นอกจากนี้ LINE FRIENDS ยังได้เปิด online store รูปแบบใหม่ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มมิลเลนเนียล และ Gen Z คือ LINE FRIENDS CREATOR เพื่อให้ลูกค้าทั่วโลกสามารถเข้าถึงสินค้าของ LINE FRIENDS ได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ซึ่งจุดเด่นของ LINE FRIENDS CREATOR คือ ลูกค้าสามารถออกแบบสินค้าได้เองตามที่ต้องการโดยไม่ซ้ำกับผู้อื่น บนแพลตฟอร์มออนไลน์ และสินค้าจะถูกผลิต พร้อมส่งตรงถึงมือลูกค้าแต่ละคน2.งาน Collaboration และ ธุรกิจลิขสิทธิ์ (License) : นับว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ต่อยอดจากความแข็งแกร่งของคาแรกเตอร์ โดย LINE FRIENDS จับมือร่วมกับแบรนด์ชั้นนำระดับชาติและระดับโลก ที่มีแนวทางธุรกิจเชื่อมโยงกัน และมีกลุ่มเป้าหมายคือ มิลเลนเนียล และ Gen Z เหมือนกัน เพื่อสร้างสรรค์สินค้าในรูปแบบใหม่ ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับการทำการตลาดได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งธุรกิจลิขสิทธิ์ และ งาน collaboration นี้ทำให้ LINE FRIENDS สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น และในขณะเดียวกันแบรนด์สินค้าที่จับมือร่วมกันนั้น ก็สามารถขยายฐานลูกค้า และเข้าถึงลูกค้ากลุ่มมิลเลนเนียล และ Gen Z ได้มากขึ้นอีกด้วย
โดยที่ผ่านมา LINE FRIENDS ประสบความสำเร็จกับการจับมือร่วมกับแบรนด์ทั้งในระดับ Global และ Local อาทิ แบรนด์เครื่องเขียนจากเยอรมนีอย่าง LAMY , แบรนด์เครื่องเสียงอย่าง Bang & Olufsen และแบรนด์ Xiaomi สมาร์ทโฟนจากประเทศจีน ขณะที่ในประเทศไทยก็ได้มีการจับมือกับพาร์ทเนอร์ที่หลากหลาย ทั้งห้างค้าปลีก กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องประดับ เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า และของใช้อื่น ๆ เช่น 7-Eleven , A.P. Honda, Unilever, DutchMill Group, Jubilee Diamond, BJC เป็นต้น3. Lifestyle Experience : LINE FRIENDS มีความมุ่งมั่นในการขยายสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ๆ ที่เน้น Lifestyle Experience โดยเปิดโอกาสให้พาร์ทเนอร์ในแต่ละประเทศได้เข้าร่วมลงทุน อาทิ คาเฟ่แนวใหม่ ซึ่งเป็นการนำธีม LINE FRIENDS เข้าไปช่วยในการออกแบบตกแต่งร้าน รวมถึงการสร้างสรรค์เมนูต่างๆ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญในเรื่องของไลฟ์สไตล์ของผู้คนในปัจจุบัน โดยจัดพื้นที่ Co-Working space หรือพื้นที่สำหรับแฮ้งเอ้าท์ให้แก่ผู้ใช้บริการ เป็นต้น
