ท่ามกลางความวิตกกังวล และหวั่นใจ ของผู้ใช้ดีไวซ์ ของหัวเว่ยว่าจะสามารถใช้ Google Mobile Services ได้อีกหรือไม่ในอนาคต ?
แต่ท่าทีของ เหริน เจิ้งเฟย ในวัย 75 ปี ผู้ก่อตั้ง และประธานคณะกรรมการบริหารของ หัวเว่ย ดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้านต่อกรณีดังกล่าว โดยจากบทสัมภาษณ์ล่าสุดของเค้าต่อ ซีเอ็นเอ็น ระบุว่า หากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ ยังไม่อนุญาติให้กูเกิลกลับมาทำธุรกิจกับหัวเว่ย เทคโนโลยี บริษัทก็จะเร่งเอาระบบของตัวเองมาใช้แทน
“ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เราจะสร้างระบบที่จะใช้ร่วมกันทั่วโลกเองได้สำเร็จ”
แม้จะแสดงความมั่นใจในศักยภาพของบริษัทตน แต่นายเหริน ก็ไม่ได้เบาใจต่อปัญหาสงครามการค้าซะทีเดียว เค้าแสดงท่าทีต่อรัฐบาลสหรัฐว่าอยากให้ พักเรื่องการเมืองไว้ และคำนึงถึงประโยชน์ของบริษัทอเมริกันเป็นหลัก เพราะเชื่อว่าการที่ทุกประเทศเกื้อหนุนกัน จะเพื่อประโยชน์แก่ทุกฝ่าย
“สหรัฐฯ เป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ หัวเว่ยได้เรียนรู้มากมายจากความสำเร็จของสหรัฐ และเรายังคงเคารพพวกเค้า แต่เพื่อความอยู่รอด หากบริษัทสหรัฐ ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำธุรกิจกับเรา เราก็มีทางเลือกอื่น และหากเราพบว่าทางเลือกใหม่แข็งแกร่งพอ และไว้วางใจได้ เราอาจจะไม่กลับไปหาบริษัทสหรัฐแล้วก็เป็นได้” นายเหริน ทั้งขู่ทั้งปลอบอยู่ในที
ทั้งนี้รายงานของ UBS และ Fomalhaut Techno Solutions พบว่า Huawei Mate 30 สมาร์ทโฟนแฟลกชิปรุ่นล่าสุดของหัวเว่ย ไม่ใช้ชิ้นส่วนจากอเมริกาเลย เช่นเดียวกับสถานีฐาน 5G อันล้ำสมัยของหัวเว่ย ที่ผลิตโดยปราศจากชิ้นส่วนของสหรัฐได้ถึงเดือนละ 5,000 ชุด
ภาพประกอบจาก huawei.com