อะโดบีเผยโฉมการอัปเดตสำคัญครั้งใหญ่สำหรับแอพพลิเคชั่นต่างๆ บน Creative Cloud ไม่ว่าจะเป็น Photoshop, Lightroom และ Lightroom Classic โดยนำเสนอฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่สำคัญ รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ สำหรับสมาชิก การอัปเดตล่าสุดนี้ได้ปรับปรุงการแก้ไขและการใช้งาน Photoshop on the web (beta) และใช้ประโยชน์จาก Adobe Sensei AI และ Machine Learning เพื่อขจัดขั้นตอนการทำงานที่ยุ่งยากซับซ้อนสำหรับครีเอทีฟ พร้อมทั้งขยายขั้นตอนการทำงานระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ (เดสก์ท็อป เว็บ และอุปกรณ์มือถือ) สำหรับผู้ใช้ Photoshop และ Lightroom
สก็อต เบลสกี้ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ และรองประธานบริหารของ Adobe Creative Cloud กล่าวว่า “นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI สำหรับเดสก์ท็อป เว็บ และมือถือทำให้เราสามารถสร้างภาพที่ยอดเยี่ยมได้ทุกที่ด้วยความรวดเร็วและง่ายดายจาก Photoshop และ Lightroom เรากำลังเพิ่มความสามารถใหม่ที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่าให้กับ Photoshop on the web อย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงแค่ทำให้การทำงานร่วมกันราบรื่นเท่านั้น แต่ยังช่วยอำนวยความสะดวกในการแก้ไขงานในเบราว์เซอร์อีกด้วย”
นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI และการขยายเวิร์กโฟลว์ใน Photoshop
Neural Filters ใน Photoshop ช่วยให้บุคลากรด้านครีเอทีฟสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI และ Machine Learning ที่ก้าวล้ำ Neural Filters ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดอุปสรรคต่อการสร้างสรรค์ผลงานครีเอทีฟ และนับเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่ได้รับการใช้งานมากที่สุดในโปรแกรม Photoshop โดยช่วยลดขั้นตอนการทำงานที่ยุ่งยากซับซ้อน พร้อมทั้งนำเสนอโซลูชั่นแบบทรานฟอร์เมทีฟสำหรับการแก้ไขและตกแต่งภาพถ่าย จนถึงปัจจุบันบุคลากรด้านครีเอทีฟกว่า 4 ล้านคนนำเอา Neural Filter กว่า 300 ล้านรายการมาใช้ในการสร้างสรรค์ผลงาน
วันนี้อะโดบีได้เผยโฉมฟิลเตอร์ใหม่ นั่นคือ Photo Restoration Neural Filter ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถฟื้นฟูภาพถ่ายเก่าๆ หรือภาพถ่ายที่ได้รับความเสียหายให้กลับมาดูดีอีกครั้ง ด้วยการตรวจจับและกำจัดรอยขีดข่วนและความบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ ภายในเวลาไม่กี่วินาที
นอกจากนั้น อะโดบียังได้นำเสนออัปเดตสำหรับ Photoshop on the web (รุ่นเบต้า) ดังต่อไปนี้:
- ฟีเจอร์การแก้ไขใหม่ๆ เช่น Curves, Refine Edge, Dodge and Burn และ Smart Objects conversion
- การเข้าถึงผ่านเบราว์เซอร์บนอุปกรณ์โมบายล์สำหรับการตรวจทาน และใส่ข้อคิดเห็นที่รวดเร็วและง่ายกว่าเดิม
- เนื้อหาการเรียนรู้และการให้คำแนะนำสำหรับครีเอทีฟและผู้ใช้หน้าใหม่ที่ไม่คุ้นเคยกับ Photoshop มาก่อน
- การปรับปรุงประสิทธิภาพและ UX
ฟีเจอร์ใหม่ที่ทรงพลังสำหรับ Lightroom Ecosystem
อัปเดตล่าสุดสำหรับ Lightroom และ Lightroom Classic มอบฟีเจอร์ใหม่ๆ ด้านการตัดต่อและแก้ไข พร้อมการปรับปรุงเวิร์กโฟลว์ที่ช่วยประหยัดเวลาให้แก่ช่างภาพ โดยฟีเจอร์เพิ่มเติมที่สำคัญมีดังนี้:
- ช่างภาพจะสามารถตัดต่อและแก้ไขคลิปวิดีโอใน Lightroom โดยใช้แถบเลื่อนสำหรับการแก้ไขและค่าพรีเซ็ตแบบเดียวกันกับที่ใช้บนภาพถ่าย (บนเดสก์ท็อปและมือถือ) ซึ่งเขาจะใช้ GPU มาช่วยประมวลผล โดยเครื่องมือต่างๆจะเหมือนกับเครื่องแต่งภาพนิ่งเลยค่ะ ข้อดีก็คือทำให้ใช้งานได้ทันที ไม่ต้องไปเสียเวลาเรียนรู้ว่าเครื่องมืออะไรอยู่ตรงไหนบ้าง แต่งเสร็จแล้วก็สามารถเซฟการตั้งค่าเป็น Preset สำหรับนำไปใช้ต่อไป
- Adaptive Presets ฟีเจอร์ที่หลายคนน่าจะถูกใจก็คือ ความสามารถในการใส่ Preset ลงบางส่วนในภาพ เช่น วัตถุ ท้องฟ้า หรือฉากหลัง ซึ่งเขาจะใช้ AI มาช่วยแยกแยะส่วนที่เราต้องการ แถมยังใช้งานง่ายกดแค่คลิกเดียว ขับเคลื่อนด้วย AI สำหรับการปรับใช้เอฟเฟ็กต์ที่แตกต่างกันให้กับส่วนต่างๆ ของภาพถ่ายใน Lightroom desktop, Lightroom Classic, Adobe Camera Rawถ้าใครคิดไม่ออกว่าจะใส่ Preset อะไรในคลิปวิดีโอดี ทาง Adobe ก็มี AI มาแนะนำ Preset ให้ แต่ข้อจำกัดคือจะเป็นการย้อมสีทั้งคลิปเลย ไม่สามารถย้อมสีเฉพาะช่วงที่ต้องการได้ นอกจากนั้นทาง Adobe ยังใส่เครื่องมือตัดต่อแบบง่ายๆมาให้ นั่นก็คือ Trim ทำให้เราตัดคลิปช่วงหัวและช่วงท้ายที่ต้องการออกไปได้
- การปรับปรุงเวิร์กโฟลว์ที่สำคัญสำหรับการปรับเปลี่ยนระดับของค่าพรีเซ็ตของ Lightroom desktop, mobile, web, Lightroom Classic และการเปรียบเทียบภาพถ่ายแบบวางเคียงข้างกันของ Lightroom destop
- ฟีเจอร์ Auto Red Eye Removal ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ใน Lightroom desktop และ Adobe Camera Raw (ACR)
- ฟีเจอร์ใหม่ Premium Presets ใน Lightroom desktop, mobile, web, Lightroom Classic และAdobe Camera Raw
- การขยายฟีเจอร์ Remix ไปสู่ Lightroom mobile และ web
- เพิ่มความสามารถของ Copy & Paste ในส่วนของการแต่งภาพนิ่งนั้น ทาง Adobe ได้เพิ่มความสามารถของ Copy & Paste เพื่อให้ทำงานได้เร็วขึ้น โดยผู้ใช้สามารถคัดลอก Preset จากภาพที่ต้องการไปวางยังภาพอื่นๆได้หลายภาพพร้อมกัน ช่วยประหยัดเวลาทำงานมากขึ้นซึ่งฟีเจอร์นี้ใช้งานได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์และสมาร์ตโฟน
ราคาและการวางจำหน่าย
Photo Restoration Neural Filter กำลังจะเปิดให้ใช้งานใน Photoshop บนเดสก์ท็อป และพร้อมใช้งานแล้วที่ Photoshop on the web ที่ https://creativecloud.adobe.com/cc/photoshop สำหรับสมาชิกที่สมัครใช้บริการของ Photoshop
รีลีสล่าสุดของ Lightroom และ Lightroom Classic พร้อมใช้งานแล้ว และสามารถดาวน์โหลดผ่านทางแอพ Creative Cloud Desktop ส่วนอัปเดตสำหรับ Lightroom mobile จะเปิดตัวทั่วโลก โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และสามารถดาวน์โหลดได้จาก Apple App Store และ Google Play Store