Google ลุยดันนักสร้างคอนเท้นท์ ด้วยการดันสารพัดเครื่องมือช่วยเรนเดอร์เนื้อหาใน VR ทำให้การเปลี่ยนรูปหรือคลิปเรากลายเป็น VR ได้ทันที
เครื่องมือตัวแรกเรียกว่า “Instant preview” ซึ่งจะช่วยข้ามขั้นตอนการทำและทดสอบแอป VR ช่วยให้ย่นเวลาไปได้เยอะเลยค่ะ มันประกอบด้วยแอปแอนดรอยด์สำหรับใช้งานบนแว่นตา Daydream พร้อมปลั๊กอินสำหรับ Unity และ Unreal editor รองรับการทำงานสองโหมดคือ
1.Full VR Preview โหมดนี้จะช่วยให้คุณเห็นการเปลี่ยนแปลงต่างๆเหมือนกับเวลาที่คอนเท้นท์ของคุณไปอยู่บนแว่นตา VR ซึ่งแอป Instant Preview บนมือถือนั้นจะส่งข้อมูลท่าทางของศีรษะและข้อมูลการควบคุมไปยังเอนจิ้นเกม โดยจะมีปลั๊กอินทำหน้าที่เรนเดอร์ภาพและเสียงส่งไปยังอุปกรณ์
2.Controller-only โหมดนี้จะช่วยสตรีมเฉพาะการควบคุมเท่านั้นผ่านโปรแกรมแก้ไข ซึ่งจะช่วยให้มือถือไม่ต้องทำงานเต็มที่
ไฮไลต์เด็ดที่เพิ่มเข้ามาก็คือ เครื่องมือชื่อว่า Seurat ที่ช่วยให้นักพัฒนาเกมและหนังททำภาพสามมิติเพื่อนำไปใช้กับแว่นตา VR ได้ง่ายขึ้น (ชื่อนี้ตั้งตามศิลปินชาวฝรั่งเศส) ปกติเรนเดอร์ภาพทีนานเป็นชาติ แต่สุรัตทำงานได้ไวมากบนมือถือ วิธีก็คือจะแบ่งฉาก 3D เป็นส่วนๆเพื่อให้ง่ายต่อการเรนเดอร์ภาพบนมือถือ ซึ่งทาง ILM X LABS ของ Lucasfilm ก็ได้นำเครื่องมือนี้ไปใช้กับภาพยนตร์ Rogue One ด้วย เป้าของกูเกิลคือ มีเครื่องมือและมีแพลตฟอร์มพร้อมบรรจุไอเดีย ให้เกิดขึ้นได้สำเร็จรูป
ข้ามมาดูฝั่ง YOUTUBE กันบ้าง ปีนี้เอาจริงเอาจัง กับคอนเท้นท์ในแว่น VR มีคุณภาพมากขึ้นนะ ทาง Erin Teague ผู้ดูแลด้านผลิตภัณฑ์ด้าน VR TEAM มีเป้าหมายหลักก็คือทำยังไงให้มันธรรมชาติและใช้งานง่าย
ทุกวันนี้ youtube VR มีคลิปจำนวนมากขึ้นทุกวัน เรียกว่าเป็นคอมมิวนิตี้คอนเท้นท์ประเภท 360 แบบ VR มีให้เลือกดูทั้งทั้งกีฬา ดำน้ำ ท่องเที่ยว เรียนรู้ท่องพิพิธภัณฑ์หรือจะเข้าไปสัมผัสกับไดโนเสาร์ผ่านโลกเสมือนจริงก็ได้
อีกฟีเจอร์ที่น่าสนใจก็คือ “co-watching experience.” ตั้งเป้าให้เป็น Social มากขึ้น โดยเปิดให้เราตั้งกลุ่มเข้ามาดูคลิปแบบ 360 องศา ทำการ Sync ข้อมูลเข้าด้วยกัน จากนั้นก็สามารถพูดคุยระหว่างกันได้ผ่าน Voice Chat เหมือนอยู่ตรงหน้า
ทั้งหมดคือความพยายามผลักดันของกูเกิลในปีนี้ เราก็ต้องมาดูต่อว่าจะไปได้ไกลอีกแค่นไหนกันค่ะ