หลังจากที่ไมโครซอฟท์ (Microsoft) และโนเกีย (Nokia) ประสบความสำเร็จในการทำตลาดวินโดวส์โฟน (Windows Phone) โดยเฉพาะ Nokia Lumia 920 และอีกหลายๆ รุ่นที่ตามมา แม้ส่วนแบ่งตลาดจะเป็นแค่เศษเสี้ยวอยู่ก็ตาม เท่าที่ซีได้ติดตาม
ส่วนหนึ่งของความสำเร็จน่าจะมาจากการทำโฆษณาของไมโครซอฟท์ และโนเกียที่จี้จุดอ่อนของคู่แข่งอย่างตรงไปตรงมา ไม่แคร์แม้จะมีภาพสินค้าของคู่แข่งปรากฎมากกว่า โดยเฉพาะ iPhone อย่างเช่น การชูคุณสมบัติของกล้องถ่ายรูปที่เหนือกว่าทั้งความละเอียด และความสามารถในการถ่ายที่แสงสว่างน้อยๆ ของ Lumia เทียบกับ iPhone โดยไม่ต้องเห็นมือถือวินโดวส์โฟนของ Nokia เลย (กลยุทธ์การสร้างความแตกต่างแบบทิ้งห่างนี้ Apple ใช้สร้างความสำเร็จให้ตัวเองมาตั้งแต่เมื่อครั้งทำ iPod เครื่องเล่นเพลงดิจิตอลที่หน้าตาเรียบไร้ปุ่มเกะกะรุงรังต่างจากคู่แข่งสิ้นเชิง ในขณะที่สตอเรจเก็บเพลงมากถึง 4GB คู่แข่งแค่ 256MB ทิ้งห่างกันไม่เห็นฝุ่น) ล่าสุดไมโครซอฟท์ยังคงเดินเกมการทำโฆษณาสร้างภาพต่าง โดยตีจุดอ่อนของคู่แข่งเหมือนเช่นเคย คราวนี้เป็นการชูข้อได้เปรียบของไฮบริดโน้ตบุ๊ค หรือ โน้ตบุ๊คที่สามารถแปลงร่างเป็นแท็บเล็ต หรือโน้ตบุ๊คได้นั่นเองค่ะ ซึ่งโฆษณาที่ทำออกมาจี้จุดอ่อน iPad โดยเฉพาะ
งานนี้ ไมโครซอฟท์ร่วมกับเลอโนโว (Lenovo) โดยใช้ไฮบริดโน้ตบุ๊ครุ่น Yoga ที่สามารถพับคีย์บอร์ดกลับไปด้านหลังได้ 360 องศาเป็นพระเอก ไฮบริดโน้ตบุ๊ครุ่นนี้จะพับหน้าพับหลัง เพื่อใช้เป็นขาตั้งให้กับจอสัมผัส เพื่อใช้เป็นแท็บเล็ต หรือพับมาข้างหน้าเป็นคีย์บอร์ดใช้งานแบบโน้ตบุ๊คก็ทำได้อย่างคล่องตัว ซึ่งแน่นอนว่า มันทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 8 ในขณะที่ iPad เป็นแท็บเล็ตอย่างเดียว หากต้องการใช้งานแบบคอมพิวเตอร์ก็ต้องเอา smart cover มาช่วยยกให้พิมพ์หน้าจอได้สะดวกขึ้น แต่ไม่ถนัดเท่ากับโน้ตบุ๊ค จากจุดอ่อนนี้ ไมโครซอฟท์นำมาสร้างเป็นโฆษณาที่แสดงสถานการณ์ในห้องเรียนที่เมื่ออาจารย์เริ่มบรรยาย และนักศึกษาที่ใช้ iPad จะต้องพิมพ์สิ่งที่อาจารย์พูด พวกเขาก็ต้องควานหา smart cover มาทำเป็นขาตั้งกันให้จ้าละหวั่น ในขณะที่นักศึกษาที่ใช้ Yoga Hybrid Notebook แค่พับคีย์บอร์ดมาข้างหน้าก็เปลี่ยนแท็บเล็ตเป็นโน้ตบุ๊คที่มีคีย์บอร์ดพร้อมพิมพ์ได้อย่างคล่องแคล่วทันที และทันกับสิ่งที่อาจารย์บรรยายด้วย ซึ่งในกรณีของผู้ใช้ iPad หลังจากติด smart cover และพับมัน เพื่อตั้ง iPad ให้พร้อมพิมพ์แล้ว แต่กระนั้นคีย์บอร์ดเสมือนบนหน้าจอสัมผัส iPad ก็ไม่สามารถเทียบได้กับคีย์บอร์ดจริงบนโน้ตบุ๊ค