การรับมือกับโรคระบาดการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกถือเป็นหัวใจสำคัญ หากเรารู้ถึงรูปแบบการใช้ชีวิตของคน การเดินทางของคนก็จะสามารถคาดเดาการแพร่กระจายของเชื้อได้ เอาข้อมูลเหล่านี้มาแปลงเป็นมาตรการหรือนโยบายที่รับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หนึ่งในเครื่องมือที่ทาง Google ปล่อยออกมาเพื่อช่วยเหลือหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลกเพื่อช่วยยับยั้งการระบาดของโควิด-19 คือ  รายงานข้อมูลการเดินทางของบุคคลในชุมชน (Covid-19 Community Mobility Reports) หรือรายงานเชิงลึกเพื่อให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขเข้าใจการเคลื่อนที่ของบุคคลในพื้นที่นั้นๆ ซึ่งเป็นการเก็บข้อมูลมาจากสมาร์ตโฟนที่เปิดการใช้งานประวัติตำแหน่งเอาไว้ซึ่งมีระบบรักษาความปลอดภัยแบบเดียวกับ Google Maps โดยที่ไม่มีการระบุตัวตนของผู้ใช้

ตอนนี้เปิดให้ใช้งานถึง 131 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย โดยข้อมูลนั้นสามารถเลือกดูเป็นรายประเทศแถมยังสามารถโหลดเป็นไฟล์ PDF ได้ด้วย  แต่ข้อมูลของไทยนั้นจะบอกเป็นภาพรวมของทั้งประเทศ ไม่ได้แยกเป็นรัฐหรือเมือง อย่างสหรัฐอเมริกา หรืออินเดีย

หัวใจสำคัญของรายงานนี้คือ การทำความเข้าใจ

1. การเปลี่ยนแปลงในการเคลื่อนที่ของคนในพื้นที่นั้นในแต่ละวัน

2 ผลกระทบทางสังคมต่อกลุ่มประชากรที่ต่างออกไป

3. แนวโน้มการทำกิจกรรมด้านเศรษฐศาสตร์ เช่น การเดินทางไปยังร้านค้า ห้างสรรพสินค้า หรือการใช้งานระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อดูว่าแต่ละช่วงเวลามีคนเข้าใช้งานมากน้อยแค่ไหน เพื่อเอาข้อมูลมาปรับเปลี่ยนนโยบาย เช่น จัดเวลาเปิดปิดให้เหมาะสม หรือช่วงเวลาไหนคนเดินทางมากก็อาจจะเพิ่มปริมาณรถสาธารณะให้มากขึ้น พื้นที่ไหนคนใช้น้อยก็อาจลดจำนวนรถลง เป็นต้น

ข้อมูลทั้งหมดนี้จะช่วยให้ภาครัฐหรือผู้ที่กำหนดนโยบายได้รู้ถึงความเปลี่ยนแปลงและแนวโน้มต่างๆเพื่อนำมาวางแผนหรือนโยบายต่างๆเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดให้ดีขึ้น

ตัวรายงานนั้นจะเป็นกราฟเข้าใจง่าย โดยจะมีการเก็บข้อมูลรายวันเทียบกับข้อมูลพื้นฐาน Base line แสดงให้เห็นว่าคนมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเดินทางอย่างไร แบ่งแยกเป็นหมวดหมู่ 6 ประเภท คือ ร้านค้าปลีกและที่หย่อนใจ, ร้านขายของชำและร้านขายยา, สวนสาธารณะ, สถานีขนส่ง, ที่ทำงาน และที่พักอาศัยเพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจ  ซึ่งข้อมูลของไทยนั้นมีการอัปเดตล่าสุดในวันที่ 4 กันยายน

 

 

จากข้อมูลเราจะเห็นว่าคนเข้าไปใช้งานร้านค้าปลีกและสถานที่หย่อนใจลดลงถึง 19% ในช่วง 24 กรกฎาคมถึง 4 กันยายน  เนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์ล็อกดาวน์จังหวัดพื้นที่สีสีแดง ศูนย์การค้าปิดให้บริการ ส่วนร้านอาหารเองก็ห้ามนั่งทานในร้านต้องสั่งกลับบ้านอย่างเดียว ซึ่งก็ส่งผลให้ประชาชนหันไปใช้บริการร้านสะดวกซื้อ ร้านขายของชำ ตลาดชุมชนแทน ทำให้ยอดการใช้บริการเพิ่มขึ้น 7%

 

ส่วนการใช้งานระบบขนส่งสาธารณะเองก็มีการใช้บริการลดลงถึง 55% ทั้งรถไฟฟ้า รถประจำทาง สถานีรถไฟก็มีคนเข้าไปใช้บริการน้อยลง

มาดูเรื่องของการทำงานกันบ้าง เนื่องจากหลายๆบริษัทให้พนักงาน Work From Home มากขึ้น แต่บางบริษัทก็มีการสลับให้พนักงานบางส่วนเข้าทำงานในออฟิศอยู่ แน่นอนว่าคนเองก็หันมาอยู่บ้านมากขึ้น ซึ่งเราจะเห็นตัวเลขเพิ่มขึ้นถึง 7% เลยทีเดียว

จากข้อมูลเหล่านี้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ เช่น การเพิ่มมาตรการป้องกันวัดอุณหภูมิ รักษาระยะห่างอย่างรัดกุมในสถานที่อย่างร้านขายของชำและร้านขายยาให้มากขึ้น เพราะคนหันไปใช้บริการมากขึ้นนั่นเอง

ทาง Google บอกว่าข้อมูลนั้นจะไม่ได้รายงานแบบ Real-time ซึ่งเขาจะใช้เวลาวิเคราะหข้อมูล 2-3 วันอสำหรับใครที่อยากดูข้อมูลสามารถเข้าไปได้ที่ https://www.google.com/covid19/mobility/