมุดบันทึกดิจิทัลได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมรองรับการชาร์จไร้สายแค่แปะที่ข้างเครื่อง

นอกจากนั้นยังมี Smart Folio ใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อ iPad mini เป็นเคสที่บางและน้ำหนักเบา และยังมาพร้อมฟังก์ชั่นการเปิดเพื่อใช้งานและปิดเพื่อเข้าโหมดพัก มาพร้อมสีดำ สีขาว สีเชอรี่เข้ม สีอิงลิช ลาเวนเดอร์ และสีส้มอิเล็คทริค

ความจุที่มีให้เลือกคือ 64GB และ 256GB มาพร้อม 4 สีใหม่ ม่วง, ชมพู, Starlight และ Space Grey ราคาเริ่มต้นที่ 499 ดอลลาร์ 16,440 บาท เปิดให้สั่งจองสัปดาห์นี้ เริ่มส่งของ 24 กันยายนนี้ ส่วนราคาไทยiPad mini รุ่น Wi-Fi จะเปิดให้สั่งซื้อในราคาเริ่มต้น 17,900 บาท และรุ่น Wi-Fi + Cellular เริ่มต้นที่ 23,400 บาท