Dyson Pure Cool Link
คุณภาพอากาศในบ้านเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้ามไป แค่มี Dyson Pure Cool Link ที่นอกจากจะช่วยให้เย็นสบายแล้ว ยังได้สุขภาพดีเป็นของแถมอีก
สมัยนี้คนห่วงสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องฝุ่นและเชื้อโรคที่เป็นปัญหาของคนเมืองที่ต้องเจอมลพิษอยู่ทุกวัน สิ่งที่ไม่น่าเชื่อเลยก็คือ อากาศภายในบ้านเราอาจจะสูงกว่านอกบ้านซะอีกเพราะอากาศไม่ถ่ายเท สิ่งเหล่านี้ถ้าสะสมนานๆก็จะก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพในระยะยาว ถ้ามีตัวช่วยที่ให้สุขภาพดีขึ้นหลายคงก็คงเลือกใช้แน่นอน วันนี้ Dailygizmo จะมารีวิว Dyson Pure Cool Link พัดลมอัจฉริยะไร้ใบพัดพร้อมเครื่องฟอกอากาศในตัว พร้อมระบบตรวจับสภาพอากาศอัจฉริยะ ทำให้เรารู้คุณภาพอากาศในบ้านได้
จุดเด่นอีกอย่างก็คือ เทคโนโลยี ระบบ 360° Glass HEPA filter สามารถกำจัดสารก่อภูมิแพ้และมลพิษทางอากาศภายในอาคารได้ถึง 99.95% ไม่ว่าจะเป็นเกสรดอกไม้ กลิ่นหรือ ควันต่างๆก็กำจัดได้ แม้แต่ฝุ่นที่มีอนุภาคขนาดเล็กเพียง 0.1 ไมครอนที่ตาเรามองไม่เห็นก็กำจัดได้หมด
เครื่องนี้เหมาะกับใครบ้าง?
- คนที่ป่วยเป็นภูมิแพ้หรือโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ แม้จะไม่ได้ช่วยรักษาให้หายขาด แต่มันจะช่วยกำจัดต้นเหตุต่างๆในอากาศ เพื่อไม่ให้อากาศกำเริบขึ้น
- บ้านที่มีเด็กเล็กๆโดยเฉพาะเด็กแรกเกิดที่ภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรง มีโอกาศรับเชื้อโรคต่างๆเข้าไปได้ง่าย
- ผู้สูงอายุเพราะภูมิคุ้มกันของร่างกายเริ่มทำงานได้น้อยลง ทำให้ไม่สบายได้ง่าย
Dyson Pure Cool Link มีสองขนาดให้เลือกตามความต้องการใช้งาน มาดีไซน์ทรง Tower ที่สวยเก๋ไม่ซ้ำใครเหมาะกับบ้านสมัยใหม่ ตัวเครื่องไม่มีใบพัดแต่ใช้มอเตอร์ตัวเล็กๆแต่ทรงพลัง ซ่อนอยู่ด้านล่างให้กำเนิดแรงลมส่งขึ้นไปที่ช่องด้านบน จึงช่วยตัดปัญหาที่เด็กเล็กๆชอบเล่นซนเอานิ้วไปแหย่ใบพัดได้
ด้านล่างของตัวเครื่องจะเป็นส่วนของมอเตอร์ มีปุ่มกดเปิดปิดและหน้าจอและจอเล็กๆสำหรับแสดงสถานะการทำงานของตัวเครื่อง การสั่งงานจะทำผ่านรีโมทเป็นหลัก โดยด้านบนของตัวเครื่องจะใช้แม่เหล็กยึดสำหรับวางไม่ให้หล่นหาย
ลองมาดูกันดีกว่าว่ารีโมทมีปุ่มทำงานอะไรบ้าง
- ปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง
- โหมด Auto ถ้ามันตรวจพบว่าคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานมันก็จะฟอกอากาศให้อัตโนมัติ
- ควบคุมการไหลเวียนของอากาศ หรือปรับความแรงของลมนั่นเอง ได้ตั้งแต่ 1-10
- โหมดตั้งเวลาปิดอัตโนมัติ ตั้งค่าได้ตั้งแต่ 15 นาทีถึง 9 ชั่วโมง
- โหมดสวิง สำหรับปรับการส่าย
- โหมดการคืนเลือกดหมดนี้เสียงของมอเตอร์ก็จะเบาลง เพื่อไม่ให้ไปรบกวนการนอนค่ะ
นอกจากจะสั่งงานผ่านรีโมทแล้ว เรายังสามารถใช้งานผ่านแอป Dyson Link รองรับทั้ง iOS และ Android
การใช้งานแอป
ก่อนอื่นเราต้องสร้างบัญชีผู้ใช้ขึ้นมาก่อน ด้วยการกรอกชื่อ นามสกุล อีเมลและตั้งรหัสผ่าน เรียบร้อยแล้วก็จะเข้าสู่หน้าเพิ่มอุปกรณ์ กดเครื่องหมายบวก ต่อจากนั้นเลือกประเภทอุปกรณ์ นอกจาก Dyson Pure Cool Link (ในหน้านี้เรายังสามารถเลือกควบคุมหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Dyson Eye 360 องศาได้ด้วย) เสร็จแล้วแอปจะให้เราเชื่อมต่อกับไวไฟในบ้านก่อน ต่อจากนั้นก็ให้กดปุ่มเปิดที่ตัวเครื่องค้างไว้ 5 วินาทีจนสัญญาณไวไฟที่ตัวเครื่องเปลี่ยนเป็นสีเขียว
จากนั้นให้ออกจากแอป เข้าไปที่หน้าการตั้งค่าของมือถือ เข้าไปที่ไวไฟ ทีนี้เราจะเห็นชื่อ Dyson โผล่ขึ้นมา ให้เรากดเข้าไป มันก็จะถามรหัสผ่าน ซึ่งเราสามารถดูได้จากด้านข้างของตัวเครื่องหรือบนปกคู่มือได้เลย รอให้ระบบเชื่อมต่อสักแป๊บก็จะใช้แอปสั่งงานได้เลย
เมื่อเชื่อมต่อเสร็จแอปจะพาเรามาที่หน้า Home ซึ่งเราจะเห็นเป็นกราฟฟิครูปบ้าน แสดงข้อมูลคุณภาพอากาศของห้อง ณ ขณะนั้น ด้านล่างของบ้านจะมีไอคอนอยู่ 2 ไอคอน
- ไอคอนรูปกราฟ : เอาไว้เก็บสถิติได้ทั้งรายวัน รายสัปดาห์ เราเปิดเครื่องใช้งานช่วงไหนบ้าง เปิดเครื่องแต่ละครั้งนานเท่าไหร่ ทำให้เรารู้ว่าคุณภาพของอากาศโดยรวมในห้องเป็นยังไงบ้าง
- ถ้าเรากดไอคอนตรงมุมขวาก็จะเข้า สู่หน้าของรีโมท สำหรับกดสั่งงานเครื่องผ่านมือถือได้ทันที
ถ้าเราเลื่อนหน้าจอลงไปด้านล่างอีกก็จะเจออีก 3 เมนูหลักๆ คือ
Schedule
- ตั้งเวลาเปิดปิดเครื่อง ช่วยให้ประหยัดไฟตอนที่เราไม่ได้ใช้งาน
Product Guide
- แนะนำข้อมูลผลิตภัณฑ์และการใช้งานต่างๆ
Setting การตั้งค่าต่างๆ
- general
- Air Qualify Target ปรับความละเอียดของคุณภาพการกรองได้ 3 ระดับ ใครคนที่ป่วยเป็นภูมิแพ้ก็ปรับ
- Continuous monitoring การดูแลอย่างต่อเนื่อง
- Filter life เช็คอายุการใช้งานของไส้กรอง ว่าใกล้ถึงเวลาเปลี่ยนรึยัง
- Notification ตั้งการเตือนเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนไส้กรอง หรือเครื่องทำงานผิดปกติ
Dyson Pure Cool Link เรียกว่าน่าจะตอบโจทย์กับชีวิตคนเมืองที่ใส่ใจสุขภาพ เพื่อให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เทคโนโลยีอย่างนี้น่าสนับสนุน