OnePlus กลับมาจัดงานครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2019 เนื่องจากสถานการณ์โควิด แถมยังเลือกเปิดตัวที่นิวยอร์ก มหานครที่ไม่เคยหลับ ลองไปดูกันว่า  OnePlus 10T 5G รุ่นนี้มีทีเด็ดอะไร น่าใช้บ้าง

สมาร์ตโฟนของ OnePlus พัฒนาโดยอิง 3 แกนหลัก คือ ความเร็วและประสิทธิภาพ ,ถ่ายรูปง่าย , ดีไซน์ที่มีเป้าหมาย รวมถึงเปิดรับฟังความเห็นจากแฟนๆ OnePlus ด้วย

ดีไซน์

OnePlus 10T 5G นั้นได้แรงบันดาลใจจาธรรมชาติ ฝาหลังมีผิวสัมผัสเนื้อทราย ขอบบาง ช่องลำโพงหูฟังด้านบนฝังไว้ที่ขอบจอ

ตัวเครื่องเน้นความเรียบหรู ดูพรีเมียม มี 2 สีให้เลือกคือ สีดำ Moonstone Black  ที่ได้แรงบันดาลใจจากหินภูเขาไฟ ซึ่งเขาเลือกใช้สีแบบด้านเพื่อให้เลอะรอยนิ้วมือได้ยากขึ้น ส่วนอีกสีคือ สีเขียว Jade Green ให้ความรู้สึกเป็นเซรามิกนิดๆ 

หน้าจอ

มาพร้อมหน้าจอ Fluid AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2412 x 1080 พิกเซล ความหนาแน่นของพิกเซลอยู่ที่ 394 ppi  ความสว่างสูงสุดอยู่ที่ 950 Nits ขอบบางอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องอยู่ที่ 93.4%

จอเลือกใช้ LTPO มีอัตรา Touch Response rate อยู่ที่  360Hz ( แต่อัปเกรดด้วยซอฟท์แวร์เพิ่มเป็น 720 Hz ได้) เรียกว่าตอบสนองกับการสัมผัสได้เร็วมาก ไม่มีอาการหน่วงให้เห็น แถมรองรับอัตรารีเฟรชเรตแบบ Adaptive ที่  120Hz ปรับการแสดงผลตามคอนเทนท์เพื่อช่วยประหยัดแบต ส่วนการแสดงผลรองรับ HDR10+ ให้ความลึกของสี 10-bit color แสดงผลได้ 1,000 ล้านสี

สเปกแรง

ชิปประมวผล Snapdragon 8+ Gen1 ที่เรียกว่าเป็นชิปตัวท็อปสุดของฝั่ง Android  ซีพียูเร็วขึ้น 10% GPU ทำงานเร็วขึ้น 30% และประหยัดการใช้พลังงานลงไปอีก 30% 

มาพร้อม หน่วยความจำ UFS 3.1 ความจุสูงสุด 256 GB  และ LPDDR5 โดยรุ่นท็อปให้ RAM 16GB ทำให้สามารถเปิดแอปทำงานเบื้องหลังได้พร้อมกันถึง 35 แอป ทำให้เวลาเราเรียกใช้แอปต่างๆได้รวดเร็วขึ้น

ระบบระบายความร้อนขั้นสูง

สเปกที่ทั้งเร็วและแรงขนาดนี้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความร้อนขณะใช้งาน ซึ่งทาง OnePlus ก็ได้พัฒนาระบบระบายความร้อนแบบใหม่เพื่อให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพนานขึ้น ด้วยการใส่เทคโนโลยี 3D Cooling System 2.0 มาให้ ทำให้เครื่องไม่ร้อนจนเกิดอาการหน่วงในการใช้งาน

เขาออกแบบให้ Vapor Cooling บางลงแต่มีขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าถึง 63.8% ทำให้ครอบคลุมพื้นที่ที่มีความร้อนสูงเกือบ 100% ช่วยกระจายความร้อนได้ดีขึ้น 200% เมื่อมารวมกับวัสดูและการออกแบบชั้นต่างๆใหม่เรียกว่ากระจายความร้อนได้ทั่วทิศทาง  ซึ่งทาง OnePlus เคลมว่าสามารถลดความร้อนได้ 5 องศาเซลเซียสได้ในเวลา 1 นาที เมื่อเทียบกับสมาร์ตโฟนเรือธงแบรนด์อื่นใน 1 ชั่วโมง OnePlus สามารถลดความร้อนได้ดีกว่า 2-3 องศาเมื่อเล่นเกม FPS ที่กราฟิกหนักๆ เรียกว่าตอบโจทย์สายเกมเมอร์สุดๆ

ถ้าระบบระบายความร้อนยังไม่พอ เขายังมีเคสใหม่ Gracier Mat Case สวมช่วยระบายความร้อน ด้วยการดึงไอน้ำในอากาศมาช่วย ทำให้ลดอุณหภูมิได้ 2.3 องศาเซลเซียสได้ในเวลา 1 ชั่วโมง

เท่านั้นยังไม่พอเขายังเอาใจคอเกมด้วยการใส่เทคโนโลยี Hyperboost มาให้เล่นเกมได้อย่างลื่นไหล และมีความเสถียรด้วย AI มาช่วยทำให้เครื่องทำงานได้เสถียร ทั้งเรื่องของรักษาเฟรมเรตให้ใกล้เคียงกับเฟรมเรตสูงสุดแม้จะเล่นเกมต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ แถมยังลดความหน่วงในการสัมผัสด้วยเพิ่มอัตราการสนองการสัมผัสเป็น 1000 Hz พร้อมลดอัตราการดีเลย์ของสัญญาณ

OnePlus 10T 5G  มาพร้อมแบตเตอรี่ 4,800mAh เพิ่ม Battery Cycle จาก 800 ครั้งเป็น 1600 ครั้ง หากเราชาร์จวันละครั้งจะทำให้สามารถใช้งานได้นานถึง 4 ปี จากนั้นความจุแบตเตอรี่ถึงจะลดลงเหลือ 80% รองรับชาร์จเร็ว 150W SuperVOOC ซึ่งเขาใช้แบตเตอรี่แบบ Dual Battery ทำงานคู่กับ Dual Charge Pump สามารถชาร์จ 28% ใน 3 นาที เรีบกว่าชาร์จแค่ 10 นาทีก็ใช้งานได้ทั้งวันแล้ว

ส่วนเรื่องความปลอดภัยหายห่วงเพราะใช้เซนเซอร์กว่า 13 ตัวมาคอยตรวจจับ ไม่ให้เครื่องร้อนเกินไป นอกจากนั้นยังเพิ่มความฉลาดของ AI มาวิเคราะห์การใช้งานของเรา รู้ว่าเราทำอะไรอยู่พร้อมปรับการชาร์จให้เข้ากับการใช้งานและสภาพอากาศของเราอัตโนมัติ แม้ในสภาพหนาวจัดก็ชาร์จได้

การเชื่อมต่อ

การเชื่อมต่อ มีการใช้เสาสัญญาณแบบรอบเครื่อง 360 องศา พร้อมเสริมด้วยเทคโนโลยี Smart Link ช่วยให้อัปโหลด ดาวน์โหลดเร็วขึ้นซึ่งระบบจะช่วยเลือกช่องสัญญาณที่คนใช้งานไม่หนาแน่น

กล้อง

OnePlus 10T 5G มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัวพร้อม แฟลช LED รูปวงแหวน ประกอบด้วย กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ปรับจูนโดย  Hasselblad  เลือกใช้เซนเซอร์รับภาพเป็น Sony IMX766 ขนาด 1/1.5” พร้อม OIS

กล้องตัวที่สองเป็น เลนส์อัลตราไวด์ 8 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 119.9 องศา ส่วนกล้องตัวที่สามเป็นเลนส์มาโครความละเอียด  2 ล้านพิกเซล ถ่ายในระยะใกล้สุดได้ 4 เซนติเมตร เรียกว่าถ่ายของเล็กๆได้สบายๆ ส่วนโหมดถ่ายรูปที่น่าสนใจก็มี

Image Clarity Engine 2.0 ช่วยให้ถ่ายภาพชัดและเร็วขึ้น  ระบบจะถ่ายรูปพร้อมกันหลายรูป จากนั้น AI จะเลือกรูปที่ถ่ายชัดที่สุดพร้อมแต่งรูปปรับสี ความสว่างให้สวยงามโดยที่เราไม่ต้องทำอะไร

Super HDR ปรับภาพให้สวย คมชัด ทั้งวัตถุที่ถ่าย ฉากหน้า ฉากหลัง รวมถึงเงาที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น

Nightscape 2.0 ช่วยให้ถ่ายที่แสงน้อยดีขึ้น ลดเกรน ลด Noise น้อยลง ให้ภาพที่สว่างและคมชัดขึ้น

OxygenOS 13

ส่วนระบบปฏิบัติการนั้นเป็น Android  12 ครอบทับด้วย  OxygenOS 13 ได้แรงบันดาลใจจากน้ำ ที่ไม่มีรูปทรงแต่เคลื่อนที่ได้ลื่นไหล สวยงาม โดยเขาเรียกการออกแบบว่า Aquamorphic Design มีการปรับหน้าตาให้ดูใช้งานง่าย สวยงามขึ้น ปรับปรุง UI ให้เสถียรขึ้น  สีหลักที่ใช้คือ Klein Blue

นอกจากนั้น ปรับแต่งการทำงานของ Zen Mode ให้ใช้งานได้ดีขึ้น (โหมดนี้คล้าย Focus บน iPhone เลือกช่วงเวลางดใช้มือถือ)

เพิ่มฟีเจอร์ที่รองรับ Always On Dispaly มากขึ้น ( เช่น ตัวควบคุมการเล่นเพลง / กราฟิก / นาฬิกาขยับเลื่อนตำแหน่งลงจากด้านบนตามช่วงเวลาของวัน) ซึ่งมาคราวนี้ได้จับมือกับ Spotify ให้สามารถใช้งานบนหน้าจอล็อกสกรีนได้เลย 

ทาง OnePlus ยังจับมือกับ Google ในการใส่ฟีเจอร์ใหม่ เช่น Nearby Share ส่งไฟล์ข้ามอุปกรณืได้ง่ายขึ้น แต่ต้องเป็นอุปกรณ์ที่ล็อกอินบัญชีเดียวกัน  เชื่อมต่ออุปกรณ์ไร้สายได้ง่ายขึ้นผ่าน Fast pair, สลับหูฟังด้วย Audio Switch รวมถึงเพิ่มฟีเจอร์ Spatial Audio ให้เสียงแบบสามมิติ

ราคาและวันวางจำหน่าย

OnePlus 10T 5G จะมีให้เลือก 2 รุ่น คือ RAM 8 GB/128GB ราคา 649 ดอลลาร์ (ราวๆ 23,536 บาท)และรุ่น RAM16 GB/256GB ราคา 749 ดอลลาร์ (ราวๆ 27,162 บาท) ส่วนประเทศไทยนั้นจะเริ่มวางขายในช่วงต้นเดือนกันยายนนี้