สามเดือนสุดท้ายของทุกปี จะเป็นช่วงเวลาที่ผู้จำหน่ายเครื่อง PC มียอดขายราวๆ 45% เทียบกับจำนวนที่ขายได้ตลอดทั้งปี นั่นหมายความว่าถ้าคนซื้อเครื่องมากพอ มันจะเป็นดัชนีชี้วัดกำไรของปีนั้นๆได้เลย นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ยอดขาย PC และแล๊ปท๊อปในไตรมาสสุดท้ายจึงเป็นเรื่องสำคัญ สำหรับผู้บริโภคนี่ก็ถือเป็นข่าวดี เพราะช่วงนี้จะมีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมตลอดช่วงไตรมาสนี้ ยิ่งถ้าซื้อในช่วงเทศกาลคุณอาจจะได้ราคาที่ถูกใจจนคาดไม่ถึงเชียวล่ะ แล้วเทรนด์ตลาดในปีหน้าล่ะ ปีหน้าอาจจะเป็นปีที่เครื่องคอมพิวเตอร์แล๊ปท๊อปจะทยอยกันมาในรูปแบบบางและเบา

สิ่งเปลี่ยนแปลงอย่างแรกของตลาดแล๊ปท๊อปในปี 2012 จะถูกผลักดันโดย Intel และ Microsoft ในการทำตลาดและขายแล๊ปท๊อปในชื่อที่เรียกว่า  ultrabook ถ้าคุณเคยเห็น MacBook Air ของแอปเปิ้ล ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก นั่นแหละรูปแบบของ ultrabook  แล๊ปท๊อปที่มีดีไซน์บางเบาและมีความโฉบเฉี่ยว ทางผู้ผลิตตั้งเป้าว่าโน้ตบุ้คที่ผลิตในปี 2012 ทั้งหมดจะเป็น ultrabook ซะ 40% ตอนนี้ ultrabook ก็เริ่มวางจำหน่ายไปบ้างแล้วจากผู้ผลิตอย่าง Acer กับรุ่น S3 และ Asus กับรุ่น UX31 สนนราคาขายก็อยู่ระหว่าง 899 – 1299$ (27,000 – 39,000 บาท) แต่วันนี้มันยังไม่ใช่สินค้าในกระแสหลักที่เน้นกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญเรื่องราคาถูก

โดยคำนิยามแล้ว ultrabook จะต้องมีความบางเป็นพิเศษ หนักน้อยกว่า 3 ปอนด์ แต่มีความสามารถในการประมวลผลเทียบเท่ากับแล๊ปท๊อปตัวใหญ่ๆ และแบตเตอรี่ต้องใช้งานได้อย่างน้อย 5 ชั่วโมง แต่ข่าวร้ายก็คือ การที่ผู้ผลิตจะผลักดันให้ ultrabook เป็นสินค้ากระแสหลักในราคาที่ต่ำกว่า 699$ (21,000 บาท) ภายในกลางปีหน้า นั่นหมายความว่าแล๊ปท๊อปที่ขายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีกลายเป็นของตกรุ่นไปอย่างรวดเร็ว  แม้ว่ามันจะยังทำงานได้ดีไปอีก 3-4 ปีข้างหน้า หรือถ้าใครยังไม่รีบใช้ อดใจรอได้ไหวถึง 6 เดือน ตอนนั้นคุณอาจจะได้ของดีในราคาที่เป็นมิตรค่ะ

ประการที่สอง ด้วยดีไซน์แบบใหม่อาจจะทำให้สั่นสะเทือนอุตสาหกรรมพีซีด้วยสิ่งที่เรียกว่า hybrid laptop แล๊ปท๊อปที่มีความบางเป็นพิเศษ แต่ส่วนของหน้าจอสามารถถอดออกมาใช้งานเป็นแท๊ปเล็ตแบบพกพาได้ เรียกว่าผสมผสานแล๊ปท๊อปกับแท๊ปเล็ตเข้าด้วยกัน แต่คุณอาจจะยังไม่เห็นดีไซน์แบบนี้จนกว่าทางไมโครซอฟท์จะเปิดตัวแท๊ปเล็ต Windows 8 อย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2012

เครื่องลูกผสมแบบนี้น่าจะได้รับความนิยมไม่ยาก เวลาที่ใช้งานเป็นแล๊ปท๊อปเครื่องจะใช้ระบบปฎิบัติการ Windows 7 หรือ Windows 8 ด้วย Metro Touch อินเตอร์เฟซแบบใหม่ แต่เมื่อนำมาใช้งานแบบแท๊ปเล็ตมันจะใช้อินเตอร์เฟซของ Windows 8 ข้อดีของมันก็คือ ผู้ใช้สามารถรันแอพทั้งหมดของ Windows ได้ในทั้งสองโหมด

บนแท๊ปเล็ต Windows 8 โปรแกรมเก่าๆของ Windows อาจจะไม่ได้รับประโยชน์จาก Metro Touch อินเตอร์เฟซ ในกรณีผู้ใช้อาจจะต้องใช้สไตลัสในการสั่งงานโปรแกรมเก่าๆแทนการจิ้มจอ แต่อย่างไรก็ตามทางไมโครซอฟท์ก็พยายามผลักดันให้นักพัฒนาสร้างโปรแกรมใหม่ๆที่ใช้ประโยชน์จาก Metro Touch UI เพื่อสร้างระบบนิเวศของซอฟท์แวร์เต็มรูปแบบ ซึ่งนี่อาจะเริ่มเห็นในช่วงไตรมาสที่สี่ของปี 2012

แต่ก็ยังมีอีกผลิตภัณฑ์นึงที่น่าจะยังอยู่นั่นคือ netbook แม้ว่าเมื่อสามปีก่อน netbook ได้รับความนิยมมาก จนการเข้ามาของแท๊ปเล็ตทำให้มันเสื่อมความนิยมลงไปเรื่อยๆ แต่ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าคนก็ยังมีความต้องการแล๊ปท๊อปที่มีน้ำหนักเบาและราคาถูก โดยเฉพาะเพื่อใช้ในการศึกษาที่คนใช้แค่เล่นเวปหรือใช้แค่แอพพื้นฐานเท่านั้น ดังนั้นในช่วงปลายๆปี คุณอาจจะได้เห็นแล๊ปท๊อปอย่างน้อยๆ 3 ตัวที่มีหน้าตาใกล้เคียงกับ MacBook Air ขนาด 11 นิ้ว แต่ราคาจะอยู่ในช่วง 269 – 375$ เท่านั้น โดยมันจะมีซีพียูที่ช้ากว่าและหน่วยเก็บข้อมูลที่น้อยกว่า แต่สามารถใช้เข้าเวปได้อย่างยอดเยี่ยม และหลายๆตัวอาจมีแนวโน้มว่าจะใส่ระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์มาให้ด้วยซ้ำ

ในปี 2012 ultrabook และ hybrid ultrabook จะช่วยทำให้ตลาดแล๊ปท๊อปมีสีสันมากขึ้น ไม่เพียงแต่ทรงประสิทธิภาพและทำงานได้ดียิ่งขึ้น แต่ดีไซน์ของหลายๆตัวอาจจะทำแตกต่างไปจากแล๊ปท๊อปที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน และนี่อาจจะเป็นตัวกำหนดมาตรฐานดีไชน์ใหม่ๆให้กับแล๊ปท๊อปในยุคอนาคตก็ได้ค่ะ

VIA techland