เวลาคุณกดไลค์อะไรบนหน้าเฟสบุ้คก็จะเป็นการบอกว่าคุณชอบสิ่งนั้นๆ เวลามีอะไรใหม่ๆที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณชอบก็จะปรากฎบนหน้าฟีด

นอกจากเรื่องราวต่างๆแล้ว ยังมี “Suggested Post” หรือโฆษณาจากเฟสบุ้คโผล่ขึ้นมาแทรกในหน้าฟีดด้วย ซึ่งหลายๆคนก็เผลอไปกดไลค์เพราะนึกว่าเป็นสิ่งที่เพื่อนเราโพสต์ ยิ่งเรากดไลค์มากๆโพสต์เหล่านี้ก็จะโผล่ขึ้นมาบนหน้าวอลของเราเยอะขึ้น

สิ่งเหล่านี้กำลังจะทำให้หน้าเฟซบุ้คกลายเป็นเว็บค้าขาย มากกว่าสื่อสังคมออนไลน์ นั่นจึงเป็นที่มาของโฆษณารูปแบบใหม่ ทางบริษัท start-up ชื่อว่า Social Rebate ที่ให้เงินคืนกับคนที่ซื้อของเพียงแค่โพสต์สินค้าที่ซื้อไปบนเฟซบุ้คเท่านั้น สมมตว่าซื้อของ $75 เมื่อโพสต์รูปก็จะได้เงินคืน $15 ทางบริษัทได้เริ่มส่งอีเมลโปรโมทโดยใช้ชื่อว่า “อย่ากด Like ถ้าไม่ได้ตังค์” ด้วยวิธีนี้จะทำให้ได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย โดยลูกค้าจะได้เงินคืนบางส่วนจากการซื้อสินค้า ส่วนเจ้าของผลิตภัณฑ์ก็ได้โฆษณาสินค้าหรือบริการด้วยวิธีที่เป็นมิตรกว่าเดิม”

บริการของ Social Rebate ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มีอัตราการคลิกไลค์หลายล้านครั้ง ทางร้านค้าก็ไม่มีความเสี่ยงมาก จ่ายเงินให้เฉพาะคนที่ซื้อสินค้าจริงและโพสต์รูปลงเฟสบุ้คเท่านั้น หรือทางการตลาดเรียกว่า cost-per-action ร้านค้าที่เข้าร่วมจะทำการฝัง Social Rebate เข้าไปกับระบบจ่ายเงิน เพื่อยื่นข้อเสนอเงินคืนให้กับลูกค้ากับคนที่สนใจเข้าร่วม ถ้าตกลงขั้นตอนสุดท้ายหลังจ่ายเงินก็จะเป็นการส่งข้อความไปโพสต์บนเฟสบุ้ค, ทวิตเตอร์, Google+, Pinterest หรือ LinkedIn บริษัทที่เข้าร่วมโครงการนี้แล้วก็มี Shopify, Magento, Etsy และเว็บ e-commerce อีก 5 ราย

แต่ในระยะยาวแล้วก็ไม่รู้ว่ามันจะเวิร์คแค่ไหน เพราะวิธีนี้ใช้หลักการบอกต่อแบบปากต่อปากโดยใช้เงินเป็นสิ่งจูงใจ แต่การบอกต่อที่ให้ประสิทธิภาพดีที่สุดก็คือการบออกออกมาจากใจ ไม่มีผลประโยชน์มาเกี่ยวข้องค่ะ

VIA venturebeat