สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นงานใหญ่ระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของฝั่ง SAMSUNG ที่ขนนวัตกรรมใหม่ที่จะวางขายในปีนี้มาโชว์ตัวก่อน พร้อมตอกยำแนวคิด Connected Living เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานเชื่อมต่อกัน พร้อมใส่ความฉลาดของ AI ช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้น
งานนี้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 แล้วซึ่งปีนี้จัดที่เกาะเซ็นโตซ่า ประเทศสิงคโปร์ แน่นอนว่าแนวคิดของปีนี้ก็คือ Connected Living ตอบรับเทรนด์สมาร์ทโฮมที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนวัตกรรมใหม่ๆจะมาเปลี่ยนการใช้ชีวิตให้สะดวกสบายขึ้น ทุกอย่างง่ายขึ้น ช่วยทำอะไรหลายอย่างที่เราทำไม่ได้ ทำให้มีเวลาเหลือไปทำอย่างอื่นได้
อีกเรื่องสำคัญก็คือแพลตฟอร์มต้องพร้อม ซึ่งหัวใจหลักของซัมซุงจะมี SmartThings เอาไว้เชื่อมต่อ ของใช้ในบ้านเข้าด้วยกัน สั่งงานต่อๆกันแบบไร้รอยต่อ ไม่ว่าเราจะอยู่ห้องไหนหรือใช้งานเครื่องใช้อะไรอยู่ ไม่ต้องเดินไปเองให้เสียเวลา
ฉลาดอย่างเดียวไม่พอ ต้องรู้ใจเราด้วย ทางซัมซุงก็ได้ใส่ Bixby มาให้ในเครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ สั่งงานด้วยเสียง ถามข้อมูลหรือสั่งเครื่องใช้ไฟฟ้าตัวอื่นในบ้าน ราวกับมีหัวหน้าแม่บ้านอยู่ข้างๆตัว
มร. ซังชุล ลี (สตีฟ) ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย กล่าวว่า “ซัมซุงเชื่อมั่นว่าไอโอทีมีศักยภาพมากกว่าที่เรามองเห็นและสัมผัส ด้วยการประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์และฟีเจอร์ใหม่ในวันนี้ เป็นการปลดล็อกขีดจำกัดของศักยภาพด้วยไอโอที ให้มีความสะดวกง่ายดายมากขึ้นและสามารถเชื่อมต่อได้อย่างราบรื่นกว่าเดิม โดยเราจะคงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนการสร้างสรรค์นวัตกรรมให้ก้าวหน้าและประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ด้วยการมุ่งเน้นที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และไอโอที พร้อมกับมอบประสบการณ์ใหม่ให้ผู้บริโภคสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ที่เหนือกว่าเดิม”
ลองไปดูไลน์อัพสินค้าใหม่ที่ทางซัมซุงจะเปิดตัวในปีนี้ว่าจะมีทีเด็ดอะไรบ้าง
QLED TV 8K ยกระดับความคมชัด
ในกลุ่มของทีวีนั้น ทางซัมซุงเรียกว่าเป็นผู้นำในตลาดนี้ ด้วยการครองแชมป์ยอดขายอันดับ 1 ทั่วโลกมาต่อเนื่อง 13 ปีติดกัน แถมยังมีรางวัลการันตีด้านวัตกรรมจากหลายสถาบัน
เทรนด์ของทีวีปีนี้เริ่มเปลี่ยนไป คนต้องการทีวีในขนาดที่ใหญ่ขึ้น เมื่อเทียบกับปีที่แล้วทีวีตอ 65 นิ้วนั้นโตขึ้นมากกว่า 50% ส่วนทีวีจอใหญ่กว่า 75 นิ้วนั้น โตถึง 120% เลยทีเดียว จอใหญ่อย่างเดียวไม่พอ การแสดงผลต้องดีตามไปด้วย ไฮไลต์ของปีนี้ก็คือ QLED TV 8K ด้วยความละเอียดของการแสดงผลที่ชัดกว่าทุกจอที่คุณเคยดูมาเลยค่ะ โดยจะมีขนาดจอให้เลือกทั้งหมด 4 ขนาดคือ 65, 75, 82 และ 98 นิ้ว
ชิปประมวลผลที่ใส่มานั้นจะเป็น ควอนตัม โปรเซสเซอร์ มาพร้อมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) แบบเฉพาะของซัมซุง สามารถตรวจจับและปรับความละเอียดของภาพ ตรงไหรไม่ชัดแก้ไขให้ชัด ปรับขอบไม่ให้เป็นแตก กลายเป็นความคมชัดคุณภาพระดับ 8K ซึ่งในงานนี้ โชว์เอาคลิปความละเอียด 480P หรือความละเอียดเทียบเท่ากับ DVD มาเปิดโชว์ผลที่ได้ก็คือ ความคมชัดสมจริง ไม่มีภาพแตกหรือเบลอให้เห็น ซึ่งทางซัมซุงเคลมว่าไม่ว่า source ของภาพจะมาจากที่ไหน เครื่องเล่นมีเดีย, USB หรือจากมือถือ ก็ปรับเป็น 8K ให้หมดเลยค่ะ
เรื่องภาพนั้นคมชัด สีสันสมจริงอยู่แล้ว แถมยังรองรับ HDR 10+ ปรับให้แบบฉากต่อฉากจึงทำให้รายละเอียดภาพ สีสันต่างๆสมจริงยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องเสียงก็ใช้ AI เช่นกัน เอามาช่วยแยกเสียงคนพูด เสียงที่เกิดจากฉากหลัง จากั้นมาปรับคุณภาพให้เหมาะสมกับคอนเทนท์ที่เราดูบนจอ เช่น ถ้าดูข่าวเราก็อยากได้ยินเสียงนักข่าวรายงานให้ชัดเจน หรือเวลาดูหนังแอคชั่นจะเน้นเสียงเพลงประกอบจะเร้าอารมณ์ให้ตื่นเต้นขึ้น
ความพิเศษในปีนี้คือการรองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลายขึ้นสำหรับรับชมคอนเทนท์ ทางซัมซุงถือเป็นแบรนด์แรกที่รองรับ iTunes บนทีวี ใครที่ใช้อุปกรณ์ของ Apple อยู่แล้ว เคยซื้อภาพยนตร์หรือเพลงเอาไว้แล้ว ส่งขึ้นไปเล่นบนจอทีวีได้เลยค่ะ ใครไม่อยากซื้อก็เช่าหนังมาดูได้เช่นกัน นอกจากนั้นยังรองรับ AirPlay 2 ของ Apple ในการทำ Screen Mirroring ส่งภาพบนจอ iPhone, iPad หรือ Mac ไปเล่นบนจอใหญ่ จะได้เห็นชัดๆแบบเต็มตา
ส่วนใครที่มีลำโพงอัจฉริยะอย่าง Google Home หรือ Amazon Alexa นั้นก็สามารถเชื่อมต่อทำงานร่วมกันได้ สั่งงานด้วยเสียงควบคุมอุปกรณ์ต่างๆด้วยเสียงได้สบายๆ
“เมจิค สกรีน” (Magic Screen) ยกระดับทีวีเป็นงานศิลปะ กลมกลืนกับบ้าน
โหมด “เมจิค สกรีน” บนคิวแอลอีดี ทีวีของซัมซุงจะเปลี่ยนจากทีวีให้กลายเป็นของแต่งบ้านที่ขาดไม่ได้ ด้วยการแสดงคอนเทนท์เพื่อการตกแต่ง ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ภาพถ่ายของคุณ หรือแม้กระทั่งการเลียนแบบลวดลายผนังด้านหลัง
แถมยังมีธีมที่หลากหลายให้เราเลือกผู้ใช้ตกแต่งบ้านตามสไตล์ที่ต้องการ ที่เหนือกว่าคือจะใช้เซ็นเซอร์ควบคุมแสงสว่างอัตโนมัติตามสภาพแสงในแต่ละช่วงของวันเพื่อให้ผู้ใช้สัมผัสประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะดูทีวีในช่วงเวลากลางดึกหรือแม้กระทั่งช่วงกลางวันที่มีแสงแดดจ้า
ส่วนคอเพลงเวลาที่ไม่ได้ชมรายการทีวี ก็สามารถซิงค์หน้าจอเมจิค สกรีนให้เข้ากับเพลงที่อยากฟังได้เช่นกัน
“ซัมซุง เดอะเฟรม” (The Frame) ไลฟ์สไตล์ทีวีปี 2019
นวัตกรรมไลฟ์สไตล์ทีวีของซัมซุง มอบประสบการณ์ดุจงานศิลป์ ด้วยดีไซน์ที่กลมกลืนไปกับการแต่งบ้านอย่างเหนือระดับ ผสานเทคโนโลยีกับดีไซน์เข้าไว้ด้วยกันอย่างไร้ที่ติ เมื่อผู้ใช้ไม่ได้ชมรายการทีวีหรือหนัง ฟังก์ชั่นหน้าจอ Art Mode ของ เดอะเฟรม จะเป็นอีกทางเลือกที่ทำหน้าที่เสมือนกรอบสำหรับแสดงภาพตามที่ผู้ใช้ต้องการ โดยมีเซนเซอร์วัดความสว่างของแสงโดยรอบที่ช่วยปรับระดับความสว่างของหน้าจอโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ได้ประสบการณ์การรับชมเหนือระดับ สร้างสรรค์มาเพื่อผู้รักศิลปะอย่างแท้จริง
เดอะ เฟรม จึงเนรมิตให้ทีวีกลายเป็นเหมือนกรอบรูปภาพแขวนหนังได้ในพริบตา ด้วยความละเอียดสูงของการแสดงภาพบนจอคิวแอลอีดี ทำให้ภาพมีสีที่คมชัด สีดำที่เข้มลึก และระดับสีที่ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งช่วยยกระดับประสบการณ์ให้แก่ผู้ใช้ สามารถเพลินเพลินและดื่มด่ำไปกับการรับชมเนื้อหาผ่านหน้าจอคุณภาพพรีเมี่ยมแม้ไม่ได้รับชมรายการทีวี
Bixby โซลูชันเพื่อการเชื่อมต่อภายในบ้าน เพิ่มความง่ายในการใช้ชีวิต
ซัมซุงเน้นย้ำความมุ่งมั่นในการมอบวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและสะดวกยิ่งขึ้นเพื่อผู้บริโภค ด้วยการเปิดตัวไลน์อัพโซลูชันเพื่อการเชื่อมต่อในงานซัมซุง ฟอรัม 2019 ด้วยการพัฒนาบนพื้นฐานของ “นิว บิ๊กซ์บี้” ให้ได้สัมผัสประสบการณ์การใช้ชีวิตที่มีการเชื่อมต่อถึงกันผ่านผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น คิวแอลอีดี ทีวี 8K และตู้เย็นแฟมิลี่ ฮับ 4.0 สั่งงานถึงกันได้ไม่ว่าคุณจะอยู่ห้องไหน
ส่วนการสั่งงานด้วยเสียงก็ทำได้ตั้งแต่กสรควบคุมอุปกรณ์ชิ้นนั้นๆ การถามข้อมูลเรื่องที่อยากรู้ รวมถึงเอาไว้คุยเล่นเป็นเพื่อนแก้เหงาก็ได้
นอกจากนี้ คิวแอลอีดี ทีวี ปี 2019 ยังมาพร้อมคุณสมบัติโดดเด่นของ ‘นิว บิ๊กซ์บี้’ ระบบสั่งงานด้วยเสียง ซึ่งควบคุมดีไวซ์ต่างๆ ด้วยโปรแกรม ‘Universal Guide’ ของซัมซุง ช่วยให้สามารถค้นหารายการที่เหมาะสมกับผู้รับชมอย่างสมบูรณ์แบบ จากการเรียนรู้ถึงการสมัครสมาชิกของผู้ใช้ ลิสต์รายการโปรด ลักษณะอุปนิสัยในการดูทีวี
มาตรฐานใหม่ของการเชื่อมต่อด้วยตู้เย็นแฟมิลี่ ฮับ (Family Hub) เจนเนอเรชั่นใหม่
Family Hub ปี 2019 ยังคงสร้างมาตรฐานใหม่ของการใช้ชีวิตที่มีการเชื่อมต่อด้วยระบบสั่งงานด้วยเสียงของ’นิว บิ๊กซ์บี้’ เพื่อให้ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าในห้องครัวและอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้มีเวลาทำสิ่งต่างๆ ที่มีความสำคัญได้มากขึ้น เจ้าของบ้านยุคใหม่มองหาเทคโนโลยีที่จะกำหนดตัวตนและแนวทางการใช้ชีวิตของพวกเขา จึงไม่มีพื้นที่อื่นใดในบ้านที่จะเหมาะสมกับการใช้เทคโนโลยีมากไปกว่าห้องครัวที่มีการเชื่อมต่อ
Family Hub อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และไอโอที (IoT) ที่เหนือระดับ รวมถึงแฟมิลี่ บอร์ด (Family Board) หน้าจออัจฉริยะที่สมาชิกครอบครัวสามารถควบคุมสั่งงานได้ตามความต้องการของแต่ละคน ตู้เย็นแฟมิลี่ ฮับ ช่วยผูกสัมพันธ์ภายในครอบครัวด้วยการส่งข้อความหรือตารางนัดหมายไปโชว์บนจอ ใครไปไหนมาไหนรู้ได้หมด
ด้านในมีการติดตั้งกล้องเอาไว้สำหรับส่องดูของที่เก็บไว้ ไม่ต้องเปิดฝาตู้ในเปลืองไฟ เวลาอยู่นอกบ้านก็ส่องดูได้ผ่านมือถือรู้ว่าขาดเหลืออะไรจะได้ซื้อเข้าบ้านได้ถูก หรือจะสร้างรายชื่อของที่ซื้อเอาไว้ก่อนก็ได้ เวลาอยู่ในซุเปอร์เรียกดูผ่านแอป ว่าต้องซื้ออะไรบ้าง รับรองไม่ตกหล่น
บนหน้าจอมีแอป SmartThings สำหรับสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆในบ้าน เช่น หลอดไฟ ทีวี เครื่องซักผ้า เอาไว้เช็คสถานการทำงานได้ด้วย หรือจะสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Bixby ผ่านไมโครโฟนที่อยู่ด้านบนก็สะดวกไปอีกขั้น
อยู่ในครัวเบื่อๆก็ใช้จอสร้างความบันเทิง เปิดดูคลิปวิดีโอ ฟังเพลงหรือส่งภาพจากจอมือถือหรือทีวีมาดูบนตู้เย็นได้ด้วย จะล้ำไปไหน เรียกว่ามอบประสบการณ์ที่มีการเชื่อมต่อในบ้านเข้ากับโลกสมัยใหม่ในยุคปัจจุบันที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว
เทคโนโลยีควิกไดรฟ์ (QuickDrive) ย่นเวลาซักผ้าให้เร็วขึ้น
ซัมซุงปฏิวัติการนำเสนอนวัตกรรมเครื่องซักผ้ารุ่น WW7800M ที่มาพร้อมเทคโนโลยี QuickDrive™ แบบเฉพาะของซัมซุง ที่เพิ่มศักยภาพการซักผ้าให้รวดเร็วยิ่งขึ้นและเพิ่มความชาญฉลาดในการทำงาน ด้วยระบบผู้ช่วยซักผ้าอัจฉริยะ Q-rator ที่ขจัดการคาดเดาระหว่างการซักผ้าเพื่อช่วยผู้บริโภคลดระยะเวลาการซักผ้ากองโตลงได้มากถึงครึ่งหนึ่ง โดยในโหมด Super Speed การซักผ้าประจำวันจะเสร็จสิ้นภายในเวลาเพียง 39 นาที มอบโซลูชั่นส์ที่ช่วยให้ผู้บริโภคประหยัดเวลาอย่างที่ต้องการแต่ไม่เคยทำได้มาก่อนโดยยังคงรักษาประสิทธิภาพการซักผ้า ประหยัดพลังงาน ถนอมเนื้อผ้า และมีความทนทาน
เทคโนโลยี QuickDrive ที่เหนือชั้นของซัมซุงถูกทดสอบโดย Intertek ผู้นำด้านการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าในอุตสาหกรรมต่างๆระดับโลก โดยยืนยันว่าเทคโนโลยี QuickDrive มอบประสิทธิภาพการทำความสะอาดและช่วยถนอมผ้า ในขณะที่ช่วยลดระยะเวลาการซักลงอีกด้วย
เครื่องซักผ้า WW7800M รุ่นใหม่นี้ มาพร้อมเทคโนโลยีที่โดดเด่นของซัมซุงอีกมากมาย อาทิ EcoBubble ที่มอบประสิทธิภาพการซักอันทรงพลังด้วยแรงอากาศและน้ำ ทำให้เกิดฟองจากผงซักฟอกที่แทรกซึมเข้าสู่เนื้อผ้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพของผงซักฟอกแม้เป็นการซักผ้าด้วยอุณหภูมิที่ต่ำ รวมถึงนวัตกรรม AddWash ของซัมซุง ให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มผ้าเข้าสู่กระบวนการซักได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเป็นถุงเท้าที่ลืมใส่ลงถังไปจนถึงผ้าเนื้อบาง ที่ต้องใส่ถังซักในภายหลัง อีกทั้งยังสามารถเพิ่มผงซักฟอกหรือน้ำยาปรับผ้านุ่มได้ในภายหลัง ทั้งนี้การผสมผสานเทคโนโลยี Q-rator และ AddWash คือการผนึกกำลังเพื่อยกระดับความสะดวกสบายของผู้ใช้และทำให้กระบวนการซักผ้ามีความเรียบง่ายมากขึ้น
ส่วนไลน์อัพอื่นๆก็มากันครบทั้งทีวี UHD 4K, เครื่องปรับอากาศ Wind-Free, เครื่องฟอกอากาศ, เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย POWERStick และหุ่นยนต์ดูดฝุ่น PowerBot ซึ่งสินค้ารุ่นใหม่นั้นจะเริ่มวางขายในไทยตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไปค่ะ