ดูเหมือนว่า Samsung พร้อมแล้วสำหรับการออก Galaxy S5 เพื่อชิงตลาดจากไอโฟน ล่าสุดนักวิเคราะห์ออกมาคาดการณ์ว่า Galaxy 5 นั้นจะมาพร้อมกับเซนเวอร์สแกนนิ้วมือและชิพ 32-bit
Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์เจ้าประจำจาก KGI ได้ออกมาคาดการณ์ว่าซัมซุงจำเป็นจะต้องมีระบบยืนยันตัวตนด้วยการสแกนนิ้วมือ เพื่อเป็นให้ทันกับความต้องการของตลาดที่เปิดตัวด้วยไอโฟน 5s. แอปเปิ้ลไม่เพียงแต่เป็นรายแรกๆที่นำระบบรักษาความปลอดภัยด้วย biometric มาใส่ในอุปกรณ์พาพาเท่านั้น แต่ยังเป็นการจุดกรแสระบบรักษาความปลอดภัยที่ใช้งานง่าย มีประสิทธิภาพและน่าเชื่อถือด้วย Touch ID ด้วยความนิยมของไอโฟนจึงทำให้ Touch ID กระจายไปสู่ผู้ใช้ในวงกว้าง นับล้านๆรายทั่วโลกแล้ว นั่นทำให้ผู้ผลิตมือถือค่ายอื่นๆก็ต้องพยายามออกผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกันออกมาทำตลาดด้วย
ทางด้านซัมซุงก็ได้จับมือกับ Validity Sensors ให้ผลิตเทคโนโลยีจดจำลายนิ้วมือให้ ซึ่งผลงานของบริษัทนี้ก็คือ Synaptics ทัชแพดที่ออกงาวขายเมื่อปีที่แล้ว Kuo ให้ทรรศนะว่า สมาร์ทโฟนรุ่นที่เป็นดาวเด่นจำเป็นต้องมีระบบสแกนนิ้วมือ เพราะตอนนี้ทั้งไอโฟน 5S และ HTC One Max ก็ใช้เซนเซอร์สแกนนิ้วมาให้แล้ว ดังนั้น S5 ซึ่งเป็นรุ่นเรือธงจะขาดฟังก์ชั่นนี้ไม่ได้ ถึงแม้เทคโนโลยีนี้ยังพัฒนาได้ไม่เท่าไอโฟน 5S ก็ต้องใส่มา
Kuo เชื่อว่าซัมซุงจะทพการตลาดมือถือไฮเอ็นด์ด้วยกลยุทธ์แบบเดิม คือแยกขายเป็น 2 โมเดลตามประเภทของชิพ, ความละเอียดกน้าจอและหน่วยความจำที่ใช้ แต่ทั้งสองโมเดลน่าจะมาพร้อมหน้าจอขนาดเดียวกันคือ 5.2 นิ้ว โดยรุ่นท็อปจะใช้หน้าจอ WQHD AMOLED ที่มีความหนาแน่นของเม้ดพิกเซลสูงถึง 565 ppi ส่วนซีพียูก็จะเป็น Exynos 5430 ที่ซัมซุงผลิตเอง พร้อม LPDDR3 RAM 3 GB สำหรับประมวลผลด้านกราฟฟิค แต่ชิพตัวนี้จะยังไม่ใช่ชิพ 64-bit แบบเดียวกับที่แอปเปิ้ลใส่ในไอโฟน 5s, iPad Air และ iPad mini หน้าจอเรติน่า ฟีเจอร์อื่นๆที่ให้มาก็มี กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล สนับสนุนออโต้โฟกัสแบบ phase detection autofocus และตรวจจับท่าทางแบบสามมิติ ส่วนบอดี้คาดว่ายังใช้ดีไซน์ที่ใกล้เคียงกับ S4
นอกจากนี้ Kuo ยังไม่เชื่อว่าข่าวลือที่ซัมซุงจะใส่ระบบสแกนดวงตามาให้ใน S5 เพราะเมื่อต้นเดือนมกราคา Lee Young Hee รองประธานฝ่ายมือถือของซัมซุงออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “ทางบริษัทกำลังศึกษาความเป็นไปได้อยู่” ซึ่งอาจจะใส่มาในสินค้าที่จะวางขายในอนาคต แต่ก็ยังไม่ยืนยันว่าจะพร้อมสำหรับการเปิดตัวกับ S5 หรือไม่
VIA Appleinsider
