Google เพิ่มโหมดใหม่ Bedtime ให้กับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ช่วยให้ผู้ใช้นอนหลับได้ดีขึ้น

ในงาน Google I/O 2018 ทาง Google ได้เปิดตัวคุณสมบัติ “digital wellbeing” เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ควบคุมเวลาใช้งานมือถือของตัวเองได้ดีขึ้น ในปีต่อมาก็ได้มีการเพิ่มเครื่องมือใหม่ รวมถึงการควบคุมโดยผู้ปกครองมาให้

แม้ในปีนี้จะไม่มีการจัดงานขึ้นเนื่องจากสถานการณ์  COVID-19 แต่ทาง Google ก็ได้เปิดตัวโหมดใหม่ชื่อว่า  ‘Bedtime’ ช่วยให้นอนหลับดีขึ้น เนื่องจากมีการค้นพบว่าผู้คนมีการค้นหาเรื่อง อาการนอนไม่หลับ ในช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคมเพิ่มขึ้น เนื่องจากคนมีความเครียดมากขึ้นจนส่งผลกระทบต่อการนอน

โหมด “Bedtime” นี้ เดิมรู้จักกันในชื่อ “Wind Down” โดยจะทำการปิดเสียงสายโทรเข้า, SMS และการแจ้งเตือนทั้งหมด ส่วนหน้าจอจะปรับเป็นโทนสีขาวดำเพื่อช่วยให้เราลดความสนใจต่อหน้าจอน้อยลง นอกจากนั้นผู้ใช้ยังสามารถปรับการตั้งค่าต่างๆในโหมด Bedtime ได้ด้วย

เริ่มจาก เราสามารถตั้งเวลา Bedtime ได้ เช่น ให้เปิดการทำงานอัตโนมัติเมื่อเสียบสายชาร์จแบตเตอรี รวมถึงเพิ่มโหมด Bedtime ไปยังการตั้งค่าลัดของ Android เพื่อให้เปิด/ปิดการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นเราสามารถหยุดการทำงานของโหมดนี้แบบชั่วคราวได้

ในส่วนของแอป Clock ก็มีการเพิ่มแท็ป Bedtime เข้ามา สามารถตั้งเวลาตื่นและเข้านอนได้, ดูพรีวิวปฏิทินของวันพรุ่งนี้เพื่อให้เราสามารถปรับตารางเวลานอนล่วงหน้าได้ รวมถึงดูจำนวนชั่วโมงที่เรานอนหลับ  นอกจากนั้นเรายังเชื่อมต่อการทำงานกับแอปอย่าง Calm, Spotify, YouTube Music เพื่อช่วยเปิดเพลงเบาๆก่อนนอนเพื่อกล่อมให้หลับได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

ทาง Google ยังแนะนำให้เปิดใช้งาน “Sunrise Alarm” ที่ค่อยๆจะเพิ่มความสว่างของหน้าจอเพื่อให้เราตื่นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยหน้าจอมือถือจะค่อยๆสว่างขึ้นล่วงหน้า 15 นาทีก่อนที่เสียงนาฬิกาปลุกจะดัง เพื่อให้เราตื่นอย่างสดชื่น แถมเรายังสามารถตั้งเพลงโปรดมาเป็นเสียงปลุกได้อีกด้วย

ถ้าหากเราติดตั้ง Digital Wellbeing ลงในเครื่อง มันก็จะทำงานคู่กับโหมด Bedtime สามารถแสดงข้อมูลการนอน รวมถึงแอปไหนบ้างที่เราใช้หลังจากตั้งโหมด Bedtime ไว้แล้ว

สำหรับคนที่อยากใช้งาน ตอนนี้ทาง Google ได้ปล่อยอัปเดตให้กับผู้ใช้สมาร์ตโฟน Pixel ก่อน ส่วนผู้ใช้มือถือแอนดรอยด์แบรนด์อื่นๆจะสามารถใช้งานได้ในช่วงฤดูร้อนนี้

ที่มา Techcrunch