Google ช่วยให้ทุกคนปลอดภัยยิ่งขึ้นบนโลกออนไลน์ ร่วมส่งเสริมสัปดาห์แห่งการใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย “Safer Internet Day 2022”

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตรายใหม่เพิ่มขึ้นหลายล้านคน ทำให้ปัจจุบันทั่วทั้งภูมิภาคนี้มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งสิ้นมากกว่า 2.5 พันล้านคน กระแสการปรับตัวสู่ยุคดิจิทัลนี้ทำให้เกิดโอกาสใหม่ๆ โดยช่วยให้ผู้คนติดต่อสื่อสาร ค้นพบข้อมูล และเข้าถึงบริการที่สำคัญๆ เช่น สุขภาพและการศึกษา ในขณะเดียวกันก็ตอกย้ำให้เห็นถึงความจำเป็นในการเฝ้าระวังภัยคุกคามความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์ที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งข้อมูลเทรนด์การค้นหาของ Google ก็สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลของผู้คนในเรื่องนี้เช่นกัน โดยพบว่าการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับความเป็นส่วนตัวและการละเมิดข้อมูลในหลายๆ ประเทศ เช่น ออสเตรเลีย ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ เพิ่มขึ้นมากกว่า 20% ในปี 2021

การปกป้องผลิตภัณฑ์และบริการของ Google ที่ผู้คนใช้ในชีวิตประจำวันคือสิ่งที่ Google ให้ความสำคัญสูงสุด Google มีทีมวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญหลายร้อยคน ซึ่งหลายคนก็ประจำการอยู่ในเอเชียแปซิฟิก เป็นผู้คอยสอดส่องดูแลเพื่อให้แน่ใจว่าบัญชีของทุกคนมีความปลอดภัยและโครงสร้างพื้นฐานของ Google ได้รับการปกป้องจากการบุกรุกของผู้ไม่ประสงค์ดี นอกจากนี้ ทีมงาน Google ยังได้พัฒนาเครื่องมือที่ใช้งานง่าย เช่น การตรวจสอบความปลอดภัย (Security Checkup) และการตรวจสอบความเป็นส่วนตัว (Privacy Checkup) ซึ่งทุกคนสามารถใช้เพื่อปรับตั้งค่าความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวให้รัดกุมยิ่งขึ้น

และเนื่องในสัปดาห์แห่งการใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัยในปีนี้ หรือ “Safer Internet Day 2022” Google มีบทความพิเศษที่จะช่วยแนะนำให้ผู้ใช้งานปลอดภัยจากสแกม

ปลอดภัยยิ่งขึ้นเมื่อใช้ Google

ระบบรักษาความปลอดภัยของเรา: ขณะท่องโลกออนไลน์ คุณไม่ควรจะต้องมานั่งกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลของคุณ ดังนั้นเราจึงมุ่งมั่นที่จะสร้างระบบรักษาความปลอดภัยให้กับผลิตภัณฑ์ของเรา เพื่อที่ว่าข้อมูลในบัญชี Google ของคุณจะได้รับการป้องกันโดยอัตโนมัติ

ในปี 2564 เราได้เปิดใช้งานการยืนยันแบบ 2 ขั้นตอน (2-Step Verification หรือ 2SV) ให้กับผู้ใช้กว่า 150 ล้านคนทั่วโลกโดยอัตโนมัติ ผลการวิจัยของเราเผยให้เห็นว่าหลังเปิดใช้งานระบบดังกล่าว จำนวนการลักลอบใช้บัญชีลดลงถึง 50%

การรักษาความปลอดภัยด้วยตัวคุณเอง: เรามีเครื่องมือเพิ่มเติมในกรณีที่คุณต้องการยกระดับการป้องกันให้แน่นหนายิ่งขึ้น การตรวจสอบความปลอดภัย (Security Checkup) จะให้คำแนะนำที่ปรับเปลี่ยนในแบบของคุณและนำไปใช้ได้จริง ซึ่งจะช่วยยกระดับการรักษาความปลอดภัยของบัญชี Google ให้รัดกุมยิ่งขึ้น โดยใช้เวลาดำเนินการเพียง 2 นาทีเท่านั้น

การลงชื่อเข้าใช้การตรวจสอบความปลอดภัยไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะใช้งาน Google เท่านั้น แต่ยังมีคำแนะนำสำหรับผู้ใช้แต่ละรายเพื่อรักษาความปลอดภัยขณะท่องไปในเว็บด้วย เช่น ช่วยตั้งค่าการล็อกหน้าจอบนมือถือของคุณ และแนะนำให้คุณลบแอปและเว็บไซต์ของบุคคลที่สามที่มีความเสี่ยงว่าจะเข้าถึงบัญชีของคุณได้

ในปี 2564 มีผู้คนทำการตรวจสอบความปลอดภัยมากกว่า 1.5 พันล้านครั้ง และเราก็หวังว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นในปี 2565

การรักษาความปลอดภัยนอก Google: นอกจากการรักษาความปลอดภัยในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของเราแล้ว เรายังได้แบ่งปันแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดและเครื่องมือรักษาความปลอดภัยให้กับองค์กรอื่นๆ เพื่อช่วยให้อินเทอร์เน็ตมีความปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับทุกคนด้วย

ระบบรักษาความปลอดภัยของ Google: 5 วิธีที่ Google ช่วยให้คุณปลอดภัยจากกลโกง

1, การกรองอีเมลประเภทสแปมและฟิชชิงโดยอัตโนมัติใน Gmail ช่วยบล็อกอีเมลที่น่าสงสัยหรือเป็นอันตรายก่อนที่จะถึงผู้ใช้ได้มากถึง 99.9% 

 

มัลแวร์และการโจมตีแบบฟิชชิงจำนวนมากเริ่มต้นด้วยการส่งอีเมล Gmail จะปกป้องคุณจากสแปม ฟิชชิง และมัลแวร์ได้ดีกว่าบริการอีเมลอื่นๆ

Gmail ใช้แมชชีนเลิร์นนิงและปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการวิเคราะห์รูปแบบที่แฝงอยู่ในข้อความนับพันล้านข้อความเพื่อระบุถึงลักษณะของอีเมลที่ผู้ใช้ทำเครื่องหมายว่าเป็นสแปม แล้วจึงใช้ตัวทำเครื่องหมายเหล่านั้นในการบล็อกอีเมลที่น่าสงสัยหรือเป็นอันตรายก่อนที่จะมาถึงคุณ ความสามารถในการกรองสแปมที่ปรับปรุงประสิทธิภาพด้วย AI ของเราสามารถบล็อกจดหมายขยะได้เกือบ 10 ล้านฉบับในทุก 1 นาที

มัลแวร์ ฟิชชิง และสแปมเกี่ยวกับโควิด: ช่วงที่มีการแพร่ระบาดสูงสุดในปี 2563 เราพบอีเมลมัลแวร์และฟิชชิงเกี่ยวกับโควิด-19 มากถึง 18 ล้านฉบับต่อวัน ทั้งนี้ยังไม่นับรวมข้อความสแปมเกี่ยวกับโควิดอีกกว่า 240 ล้านข้อความในแต่ละวัน

2. เราทำให้ Google เป็นช่องทางในการค้นหาที่ปลอดภัยขึ้นด้วยการป้องกันไม่ให้คุณเข้าเว็บไซต์สแปมและหลอกลวง

ในปี 2563 เราตรวจพบเว็บสแปมวันละ 4 หมื่นล้านหน้า โดยมีเว็บไซต์ที่ถูกแฮ็กหรือสร้างขึ้นมาเพื่อขโมยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณด้วย และเราได้ทำการบล็อกเพื่อไม่ให้ปรากฏในผลการค้นหาของคุณ

นอกเหนือจากเว็บสแปมทั่วไปแล้ว เรายังเพิ่มความพยายามที่จะป้องกันคุณจากการละเมิดประเภทอื่นๆ เช่น การฉ้อโกงและกลโกงต่างๆ ตั้งแต่ปี 2561 เราสามารถปกป้องการค้นหาบน Google ได้ปีละหลายร้อยล้านครั้งเพื่อไม่ให้คุณเข้าไปยังเว็บไซต์หลอกลวงที่พยายามจะหลอกคุณด้วยการใช้คีย์เวิร์ดในทางที่ผิด โลโก้ของแบรนด์ที่ลอกเลียนมา หรือหมายเลขโทรศัพท์ลวงที่จะหลอกให้คุณโทรไป

 

3. เราเตือนคุณเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัย

บางครั้งความตื่นเต้นอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมอาจทำให้คุณเผลอคลิกลิงก์ที่นำไปสู่เว็บไซต์ที่อันตรายโดยไม่รู้ตัว แต่เราช่วยปกป้องคุณได้ด้วย Google Safe Browsing

ปัจจุบัน Google Safe Browsing ช่วยปกป้องอุปกรณ์มากกว่า 4 พันล้านเครื่อง โดยจะแสดงข้อความเตือนเพื่อแจ้งให้คุณทราบว่าเว็บไซต์ที่คุณกำลังจะเข้าไปดูนั้นอาจจะไม่ปลอดภัย ซึ่งช่วยปกป้องคุณและข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจากมัลแวร์และกลโกงฟิชชิงที่อาจเกิดขึ้นได้ นอกจากนั้นเรายังแจ้งเตือนไปยังเจ้าของเว็บไซต์ หากเว็บไซต์ของพวกเขาถูกแฮ็ก พร้อมให้ข้อมูลในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

 

4. เราปกป้องคุณจากโฆษณาที่ประสงค์ร้ายและทำให้เข้าใจผิด

เราช่วยให้คุณเข้าถึงข้อมูลที่มีคุณภาพสูงและเชื่อถือได้ใน Google Search ซึ่งครอบคลุมถึงโฆษณาที่คุณเห็นในระหว่างที่กำลังค้นหาผลิตภัณฑ์ บริการและคอนเทนต์ด้วย เราต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าโฆษณาเหล่านั้นไม่ใช่กลโกง หรือไม่ได้ถูกใช้ในทางที่ผิด ดังนั้นเราจึงพัฒนาและบังคับใช้นโยบายที่ให้ความสำคัญกับผู้ใช้เป็นอันดับแรกมาโดยตลอด

ในปี 2563 เราได้บล็อกหรือนำโฆษณาที่ละเมิดนโยบายของเราออกไปประมาณ 3.1 พันล้านรายการ และจำกัดโฆษณาอีก 6.4 พันล้านรายการทั่วทุกแพลตฟอร์มของเรา รวมถึงใน Google Search ด้วย

โฆษณาที่เกี่ยวข้องกับโควิด: รวมแล้วตลอดทั้งปี 2563 เราได้บล็อกโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับโควิดไปกว่า 99 ล้านรายการ ซึ่งมีทั้งโฆษณาเกี่ยวกับการรักษาโรคที่โอ้อวดเกินจริง โฆษณาเกี่ยวกับหน้ากากอนามัย N95 เนื่องจากสินค้าขาดตลาด และโฆษณาเกี่ยวกับวัคซีนปลอม

  5. เรารักษาความปลอดภัยให้ข้อมูล แอป และอุปกรณ์ Android ของคุณด้วย Google Play Protect

Google Play Protect มีอยู่ในตัวอุปกรณ์ Android และทำงานอยู่เบื้องหลังอย่างต่อเนื่องเพื่อให้อุปกรณ์ ข้อมูล และแอปของคุณปลอดภัย ในแต่ละวันเราจะทำการสแกนแอปในโทรศัพท์ Android โดยอัตโนมัติ และป้องกันแอปที่เป็นอันตรายไม่ให้เล็ดลอดเข้ามาได้ ทำให้ Google Play Protect เป็นบริการป้องกันภัยคุกคามในอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในโลก

การรักษาความปลอดภัยด้วยตัวคุณเอง: กฎเหล็ก 3 ข้อที่จะช่วยให้คุณจับผิดกลโกง   

  1. อย่ารีบร้อน — พวกมิจฉาชีพมักจะสร้างสถานการณ์ที่เร่งด่วนเพื่อให้คุณไม่ทันได้ใช้สัญชาตญาณในการระวังตัว ดังนั้นขอให้คุณใจเย็นๆ และตั้งคำถามเพื่อไม่ให้ถูกเร่งเร้าจนต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย
  2. ตรวจสอบให้แน่ใจ — ค้นคว้าหาข้อมูลเพื่อตรวจสอบรายละเอียดที่คุณได้รับอีกครั้ง ถ้าคุณได้รับโทรศัพท์แปลกๆ ให้วางสายไปก่อน ถ้าคุณได้รับอีเมล ก็อย่าเพิ่งคลิกลิงก์ที่ส่งมาให้คุณ คุณควรจะเข้าไปที่เว็บไซต์ของธนาคาร ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ หรือหน่วยงานราชการ แล้วล็อกอินเข้าสู่ระบบของเว็บไซต์นั้นโดยตรงเลย
  3. หยุดก่อน อย่าเพิ่งส่ง — ไม่มีบุคคลหรือหน่วยงานที่น่าเชื่อถือที่ไหนที่จะเรียกร้องให้คุณจ่ายเงินเดี๋ยวนั้น พวกมิจฉาชีพมักจะยืนกรานให้คุณชำระเงินด้วยบัตรของขวัญ ซึ่งจริงๆ แล้วมีไว้สำหรับให้เป็นของขวัญเท่านั้น ไม่ได้มีไว้เพื่อชำระเงินจากการข่มขู่ ดังนั้นถ้าคุณรู้สึกว่าการชำระเงินนั้นดูไม่ชอบมาพากล ก็อาจเป็นกลโกงได้