Samsung เดินหน้าเต็มตัวกับโปรเจคเกี่ยวกับสุขภาพ ด้วยการเปิดตัว SIMBAND และ SAMI โดยทั้งสองอย่างนี้ชูจุดขายด้วยการเป็นแพลตฟอร์มแบบ open-source
Young Sohn ประธานและผู้บริหารฝ่ายกลยุทธ์ได้ออกมาเปิดงาน พร้อมบอกว่าอุปกรณ์อย่าง Samsung Gear Fit แสดงให้เห็นถึงยุคใหม่ของเซนเวอร์สวมใส่กับร่างกาย ที่หลอมรวมกับอุปกรณ์ต่างๆมากขึ้นจนเราสังเกตไม่เห็น
จากข้อมูลของซัมซุงพบว่าคนมากกว่า 70% มักจะเสียชีวิตจากโรคเรื้อรัง ใช้เงินค่ารักษาทั่วโลกรวมกันแล้วมากกว่าปีละ 6.5 ล้านล้านดอลล่าร์ นอกจากนี้ต่อไปคนสูงอายุก็จะมีสัดส่วนที่สูงขึ้น ซัมซุงรู้เรื่องนี้ดีเพราะว่าทั้งเกาหลีใต้และญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับปัญหานี้อยู่ คนแก่เยอะแต่อัตราการเกิดน้อยลง
ข้ามมาดูข้อมูลของมือถือกันบ้าง ภายในเวลาแค่ 25 ปีที่ผ่านมา ราคามือถือราคาถูกลงเกือบ 20 เท่า โทรได้นานขึ้น 17 เท่า เบาขึ้น 6 เท่าและชาร์จไฟเร็วขึ้น 10 เท่า แถมทุกวันนี้มือถือยังฉลาดขึ้นทำอะไรได้มากมาย เทคโนโลยีด้านสุขภาพก็พัฒนาไปมากเช่นกัน ทางซัมซุงเองก็ตั้งเป้าหมายย่างท้าทาย ต้องการเอาชนะทุกบริษัทในอุตสาหกรรมทั้งในเรื่องของการผลิตเซนเซอร์ที่เล็กลง, แม่นยำขึ้น, เก็บข้อมูลที่นำไปใช้ประโยชน์ได้, ใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยลง รวมถึงมีความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ใช้
นั่นจึงเป็นที่มาของ SIMBAND ที่ซัมซุงเรียกว่าเป็น “advanced modular platform” มันเป็นโมดูลที่คอยควยคุมระบบจัดการพลังงานและเซนเซอร์ต่างๆ ซึ่งฮาร์ดแวร์ที่ใช้ก็จะเป็นของซัมซุงเอง โดยเค้าตั้งเป้าว่าจะพยายามพัฒนาให้มันมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ
ในส่วนของ SAMI (Samsung Architecture Multimodal Interaction) อันนี้จะเป็นฟากของซอฟท์แวร์ มันจะเป็นโซลูชั่นบนระบบ cloud ที่คอยรับส่งและเก็บข้อมูล ซึ่งใครที่ใช้ S-Health อยู่แล้ว ข้อมูลของคุณก็จะถูกส่งมาที่ SAMI ในด้านของการประมวลผลและนำเสนอข้อมูลทางซัมซุงได้เปิด Digital Health lab จับมือกับหน่วยงานด้านสุขภาพอย่าง imec ของยุโรปและ UCSF นั่นหมายความว่าทีมแพทย์สามารถเข้าถึงข้อมูลอันมหาศาลได้ ทางซัมซุงเองก็สามารถขอคำปรึกษาหรือการวิเคราะห์ข้อมูลจากแพทย์ที่ดีที่สุดในโลกได้
ทั้หงมดนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น นอกจากนั้นทางซัมซุงเองยังเตรียมเงินกว่า 50 ล้านดอลล่าร์ในการช่วยเหลือพันธมิตรและบริษัท startups ในการพัฒนาอุปกรณืเพื่อสุขภาพรูปแบบใหม่ๆด้วย
[youtube]http://youtu.be/0zW4_0i5aNE[/youtube]VIA Ubergizmo
