หลายหน่วยงานด้านคมนาคมได้ทำการทดสอบการใช้สมาร์ทโฟนขณะขับรถซึ่งมีอัตรายทำให้ละสายตาไปจากท้องถนนจนก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ตอนนี้กระแสอุปกรณ์สวมใส่เริ่มมาแรงขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้ Transport Research Laboratory (TRL) หน่วยงานของอังกฤษออกมาทดสอบว่าใส่นาฬิกาอัจฉริยะขณะขับรถจะให้ผลเป็นอย่างไร
อังกฤษเริ่มตรากฏหมายห้ามใช้มือถือขณะขับรถมาตั้งแต่ปี 2003 ในขณะที่อีกหลายๆประเทสก็มีกฏหมายคล้ายๆกัน แต่อย่างไรก็ตามอุบัติเหตุที่เกิดจากการใช้มือถือขณะขับรถก็ยังเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ
ล่าสุดทาง Transport Research Laboratory (TRL) ได้ทำการทดสอบหลายครั้งจนได้ข้อสรุปว่า นาฬิกาอัจฉริยะนั้นทำให้สมาธิของเราวอกแว่กไปจากท้องถนนมากกว่าสมาร์ทโฟน TRL สรุปว่า คนขับรถใช้เวลาอ่านข้อความบนนาฬิกาจะใช้เวลา 2.52 วินาทีในการรับมือกับเหตุฉุกเฉิน ถือว่ามากกว่าเทียบกับการใช้งานสมาร์ทโฟนจะรับมือกับเหตุฉุกเฉินได้ที่ 1.85 วินาที ส่วนการคุยกับเพื่อนในรถจะอยู่ที่ 0.9 วินาที
การทดสอบครั้งนี้ยังไม่ได้เป็นการทดลองเต็มรูปแบบ รวมถึงการทดสอบครั้งนี้ไม่ได้ระบุยี่ห้อนาฬิกาอัจฉริยะว่าเป็นยี่ห้อไหน แต่ในการการทดสอบนั้นจะอ้างอิงชื่อของ Apple Watch ในตัวอย่างเพื่อเรียกความสนใจเพราะเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดังนั้นการเอ่ยถึงชื่อแบรนด์หรืออุปกรณ์ที่เฉพาะเจาะจงจึงเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรมสักเท่าไหร่ แม้ว่าจะเป็นการดึงให้คนมาให้ความสำคัญเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ประเภทนี้ขณะขับรถ เรายังไม่สามารถสรุปได้ว่า Apple Watch, Android Wear หรือนาฬิกายี่ห้ออื่นๆ อันไหนก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้มาน้อยกว่ากัน
สิ่งที่เราควรให้ความสำคัญคือทำยังไงให้คนใช้อุปกรณ์เหล่านี้เวลาขับรถน้อยลงเพื่อป้องกันการสูญเสียที่จะเกิดขึ้น
VIA Slashgear