ยอดผู้ใช้เฟซบุ้คในตลาดใหญ่ๆในแต่ละเดือนหายไปหลายล้าน เพราะคนเริ่มหันไปใช้สื่อสังตมออนไลน์ตัวอื่นที่น่าสนใจกว่า

เฟซบุ้คเตรียมแถลงผลประกอบการไตรมาสแรกของปีนี้ นักวิเคราะห์คาดว่ารายได้น่าจะเพิ่มขึ้น 36% หลังจากที่ไปยึดหัวหาดในอเมริกา, อังกฤษและประเทศใหญ่ๆในยุโรปได้

เฟซบุ้คมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วในแถบอเมริกาใต้และอินเดีย แต่ในประเทศที่พัฒนาแล้วถือว่ายอดผู้ใช้ถึงจุดพีคแล้วและตอนนี้ก็เริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง จากการสำรวจของ SocialBakers พบว่าในเดือนที่ผ่านมาคนอเมริกันเข้าเฟซบุ้คลดลงถึง 4% (หายไป 6 ล้านคน) ส่วนอังกฤษก็หายไปอีก 4.5% ( 1.4 ล้านคน) ซึ่งตัวเลขนี้ลงลงอย่างต่อเนื่อง เรียกว่าในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา คนที่ไม่เข้าเฟซบุ้คในอเมริกาเกือบเดือนละ 9 ล้านคน อังกฤษอีกเดือนละ 2 ล้านคน ส่วนผู้ใช้ในแคนาดา, สเปน, ฝรั่งเศส, เยอรมันและญี่ปุ่นก็เข้าใช้งานน้อยลงเช่นกัน

เมื่อมาดูเวลาเฉลี่ยที่คนเข้ามาใช้งานเฟซบุ้คก็พบว่าลดลงเช่นกัน จากข้อมูลในเดือนธันวาคม 2012 เดิมคนใช้เวลากับเฟซบุ้คเฉลี่ย 121 นาทีต่อวัน ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาลดลงเหลือ 115 นาทีต่อวัน

ปัจจัยส่วนหนึ่งเกิดมาจากความเบื่อหน่าย รวมถึงการอยากลองอะไรที่ใหม่ๆจึงหันไปใช้สื่อสังคมออนไลน์ตัวอื่นๆแทนโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น ตัวที่ได้รับความนิยมก็คือ Instagram แอพสำหรับแชร์รูปถ่ายที่มีผู้ใช้ทะลุ 30 ล้านคนภายใน 18 เดือนก่อนที่เฟซบุ้คจะมาซื้อกิจการไปเมื่อปีก่อน แอพนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่วัยรุ่น แอพที่สองคือ Path ที่พัฒนาโดยอดีตพนักงานของเฟซบุ้ค แอพนี้จะคล้ายเฟซบุ้คและจำกัดเพื่อนไว้ที่ 150 คน

VIA gardian