หลังจากที่ Samsung เปิดตัว Galaxy Z Fold 2 5G ไปแล้วเมื่อวานก็ไม่ปล่อยให้แฟนๆชาวไทยรอนาน ด้วยการประกาศเปิดจองสมาร์ตโฟนสุดล้ำกลุ่มแรกของโลกในราคา 69,990 บาท

ตัวเครื่องยังคงใช้ดีไซน์เหมือนรุ่นแรก แต่มีขนาดบางขึ้น จอด้านนอกเพิ่มขนาดให้มีพื้นที่ใช้งานมากขึ้นเป็น 6.2 นิ้ว ขนาดเท่ากับ Galaxy S20 แต่จะมีหน้าจอที่แคบกว่า เวลาพับจอใช้งานมือเดียวถือว่าจับถนัดมือทีเดียว ไม่ต้องกลัวหล่น

ช่องว่างตอนพับก็มีขนาดเล็กลงมา ทำให้ฝุ่นต่างๆเข้าได้น้อยลง พอร์ตด้านล่างตัวเครื่องจะเป็นด้านซ้ายจะเป็นลำโพง ส่วนด้านขวาจะเป็นพอร์ต USB-C

ส่วนขอบจอด้านขวามือจะเป็นปุ่มเพิ่มลดเสียง และปุ่มเปิด/ปิดที่ฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ในปุ่มเดียว ตำแหน่งการสแกนนั้นถือว่าอยู่ในระดับที่พอดีนิ้ว ไม่สูงหรือต่ำเกินไป

เมื่อกางออกมา หน้าจอด้านในมีขนาด 7.6 นิ้ว พร้อมกล้องแบบ Hold In Display ทำให้มีพื้นที่หน้าจอใช้งานมากขึ้น ไม่มีติ่งกล้องมารบกวนการแสดงผลเหมือนรุ่นแรก หน้าจอด้านในรองรับการแสดงผลแบบ Adaptive refresh rate ปรับตามการแสดงผลตามเนื้อหาที่แสดงบนหน้าจอได้ตั้งแต่ 11 Hz – 120 Hz (ส่วนจอด้านนอกจะรองรับแค่ 60Hz เท่านั้น)

ส่วนกล้องหลังให้มา 3 ตัวประกอบด้วย กล้องหลัก เลนส์มุมกว้างพิเศษและเลนส์เทเล ซึ่งทั้งสามตัวนี้มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเท่ากัน ตัวโมดูลกล้องหลังนี้มีความนูนออกมาจากตัวเครื่องเหมือน Galaxy Note 20

ตัวบานพับมีความแข็งแรงขึ้นมาพร้อมโหมดการใช้งานใหม่ทั้งในเรื่องของ Mutitasking ทำงานหลายๆแอปพร้อมกันบนหน้าจอใหญ่

  • หน้าจอรองรับ Multi-action Windows เปิดใช้งานได้ 3 แอปพร้อมกัน
  • เลือกตั้ง App Pair เปิดแอปที่ใช้งานประจำ 3 แอปพร้อมกัน
  • Drag & Drop ไฟล์ระหว่างแอป
  • ปรับเปลี่ยน Layout ได้อย่างอิสระ

และ Flex Mode พับหน้าจอ ปรับองศาตามต้องการใช้งาน ซึ่งตัว UI จะปรับตามให้อัตโนมัติ ฟีเจอร์ที่น่าสนใจก็มี

  • Capture & View แบ่ง 2 หน้าจอโดยจอด้านบนจะเป็นภาพจากกล้อง ส่วนจอด้านล่างจะเป็นรูปจาก Gallery ที่เพิ่งถ่ายไป
  • Dual Preview เห็นภาพจากกล้องพร้อมกันทั้งจอด้านในและด้านนอก ดูภาพได้ก่อนกดชัตเตอร์
  • Auto Framimg ตั้งกล้องถ่ายวิดีโอ ระบบจะปรับเฟรม ซูมเข้า ซูมออกให้อัตโนมัติเมื่อมีคนเข้ามาในเฟรม

ตัวเครื่องที่วางขายในไทยจะมี 2 เฉดสีให้เลือกคือ Mystic Bronze และ Mystic Black  สำหรับคนที่สนใจสามารถสั่งจองได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 13 กันยายนในราคา 69,900 บาท ผ่านทาง Samsung Experience Store,  Samsung.com และเว็บของผู้ให้บริการเครือข่าย โดยจะรับเครื่องได้ 16 กันยายน คนที่ไม่ได้พรีออเดอร์ Galazy Z Fold 2 จะวางขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 กันยายนนี้

ใครที่อยากปรับแต่สีของบานพับนั้นจะต้องสั่งผ่านทางเว็บ Samsung.com เท่านั้นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ส่วนราคาพร้อมแพคเกจรายเดือนผู้ให้บริการเครือข่ายอยู่ที่ 49,900 บาท

สำหรับคนที่สั่งจองล่วงหน้าจะได้รับของแถมเป็นหูฟังไร้สาย Galaxy Buds Live มูลค่า 6,990 บาทโดยจะได้สีเดียวกับตัวเครื่อง และบริการพรีเมียม Galaxy Z Premier Service ประกอบด้วย

  • Galaxy Bultler Gold บริการช่วยเหลือพิเศษตลอด 24 ชั่วโมง ในกรณีที่ไปใช้ศูนย์บริการก็จะมีช่องทางพิเศษและห้องรับรองพิเศษ พร้อมเครื่องสำรองรุ่นเดียวกันขณะรอใช้บริการ รวมถึงบริการรับ-ส่งตรวจเช็กจากช่างผู้ชำนาญถึงที่
  • Samsung Care+ ประกันอุบัติเหตุตัวเครื่อง คุ้มครองเปลี่ยนจอ 1 ครั้งในระยะเวลา 1 ปี พร้อมช่างเทคนิคบริการถึงที่


ส่วนคนที่สนใจคอลเลคชันพิเศษอย่าง Galaxy Z Fold 2 Tom Browne Edition นั้นจะเปิดจองในวันที่ 2 กันยายนนี้ สนนราคาอยู่ที่ 109,900 บาท ซึ่งไทยถือเป็น 1 ใน 7 ประเทศแรกที่เปิดจองคอลเลคชันพิเศษนี้