เวลาเดินทางไปไหน สิ่งแรกที่หลายคนทำก็คือหยิบมือถือขึ้นมาเปิด Google Maps เพื่อเช็คว่าเส้นทางที่กำลังจะไปรถติดรึไม่ แต่เชื่อรึไม่ว่าตอนนี้มีคนสามารถใช้มือถือแค่  99 เครื่องแฮกเพื่อหลอกระบบของ Google Maps ว่าเส้นทางนั้นรถติดอยู่

Google Maps

Google Maps รู้ได้อย่างไรว่ารถติด?

เคยสงสัยมั้ยค่ะว่าทำไม Google Maps รู้ได้ยังไงว่าถนนเส้นไหนติด เส้นไหนโล่งโชว์ข้อมูลในแอปได้ยังไง เอาข้อมูลมาจากไหน วันนี้จะมาไขข้อสงสัยให้ฟังค่ะ จริงๆแล้วทาง Google ได้รวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่งเข้าไว้ด้วยกันเพื่อบอกสภาพการจราจรตอนนั้นๆในแบบ Real-Time

  1. ข้อมูลจากมือถือเรานี่แหละค่ะ ใครที่ใช้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่เปิด GPS และการแชร์พิกัดเอาไว้ รวมถึงเมื่อเราเปิดใช้งาน Google Maps แอปก็จะส่งข้อมูลกลับไปให้กับ Google ตามการอนุญาตที่เราให้แอปนำข้อมูลของเราไปใช้ได้ อย่างใน Android จะมีการแชร์เรื่องของความเร็ว ทิศทาง จุดที่เราอยู่ไม่ต้องห่วงค่ะข้อมูลที่ส่งกลับไปนั้นจะไม่มีการระบุตัวตน เมื่อนำข้อมูลจากรถคันอื่นๆที่อยู่ใกล้เคียงมารวมกันก็จะบอกข้อมูลของความหนาแน่นบนท้องถนนในช่วงเวลานั้นๆได้ ถ้ารถเคลื่อนตัวช้าก็แสดงว่ารถติดอยู่ เส้นทางใน Google Maps ก็จะกลายเป็นสีแดง เป็นต้น เนื่องจาก Google Maps มีการเก็บข้อมูลการจราจรต่อเนื่องและยาว นานทำให้ฉลาดจนสามารถคาดเดาได้ว่าช่วงเวลาไหนรถใช้เยอะ ช่วงไหนรถน้อยได้อีกด้วย
    Google Maps
  2. ข้อมูลจากแอป Waze ซึ่งแอปนี้เป็นแอปนำทางที่ทาง Google ไปซื้อกิจการมา นำข้อมูลจากผู้ใช้มาประเมินสภาพการจราจร
  3. ในบางประเทศทาง Google จะมีการเชื่อมต่อกับระบบของหน่วยงานที่ดูแลเรื่องจราจร เพื่อดึงข้อมูลมาใช้งาน

แฮก Google Maps ได้มั้ย?

เราพอเห็นการทำงานคร่าวๆของ Google Maps กันไปแล้ว ซึ่งหลักๆข้อมูลที่ใช้มากที่สุดก็คือ ข้อมูลจากสมาร์ทโฟนนั่นเอง ทีนี้ก็เลยมีคนเกิดไอเดียว่าถ้าเอามือถือหลายๆเครื่องมาส่งข้อมูลพิกัดพร้อมกันจะสามารถ “หลอก” ระบบของ Google Maps ได้รึเปล่า

Simon Weckert Google Maps

ทาง Simon Weckert ก็เลยจับเอามือถือจำนวน 99 เครื่องมาติดในรถเข็น พร้อมเปิดระบบนำทางบนแผนที่เอาไว้ จากนั้นก็เดินลากไปตามถนนเส้นต่างๆ ผลก็คือ ระบบของ Google Maps โดนแฮกค่ะ เส้นทางบนแผนที่เปลี่ยนเป็นสีแดงเพราะเข้าใจว่าถนนเส้นนั้นมีผู้ใช้เยอะและมีการเคลื่อนตัวช้า (ก็เดินไปนี่นา) แถมยังมีการแนะนำให้เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแม้ว่าถนนที่กำลังลากรถเข็นอยู่จะโล่งสนิท

ที่น่าขำก็คือถนนเส้นที่โดนหลอกว่ารถกำลังรถติดอยู่ คือถนนเส้นที่อยู่หน้าสำนักงานของ Google ที่เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมันพอดี  การแฮกในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ระบบ Google Maps นั้น ไม่ได้มีระบบป้องกันข้อผิดพลาดซึ่งในอนาคตอาจจะเกิดเหตุการนี้ขึนมาซ้ำได้อีก

ล่าสุดทางตัวแทนของ Google ได้ออกมาตอบกลับเรื่องนี้แล้ว ว่าในการใช้งานทั่วไปนั้นทาง Google ได้ใช้ข้อมูลจากหลายแห่ง เช่น สมาร์ทโฟนจำนวนมากที่เปิดใช้งานแผนที่ในพื้นที่เดียวกันอยู่ รวมถึงข้อมูลจากชุมชนผู้ใช้ Google Maps ในหลายประเทศระบบสามารถแยกแยะได้ว่าเป็นรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ได้ เช่น อินเดีย, อินโดเนียเซีย, อิยิปต์ เพื่อพิสูจน์ว่าถนนเส้นนั้นมีรถติดอยู่ แม้ทาง Google ยังไม่สามารถแยกแยะรถเข็นได้ แต่เรารู้สึกขอบคุณการใช้งานที่สร้างสรรค์ เพื่อช่วยให้เราปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้นต่อไปเรื่อยๆ

VIA 9to5Google