สถานการณ์โควิดทำให้คนหันมาใช้ชีวิตบนออนไลน์มากขึ้นทำให้มีความเสี่ยงมากขึ้น ทั้งการล่อลวงต่างๆ ฟิชชิ่ง ข่าวปลอม อีกหนึ่งภารกิจสำคัญของ Safer with Google คือ การปกป้องผู้ใช้อินเทอร์เน็ตให้มีความปลอดภัยซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของ Google For Thailand จะไม่มีคนไทยถูกทิ้งไว้ด้านหลัง สร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงโลกดิจิทัล
สิ่งที่ Google ให้ความสำคัญคือการเพิ่มการให้ความรู้เพื่อให้ผู้ใช้ได้รู้เท่าทันภัยต่างๆ เพื่อให้ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัยบนออนไลน์ ซึ่งทุกผลิตภัณฑ์นั้นจะออกแบบโดยคำนึงถึงความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัวและผู้ใช้สามารถควบคุมการใช้งานได้ด้วยตัวเอง
ตัวช่วยรักษาความปลอดภัย
Google มีเครื่องมือที่สามารถควบคุมความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยที่หลากหลาย เปิดให้ทุกคนเข้ามาจัดการได้ด้วยตัวเอง
การตรวจสอบความปลอดภัย (Security Checkup) ฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับบัญชี Google เช่น การตรวจสอบอุปกรณืที่ใช้งานบัญชีของเรา การแสดงกิจกรรมต่าง จนไปถึงการเปิดใช้งาน การยืนยันแบบสองขั้นตอน
เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน (Password Manager) ฟีเจอร์สำหรับจัดการรหัสผ่านซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยคุณสร้าง บันทึก และจัดการรหัสผ่านได้อย่างง่ายดายสำหรับทุกบัญชีของคุณบนโลกออนไลน์ ซึ่งช่วยให้บัญชีต่างๆ ปลอดภัยยิ่งขึ้น
การตรวจสอบความเป็นส่วนตัว (Privacy Checkup) ที่สามารถช่วยตรวจสอบความเป็นส่วนตัวและผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าความเป็นส่วนตัวที่เหมาะกับตนเองได้เอง
ประกาศความสำเร็จโครงการ Be Internet Awesome
ก่อนหน้านี้ Google เคยเปิดตัวโครงการ Be Internet Awesome ซึ่งไมยถือเป็นประเทศแรกในเอเชียแปซิฟิกที่ได้รับการแปลให้เป็นภาษาท้องถิ่น คือ ภาษาไทยนั่นเอง ซึ่งโครงการนี้เป็นการให้ความรู้ผ่านเกมออนไลน์เพื่อให้เด็กๆได้เรียนรู้การใช้ชีวิตออนไลน์ได้อย่างปลอดภัย นับตั้งแต่เปิดตัวตอนนี้มีนักเรียนและคุณครูเข้ามาใช้งานถึง 1.5 ล้านคนแล้ว
มาปีนี้ทาง Google ได้ขยายบนเรียนให้ครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงมีการเปิดตัว “Internet Awesome Parents” ซึ่งเป็นชุดวิดีโอ 6 ตอนที่อยู่ภายใต้หลักสูตร Be Internet Awesome โดยเนื้อหาของแต่ละตอนจะเป็นการแนะนำผู้ปกครองให้รู้เท่าทันต่อปัญหาด้านความปลอดภัยบนโลกออนไลน์แบบต่างๆ การเลี้ยงดูบุตรหลานในยุคดิจิทัล และการพูดคุยกันในครอบครัวในส่วนของ Digital Wellbeing เพื่อช่วยในการแบ่งเวลาสำหรับออนไลน์และออฟไลน์ นอกจากนี้ยังครอบคลุมไปถึงการใช้เครื่องมือและแหล่งข้อมูลที่มีประโยชน์เพื่อช่วยให้สมาชิกในครอบครัวท่องโลกออนไลน์ได้อย่างปลอดภัยและควบคุมไลฟ์สไตล์ดิจิทัลได้ดียิ่งขึ้น ได้แก่ แอปพลิเคชัน Family Link ที่สามารถใช้งานได้ฟรีทั้งบน Android และ iOS และ YouTube Kids แอปพลิเคชันที่สร้างแยกขึ้นมาเพื่อให้เด็กๆ สำรวจสิ่งที่ตัวเองสนใจได้อย่างปลอดภัยและง่ายดายยิ่งขึ้น
แจ็คกี้ หวาง Country Director, Google ประเทศไทย กล่าวว่า “ปัจจุบัน คนไทยหลายล้านคนใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Google เพื่อทำกิจกรรมที่หลากหลายในชีวิตประจำวัน ดังนั้น จึงถือเป็นความรับผิดชอบของเราในการปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของทุกคนในทุกผลิตภัณฑ์ที่เราสร้างขึ้น ซึ่งแต่ละผลิตภัณฑ์ได้ถูกออกแบบมาโดยมุ่งเน้นความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย และให้ผู้ใช้งานเป็นผู้ควบคุมการตั้งค่าต่างๆ ได้ด้วยตนเอง นอกจากนี้เรายังเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการให้ความรู้และเสริมสร้างทักษะแก่เด็กไทยด้วยเครื่องมือต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พวกเขาท่องโลกออนไลน์อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น เมื่อต้นปีที่แล้ว เราได้จัดกิจกรรมโรดโชว์ “Be Internet Awesome” ภายใต้การสนับสนุนจากกระทรวงศึกษาธิการ โดยสอนเด็กๆ เกี่ยวกับพื้นฐานสำคัญของการเป็นพลเมืองยุคดิจิทัลและความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ เพื่อให้พวกเขาออกไปท่องโลกออนไลน์ได้อย่างมั่นใจ ไม่เพียงเท่านี้ หลักสูตร Be Internet Awsome ยังมีแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ปกครอง และเกม Interland สำหรับเด็กๆ อีกด้วย ถือเป็นความภูมิใจของเราอย่างยิ่งที่ปัจจุบันมีครูและนักเรียนที่ผ่านการอบรมหลักสูตร “Be Internet Awesome” ของเราไปแล้วถึง 1.5 ล้านคน โดยเมื่อเร็วๆ นี้ เราได้อัปเดตให้ครอบคลุมหัวข้อใหม่ๆ สำหรับครูอาจารย์ด้วยเช่นกัน และวันนี้ เรายังได้เปิดตัวชุดวิดีโอใหม่เรียกว่า “Internet Awesome Parents” เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการให้คำแนะนำแก่พ่อแม่ผู้ปกครองเกี่ยวกับวิธีพูดคุยกับลูกเกี่ยวกับ Digital Wellbeing และเรื่องความปลอดภัยในโลกดิจิทัล และทำความเข้าใจเครื่องมือต่างๆ ที่สามารถนำมาใช้เพื่อช่วยให้สมาชิกในครอบครัวท่องโลกออนไลน์ได้อย่างปลอดภัย”
ด้าน ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า “หลักสูตร Be Internet Awesome ถือว่าเป็นโครงการที่ดีมากที่ทางกระทรวงฯ ได้ทำงานร่วมกับทาง Google ประเทศไทยอย่างใกล้ชิด และร่วมมือกับมูลนิธิครูดีของแผ่นดิน เพื่อทำให้เด็กมีความเข้าใจในเรื่องของความปลอดภัยในโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนที่กระทรวงเองให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง โดยหลักสูตร “Be Internet Awesome” ได้ถูกออกแบบมาเป็น game-based จึงสามารถทำให้เด็กและเยาวชนมีความเข้าใจ เข้าถึงได้ง่าย และไม่น่าเบื่อ ซึ่งนอกจากจะมีประโยชน์แล้วยังช่วยให้เด็กนักเรียนตระหนักได้ว่าอะไรคือสิ่งที่พวกเขาต้องเรียนรู้ และอะไรคือสิ่งที่เหมาะสมสำหรับพวกเขา”