และแล้ว Apple ก็เปิดตัว iPad รุ่นใหม่ในงานวันที่ 22 ตุลาคม (ตรงกับวันที่ 23 บ้านเรา) ตามคาด ซึ่ง Apple ยังคงความเรียบง่ายในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เหมือนเดิม คือ ไม่เยอะเท่ากับข่าวลือ แต่สร้างเสียงอื้อฮือได้ทุกครั้ง 😀

ปฏิเสธไม่ได้ว่า iPad เป็นแท็บเล็ตที่มีส่วนแบ่งผู้ใช้สูงสุด แม้แท็บเล็ตฟากฝัง Android จะประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะในตลาดแท็บเล็ตที่มีขนาด 7-8″ แต่ Apple ก็ปล่อย iPad Mini ออกมาสกัดไว้ แถมยังตอกย้ำรุ่นใหม่ที่สเป็กเหนือกว่าน่าใช้มากขึ้นอีกด้วย โดยเมื่อเช้านี้เวลา 1:00 น.โดยประมาณ ทิม คุก ซีอีโอของ Apple ได้เปิดตัว iPad รุ่นใหม่ที่ไม่เรียกว่า iPad 5 แต่ใช้ชื่อ iPad Air เนื่องจากมันเป็นไอแพดที่เบาทีสุดในโลกแค่ 1 ปอนด์ (ประมาณ 450 กรัม) เทียบกับ iPad 4 ที่หนัก 1.44 ปอนด์ นอกจากเบาสุดๆ แล้ว มันลงกว่าเดิมอีก 20% โดยบางแค่ 0.29 นิ้ว (ประมาณ 0.74 ซม.) เท่านั้น ขณะที่หน้าจอยังคงมีขนาด 9.7″ ความละเอียดเท่าเดิมคือ 2048×1536 (264ppi) โพรเซสเซอร์เป็น A7 (สถาปัตยกรรม 64 บิท) และหน่วยประมวลผลเซ็นเซอร์ตรวจับความเคลื่อนไหวเป็น M7 ที่ใช้บน iPhone 5S กล้องหน้าหลังเท่าเดิม (1.2M 720pHD, 5M 1080pHD) ไม่มีสีดำ และสีขาวให้เลือกเหมือนรุ่นก่อนหน้านี้ แต่จะมีสีเงิน เทา และอะลูมิเนียม ไม่มีสีทองอย่างที่เป็นข่าวลือออกมาก่อนหน้านี้ กล่าวโดยสรุปนะคะ iPad 5 หรือ iPad Air จะแตกต่างจาก iPad 4 ก็คือ เบากว่าเดิมประมาณ 30% บางกว่าประมาณ 28% โพรเซสเซอร์เร็วกว่าเดิม 2 เท่า มาพร้อม iOS 7 ดีไซน์ภายนอกลักษณะโค้งมนของขอบจอจะคล้าย iPad Mini คาดหน่วยความจำน่าจะมากกว่า 1GB ค่ะ (สำหรับหน่วยประมวลผล 64 บิทจะสามารถอ้างหน่วยความจำได้มากกว่า 4GB ค่ะ เช่นเดียวกับคุณสมบัติโพรเซสเซอร์บนพีซีที่เราคุ้นเคย) ราคาเริ่มต้นรุ่น 16GB อยู่ที่ 499 หรือประมาณ 15,000 บาทเหมือนเดิมค่ะ ส่วนรุ่น Cellular ก็จะแพงกว่าประมาณร้อยกว่าเหรียญ หรือเพิ่มเงินอีกประมาณ 4,000 บาทค่ะ วางตลาด 1 พ.ย. ศกนี้

คราวนี้มาติดตามรายละเอียดของ iPad Mini 2 หรือ iPad Mini Retina กันบ้างนะคะ ซึ่งซีสรุปสั้นๆ แล้วกันนะคะว่า มันเป็น iPad Mini ที่มาพร้อมจอเรติน่าอย่างที่หลายคนคาด โดยมีความละเอียด 2,048×1,536 pixels (326ppi) และแรงจัดด้วยโพรเซสเซอร์ A7 และ M7 (ไส้ใน iPhone 5s เหมือนกัน :O) ขนาดเท่าเดิม และเบากว่าเดิมเล็กน้อย มาพร้อม iOS 7 และทาง Apple ยังไม่เปิดเผยเรื่องขนาดของหน่วยความจำ (RAM) ว่าจะมากกว่า 1GB หรือเปล่า แต่ซีอยากให้มันเพิ่มหน่วยความจำมากขึ้นนะคะ จะได้ใช้ประโยชน์จาก 64 บิทได้อย่างคุ้มค่า และแน่นอนว่า มันจะเร็วขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด สนนราคาของ iPad Mini Retina จะแพงกว่าเดิมประมาณ 2,200 บาท โดยรุ่น 16GB อยู่ที่ 399 เหรียญฯ หรือประมาณ 12,000 บาทค่ะ

คงต้องติดตามกันต่อไปนะคะว่า จากการเปิดตัว iPad ใหม่พร้อมกันสองรุ่นของ Apple จะสร้างปรากฎการณ์ในตลาดได้ดีแค่ไหน ซึ่งคู่แข่งอย่าง Nokia และ Microsoft แม้จะอยู่ด้วยกันแล้ว แค่ไมโครซอฟท์ก็เพิ่งจากจะเปิดตัว Surface 2 กันไป ตามติดด้วยข่าวที่ Nokia ก็เพิ่งเปิดตัวแท็บเล็ตด้วยเหมือนกัน แพลตฟอร์ม Windows Phone 8 ที่ตอนนี้ดูเหมือนส่วนของสมาร์ทโฟนจะไปได้ดี จะส่งผลให้แท็บเล็ต Windows 8 ดีตามไปด้วยได้ หรือไม่ ในขณะเดียวกัน Android ก็ยังคงเดินหน้าด้วยแท็บเล็ตจากผู้ผลิตหลายๆ เจ้า รวมถึง Google เองด้วย ซึ่งฐานแฟนก็ไปได้ดี โดยเฉพาะ Samsung  อย่างไรก็ดี การที่ Apple ยกระดับการประมวลผลของแท็บเล็ต iPad Air และ iPad Mini เป็น 64 บิท น่าจะเป็นการประกาศความเป็นผู้นำตลาดด้วยสเป็ก และดีไซน์ที่เหนือกว่าคู่แข่งในตลาด แถมยังเป็นสเป็กที่ไม่แพ้พีซีเลย ซึ่งอาจจะทำให้ Apple เจาะตลาดองค์กรได้อีกด้วย ดูเหมือนสงครามแท็บเล็ตเริ่มระอุอีกแล้วนะคะ

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=XOPZBbbF9bA[/youtube]

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=d54q4ORm–w[/youtube]

via Apple