เมื่อคืนมีถ่ายทอดสดการเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ของ Samsung นั่นก็คือ Galaxy S5 และอุปกรณ์สวมใส่ดิจิตอล Galaxy Gear 2 ต้อนรับงาน Mobile World Congress 2014 ที่บาเซโลน่า ประเทศสเปน
สำหรับ Galaxy S5 ที่เปิดตัวเมื่อคืน ทางบริษัทต้องการทำให้มันเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ในการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น แทนที่จะเพิ่มฟีเจอร์แปลกๆ มากมาย เพื่อสร้างความตื่นเต้นให้กับผลิตภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่มองเห็นเด่นชัดใน Galaxy S5 ก็คือ ดีไซน์ตัวเครื่องใหม่ที่ดูสปอร์ตขึ้น และสีใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาให้เลือกนั่นคือ น้ำเงิน และทอง แต่ถ้าสาวกของมือถือตระกูลนี้คาดว่าจะได้เห็นอะไรแปลกพิศดารอาจจะต้องผิดหวังสักนิดนึง โดยคุณสมบัติการทำงานของ Galaxy S5 ที่ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นก็จะมีเรื่องของกล้อง ซึ่งมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ที่สามารถบันทึกภาพที่ความละเอียดได้สูงถึง 16 ล้านพิกเซล (กล้องหน้า 2.1 ล้านพิกเซล) สามารถออโต้โฟกัสได้ภายใน 0.3 วินาที โดย Samsung อ้างว่าเร็วที่สุดในโลก!!! ในขณะเดียวกัน S5 ยังได้เร็วขึ้นกว่าเดิม และอายุการใช้งานแบตฯที่นานขึ้นด้วย โดยแบตเตอรี่มีขนาด 2800 mAh ในกรณีที่แบตเหลือต่ำกว่า 10% มันยังสามารถสแตนด์บายได้นานถึง 24 ชั่วโมง เพื่อให้ผู้ใช้มีเวลามากพอที่จะหาที่ชาร์จได้ทัน หรือเพียงพอต่อการที่จะเรียกสายด่วน (emergency call) หรือรับข้อความจากเพื่อน และคนในครอบครัวของเราได้อย่างสบาย
นอกจากนี้ Galaxy S5 ยังกันน้ำได้ (หลังจากที่ Samsung มีการปล่อยคลิปก่อนเปิดตัว ก็มีหลายฝ่ายคาดเดากันในเบื้องต้นแล้วว่า Galaxy S5 น่าจะกันน้ำได้) ตามมาตรฐานที่รับรองโดย ip 67 ดังนั้น แม้คุณจะยืนอยู่ท่ามกลางสายฝน หรืออยู่ในสระว่ายน้ำ คุณก็ยังสามารถใช้ S5 ได้โดยไม่่ต้องกังวลเรื่องน้ำเข้าเครื่องแต่อย่างใด อีกฟีเจอร์หนึ่งที่อาจทำให้สาวกมือถือรายนี้ได้ใช้อะไรที่เหมือนกับสาวก iPhone บ้าง นั่นก็คือ ระบบสแกนนิ้วมือ (fingerprint scan) ผู้ใช้สามารถสแกนนิ้วที่ปุ่ม Home เพื่อปลดล็อคมือถือ เพื่อเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวทั้งไฟล์ต่างๆ ตลอดจนภาพถ่าย รวมถึงการชำระค่าบริการด้วยโมบายเพย์เมนต์ ส่วนของความสามารถในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต S5 มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่เรียกว่า Download Booster สามารถดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้ Wi-Fi 802.11ac และเทคโนโลยี LTE ทำงานร่วมกันค่ะ ตัวเครื่องจะคล้าย S4 แต่ใหญ่กว่าค่ะ โดยหน้าจอ S5 จะเป็นฟูลเอชดี Super AMOLED (1920 x 1080 pixel, 430ppi) ขนาด 5.1 นิ้ว ทำงานด้วย Quad Core Processor ความเร็ว 2.5 GHz หน่วยความจำ 2GB ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 4.4.2 KitKat ด้านหลังตัวเครื่องจะให้ความรู้สึกของผิวสัมผัสคล้าย Note 3 ค่ะ
คุณสมบัติการทำงานที่เกียวข้องกับการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ใช้ที่เพิ่มเข้ามาใน S5 โดยเฉพาะเรื่องของสุขภาพก็คือ ที่ด้านหลังของตัวเครื่องจะมีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจให้ด้วย นอกจากนี้ยังมีแอพ S Health 3.0 ทีมาพร้อมกับเครื่อง เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ได้ดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะใครที่ชอบออกกำลังกาย S5 น่าจะเป็นเพื่อนที่ดีของคุณได้ค่ะ สำหรับกำหนดการวางตลาด Galaxy S5 จะเป็นวันที่ 11 เมษายน ศกนี้
ไม่เพียงแต่ Samsung จะเปิดตัวมือถือเรือธงรุ่นใหม่อย่าง Galaxy S5 เท่านั้น แต่เมื่อคืนนี้ ยังมีการแนะนำอุปกรณ์สวมใส่ตามมาอีกหลายรุ่นด้วย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Gear Fit สายรัดข้อมือที่มีดีไซนสปอร์ตจอโค้งกอดรับข้อมือของผู้ใช้ โดยจอแสดงผลจะมีความโค้งสวยงามน่าใช้มากๆ ดูน่าจะเป็นผลิตภัณฑ์แรกๆ ที่ Samsung เลือกใช้จอแสดงผลแบบดัดโค้งได้ มาดูคุณสมบัติของมันกันบ้างดีกว่าค่ะ Gear Fit จะทำงานคล้าย Pebble สมาร์ทวอทช์มากกว่า Galaxy Gear โดยสามารถรับข้อความแจ้งเตือนต่างๆ จากมือถือ แต่ไม่มีไมโครโฟน หรือลำโพง หน้าจอมีความยาว 1.84 นิ้ว ซึ่งนอกจากจะแสดงข้อความแจ้งเตือนจากมือถือได้แล้ว มันยังสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจ และจำนวนการก้าวเดินของผู้สวมใส่ได้อีกด้วย
นอกจากจะออก Gear Fit มาแล้ว Samsung ยังไม่ลืมที่จะอัพเดทอุปกรณ์สวมใส่ (wearable) อย่าง Galaxy Gear อีกด้วย เพียงแต่ล่าสุดจะตัดคำว่า Galaxy ออกไป คงเหลือแต่ชื่อ Gear 2 และ Gear 2 Neo สำหรับอุปกรณ์ทั้งสองรุ่นนี้จะทำงานด้วย Tizen OS ของ Samsung แทนที่จะใช้ Android เหมือนกับ Galaxy Gear ซึ่งนั่นเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ไม่ใช้คำว่า Galaxy ในสายผลิตภัณฑ์นี้ ไม่เพียงเท่านั้น การเปิดตัวพร้อมกัน 2 รุ่น ยังเป็นการบอกว่า Samsung รุกทางนี้อย่างเต็มที่ มาดูกันในส่วนของสเปกกันบ้างนะคะ โดย Gear 2 และ Gear 2 Neo จะมีความคล้ายคลึงกันมาก ต่างกันแค่ Gear 2 จะมีกล้อง 2 ล้านพิกเซลที่สามารถบันทึกวิดีโอ HD ได้ ส่วนคุณสมบัติอื่นๆ ทั้งสองรุ่นจะมีหน้าจอขนาด 1.64 นิ้วเป็น Super AMOLED ความละเอียด 320×320 พิกเซล ทำงานด้วยดูอัลคอร์โพรเซสเซอร์ 1GHz หน่วยความจำ 512MB และมีสตอเรจ 4GB แบตเตอรี่ 300mAh ในส่วนของดีไซน์ดูสปอร์ตน่าสวมใส่มากขึ้นค่ะ โดยเฉพาะสีสันมีให้เลือกหลากสีไม่ว่าจะเป็นส้ม ดำ เงิน และทอง ทั้ง Gear 2 และ Gear 2 Neo จะมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ และแอพที่ช่วยดูแลสุขภาพของผู้สวมใส่ให้ Fit & Firm จริงๆ ค่ะ ซึ่งก็น่าจะเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของอุปกรณ์สวมใส่สมัยใหม่ที่ต้องใส่ใจสุขภาพของผู้สวมใส่ไปด้วยนะคะ
[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=oqPtA4hxpK4[/youtube]
via Samsung Channel