Facebook ประกาศความร่วมมือกับ Google ในการวางสายเคเบิลใต้ทะเล เพื่อเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ภายใต้ชื่อโครงการ Apricot โดยจะวางสายจากสิงคโปร์ไปยังญี่ปุ่น คาดเปิดใช้งานปี 2024.
รู้หรือไม่ว่าทราฟฟิกอินเทอร์เน็ต 98% ของโลกนั้นเกิดผ่านเคเบิลใต้ทะเล ยิ่งตอนนี้เราใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเปนการเรียนออนไลน์ , Work From Home ดังนั้นการเชื่อมต่อที่ไว้วางใจได้จึงเป็นสิ่งสำคัญในยุคดิจิทัล เพื่อช่วยให้การเชื่อมต่อมีความมั่นคงมากขึ้นทาง Google ประกาศวางสายเคเบิลใต้น้ำเพื่อเชื่อมต่อ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น, เกาะกวม, ฟิลิปปินส์, ไต้หวันและอินโดนีเซีย คาดเปิดให้บริการในปี 2024 ภายใต้ความร่วมมือกับ Facebook
Google เองก็มีการวางสายเคเบิลใต้น้ำในหลายเส้น เช่น Curie, Dunant, Equiano, Firmina และ รวมถึงมีสายเคเบิลแบบ consortium อย่าง JGA, INDIGO และ Havfrue รวมๆแล้ว 18 เส้น นอกจากนั้นยังมีกาีลงทุนวางสายเคเปิลอีก 18 ประเทศทั่วโลก
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Google ได้ประกาศโครงการ Echo ที่ลากเคเบิลใต้ทะเลเชื่อมต่อสิงคโปร์และสหรัฐ (รวมถึงเกาะกวมและอินโดนีเซียด้วย) ซึ่งเคเบิลทั้งสองเส้นนี้จะทำงานเสริมกันและกัน ที่จะช่วยให้ความเร็วเน็ตในภูมิภาคเอเชียเร็วขึ้นส่งเสริมให้ Cloud และบริการดิจิทัลอื่นๆของ Google มีความไว้วางใจได้มากขึ้น แบนด์วิธกว้างขึ้น ความหน่วงน้อยลง ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสหรัฐดีขึ้น เรียกว่าการลงทุนด้านเครือข่ายในครั้งนี้จะส่งผลต่อเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคอย่างเห็นได้ชัด