“ส้มหล่น” คำนี้ถ้าพูดในไทยคงสื่อความหมายไปในทางบวก แต่ไม่ใช่กับเทศบาลเมืองเซบิยา ประเทศสเปน ที่ปัญหาส้มหล่นนี้มักเกิดในช่วงฤดูหนาว แล้วมันไม่ใช่แค่ส้มหล่นธรรมดา เพราะจำนวนที่หล่นลงมานั้นมากถึง 5.7 ล้านกิโลกรัม!!
แล้วทำไมไม่เก็บมากินล่ะ ? ก็เพราะว่าส้มชนิดนี้มีรสขม และไม่เป็นที่นิยมของชาวเมือง พื้นถนนจึงเต็มไปด้วยส้มหล่นที่ไม่มีใครต้องการ แถมยังสร้างปัญหาเรื่องกลิ่น ไหนจะอุบัติเหตุจากการที่คนเผลอเดินเหยียบส้มเหล่านี้
นั่นจึงนำไปสู่การคิดแก้ไขปัญหา “ส้มหล่น” ในครั้งนี้ โดยบริษัท Emasesa บริษัทบริหารจัดการน้ำของเทศบาลเมืองเซบิยา ได้คิดโครงการนำร่องเพื่อแก้ปัญหาส้มหล่น โดยได้ทดลองนำส้ม 35,000 กิโลกรัม ไปหมักบ่ม ทำให้เกิดแก๊สชีวภาพอย่างแก๊สมีเทน ที่สามารถนำไปผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ในกระบวนการกรองน้ำให้บริสุทธิ์ ซึ่งก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
โดยแผนการต่อไป คือการนำส้มทั้งหมดในเมืองมาหมักเพื่อให้เป็นพลังงานชีวมวล สำหรับใช้ผลิตไฟฟ้าให้กับระบบกรองน้ำของเมืองทั้งหมด และพลังงานที่เหลือยังสามารถนำไปผลิตไฟฟ้าเพื่อแจกจ่ายให้ครัวเรือนในเมืองเซบิยาได้อีกด้วย
โดยส้ม 1,000 กิโลกรัม สามารถผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้งานเป็นระยะเวลา 1 วัน เพียงพอสำหรับ 5 ครัวเรือน และเมื่อคำนวณส้มที่หล่นลงมากว่า 5.7 ล้านกิโลกรัมนั้น จะสามารถผลิตไฟฟ้าให้ผู้คนในเมืองได้ไม่ต่ำกว่า 28,500 ครัวเรือน หรือคิดเป็น 20% ของครัวเรือนในเมืองเซบิยาเลยทีเดียว
จาก “ส้มหล่น” ที่เคยเป็นปัญหา ก็กลายเป็น “ส้มหล่น” ในทางที่ดี นอกจากจะแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังต่อยอดไปสู่การพัฒนากระบวนการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลในอนาคตได้ด้วย