พบมัลแวร์เรียกค่าไถ่ HavanaCrypt ปลอมตัวเป็นอัปเดตซอฟท์แวร์ ทั้ง Windows 10, Microsoft Exchange และ Google Chrome หลอกให้ติดตั้งลงเครื่องแล้วเข้าล็อกไฟล์เพื่อเรียกค่าไถ่ นักวิจัยเตือนยังไม่มีวิธีป้องกันเพราะแฮกเกอร์ใช้เทคนิคขั้นสูงทำให้ตรวจจับได้ยาก

นักวิจัยจาก Trend Micro ค้นพบมัลแวร์เรียกค่าไถ่ตัวใหม่ชื่อว่า “HavanaCrypt” มันจะแกล้งปลอมตัวเป็นอัปเดตซอฟท์แวร์ของ Google โดยใช้แอปพลิเคชัน .NET ของไมโครซอฟท์ หนึ่งในนั้นก็คือ Obfuscar ที่ออกแบบมาให้รักษาความปลอดภัยของโค้ดบน .NET นั่นจึงทำให้โปรแกรมแอนตี้ไวรัสต่างๆตรวจจับได้ยาก เมื่อเผลอติดตั้งลงในเครื่องมันก็จะซ่อนตัวเองโดยใช้ฟังก์ชัน ShowWindow ของระบบ จึงทำให้การตรวจเจอเท่ากับศูนย์
นักวิจัยบอกว่ามันใช้เทคนิคขั้นสูงเพื่อไม่ให้ถูกจับ เมื่อมันพบว่าระบบกำลังทำงานบน virtual machine (VM) มันก็จะหยุดการทำงานของตัวเองทันที หากพบว่าคอมพิวเตอร์ของเหยื่อไม่ได้ทำงานบน VM ก็จะทำการดาวน์โหลดไฟล์จากเว็บ hosting ของไมโครซอฟท์ลงในเครื่อง จากนั้นก็จะก็อปปี้ตัวเองไปอยู่ในโฟลเดอร์ “ProgramData” และ “StartUp” เพื่อทำการซ่อนไฟล์ระบบและปิดการทำงานของ Task Manager ต่อด้วยการใช้ฟังชัน QueueUserWorkItem ใน .NET เชื่อมต่อ payloads เข้าด้วยกันเพื่อทำการเข้ารหัสไฟล์ในเครื่อง
![]()
ตอนที่เข้ารหัสไฟล์ HavanaCrypt จะใช้ฟังก์ชัน CryptoRandom ใน KeePass Password Safe เครื่องมือจัดการรหัสผ่านแบบ open-source ที่ใช้บนระบบปฏิบัติการ Windows เพื่อสร้างกุญแจแบบสุ่มในการเข้ารหัสไฟล์ ดูเหมือนว่าแฮกเกอร์ผู้สร้างวางแผนที่จะสื่อสารผ่าน Tor browser ได้ซึ่งนี่เป็นตัวชี้วัดว่าเจ้ามัลแวร์ตัวน้ยังอยู่ในช่วงของการพัฒนาให้มีความสามารถเพิ่มขึ้น
ทาง Trend Micro มองว่าตอนนี้เริ่มมีการใช้ HavanaCrypt ในการจู่โจมมากขึ้น แถมยังมีการปรับเปลี่ยนเทคนิคให้ตรวจับยากขึ้น โดยเฉพาะการล่อหลอกให้อัปเดตซอฟท์แวร์เวอร์ชันใหม่ ที่มีการปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น จนไปถึงการเพิ่มความปลอดภัยให้แน่นหนาขึ้น นักวิจัยเตือนยังไม่มีวิธีป้องกันมัลแวร์เพราะแฮกเกอร์ใช้เทคนิคขั้นสูงทำให้ตรวจจับได้ยาก ตอนนี้ทำได้ให้ทางผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม ปิดช่องโหว่เหล่านี้เพื่อไม่ให้ใช้เป็นช่องทางในการเรียกค่าไถ่ได้
ที่มา theregister.