ทางกระทรวงการค้าของสหรัฐได้เพิ่มรายชื่อแปดบริษัทที่ต้องมีกฏห้ามการส่งออกหรือส่งความช่วยเหลือไปที่จีน ในทางด้านของการพัฒนาควอนตั้มคอมพิวเตอร์ โดยให้ข้ออ้างว่ากังวลเรื่องการถอดรหัสข้อมูลลับในการสื่อสาร รวมไปถึงการพัฒนาระบบจับเครื่องบินสอดแนม หรือ ระบบจับเรือดำน้ำ ก่อให้เกิดปัญหาความมั่นคงของชาติได้
รายชื่อบริษัทและบุคคลที่ทางกระทรวงการค้าของสหรัฐได้เพิ่มขึ้นมานั้นรวมไปด้วยบริษัทวิจัยหลายๆบริษัท อย่างเช่น บริษัท QuantumCTek และ ห้องแล็ป Hefei แห่งชาติสำหรับวิทยาศาสตร์ด้านฟิสิกส์ที่ Microscale รวมถึงยังเพิ่มอีกสามบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบริษัท Corad Technology Limited ซึ่งก็เป็นบริษัทที่อยู่ในรายชื่อนี้ตั้งแต่ปี 2019 แล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่เป็นบริษัทที่ทำการวิจัยหรือพัฒนาเกี่ยวกับควอนตั้มคอมพิวเตอร์ แต่ก็ถูกอ้างว่าเป็นบริษัทที่ช่วยสนับสนุนกลุ่มทหารอีรักและสนับสนุนโครงการอวกาศของเกาหลีเหนืออีกด้วย ซึ่งทางสหรัฐถือว่าบริษัท Corad Technology Limited ถูกก่อตั้งขึ้นมาอย่างปลอมๆไว้เพื่อบังหน้างานภารกิจลับๆ
โดยรวมแล้วตอนนี้ในรายชื่อมีทั้งองค์กร และบุคคลแล้วกว่า 27 รายชื่อ รวมถึงอีก 13รายชื่อบุคคลจากปากีสถานว่ากำลังพัฒนาโครงการจรวดขีปนาวุทธนิวเคลียร์อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม มาตราการที่เข้มงวดขึ้นของทางสหรัฐอเมริกานั้นก็ไม่น่าจะทำให้ทหารของจีนหยุดความสนใจในเรื่องควอนตั้มคอมพิวเตอร์สำหรับการใช้ในทางทหารได้ และคาดว่าทางจีนจะทำการวิจัยและศึกษาเรื่องควอนตั้มคอมพิวเตอร์เองอย่างลับๆภายในประเทศต่อไป
การที่สหรัฐอเมริกาสร้างรายชื่อขึ้นมาเพื่อปิดกั้นความช่วยเหลือในเรื่องควอรตั้มคอมพิวเตอร์จากจีนนั้น น่าจะเป็นมาตราการการชลอการพัฒนาระบบควอนตั้มคอมพิวเตอร์ของทางจีนได้เท่านั้น หนำซ้ำมาตราการนี้ก็อาจทำให้จีนทำการศึกษาและวิจัยเรื่องควอนตั้มคอมพิวเตอร์อะ และสามารถพัฒนาได้องเโดยไม่ต้องพึ่งชาติอื่นในที่สุดก็ได้
แม้ว่าตอนนี้เทคโนโลยีของควอนตั้มคอมพิวเตอร์ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นกันอยู่ แต่ด้วยการแข่งขันที่จะเป็นที่หนึ่งในการพัฒนาควอนตั้มคอมพิวเตอร์นั้น สหรัฐก็ได้ใช้มาตราการหลายๆอย่างในการชลอประเทศจีนเพื่อให้ตัวเองยังคงอยู่ในตำแหน่งผู้นำทางด้านควอนตั้มคอมพิวเตอร์ได้ต่ออีกพักนึง