จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อซี พกกล้องพก OMD E-M10 Mark II ไปเที่ยวเมือง Okayama ประเทศญี่ปุ่น ไปลองใช้งานจริงกันค่ะ
ทุกวันนี้การถ่ายรูปได้กลายเป็นส่วนนึงของ Life Style ของเราทุกคน ตั้งแต่กล้อง DSLR มือโปรตัวใหญ่ไปจนถึงกล้องมือถือ แต่ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒาไวขึ้น รวมถึงความต้องการกล้องขนาดเล็กแต่ประสิทธิภาพไม่แพ้กล้อง DSLR จึงทำให้ กล้องตระกูล Mirrorless ได้รับความนิยมกันอย่างล้นหลาม ด้วยขนาดเล็ก พกพาง่าย เปลี่ยนเลนส์ได้อย่างมากมายทุกระยะ และคุณภาพที่เบียดใด้ใกล้เคียงพี่ ใหญ่อย่างกล้อง DSLR ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ถ้าพูดถึงกล้อง Mirrorless ก็คงจะต้องนึกถึงกล้อง Olympus เป็นอันดับต้นๆ ด้วยดีไซน์แนวเรโทรย้อนยุค ถือไปไหนต่อไหนก็โดดเด่นสะดุดตาส่วนขนาดกะทัดรัดพอดีมือสาวๆอย่างเรา แต่ให้คุณภาพที่ใหญ่เกินตัวจริงๆทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ เรียกว่าพกไปเที่ยวสบายๆไม่ต้องแบกน้ำหนักมากๆให้ปวดคอ
เมื่อเดือนก่อนทาง Olympus ได้เปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ล่าสุด Olympus OMD E-M10 Mark II แถมยังใจดีส่งมาให้ซีรีวิวด้วย งานนี้ซีเลยขอเอาติดตัวไปเที่ยวญี่ปุ่น ทดสอบความสามารถสักหน่อย วิวสวยๆน่าจะมีให้ถ่ายเพียบเลยค่ะ
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ Olympus OMD E-M10 Mark II ซึ่งรุ่นนี้เป็นรุ่นที่สองแล้ว หลังจากที่รุ่นแรกได้รับการตอบรับที่ดีพอสมควร โดยซีรีย์ OMD จะแบ่งเป็พี่ใหญ่ OMD E-M1 , พี่กลาง E-M5 และน้องเล็ก E-M10
สเปคของรุ่นนี้มา พร้อมเซนเซอร์ขนาด 16 ล้านพิกเซล ถึงแม้จะเป็นกล้องรุ่นเล็กแต่ประสิทธิภาพต้องบอกว่าแน่นมาก เป็นกล้องที่ย่อขนาดจากรุ่นพี่มาให้เล็ก และเบาลง แต่ปุ่มการตั้งค่าทุกอย่างยังคงมีขนาดใหญ่ใช้งานง่ายปรับได้สะดวกไม่ต่างจากกล้องรุ่นพี่เลย แถมรุ่นนี้ยังได้รับพัฒนาระบบกันสั่นจาก 3 แกน เป็น 5 แกน เทียบเท่ากับกล้อง OMD รุ่นพี่เป๊ะ ช่วยให้ทั้งการถ่ายภาพและวิดีโอได้นิ่งยึ่งขึ้น ลดโอกาสภาพสั่นหรือภาพเบลอ
ในส่วนของการถ่ายภาพก็ออกแบบมาใครตอบโจทย์ทั้งมือใหม่และมือโปร เริ่มจากระบบโฟกัสที่สาวๆน่าจะชอบกันเพราะใช้งานง่ายสุดๆ นั่นก็คือ Touch AF Shutter เลือกจุดโฟกัสผ่านหน้าจอทัชสกรีนด้านหลัง อยากจะให้ชัดตรงไหนก็เพียงแค่แตะตรงนั้น ไม่ต้องกังวลว่าจะถ่ายแล้วโฟกัสไม่ได้ดังใจ ทั้งง่ายและสะดวกดีทีเดียว
สำหรับการถ่ายภาพคนก็มาพร้อมกับระบบตรวจจับใบหน้าและสิ่งของ โดยกล้องเลื่อนจุดโฟกัสไปตามใบหน้าหรือสิ่งของที่เราได้เลือกไว้แบบอัตโนมัติ ทำให้เราสามารถถ่ายภาพบุคคลหรือสิ่งของได้คมชัดแม้กำลังจะเคลื่อนที่อย่างง่ายดาย ไม่ต้องห่วงเรื่องภาพเบลอหรือจะพลาดช็อตสำคัญๆ
แน่นอนว่า Olympus จะเปิดตัวกล้องตัวใหม่ทั้งที Feature ไม่หมดแค่นี้แน่นอน แต่ยังมาพร้อมกับ Art Filter สวยๆ ที่มีให้เลือกกว่า 20 แบบ และที่ล้ำกว่านั้นเราใช้รวม Art Filter 2 แบบไว้ในภาพเดียวกันได้ด้วย
อีก Feature ที่เรียกได้ว่าเป็นทีเด็ดของกล้องรุ่นนี้เลยคือ Night Portrait Mode ที่สามารถถ่ายได้อย่างคมชัดสวยไม่แพ้ในที่สว่างเลย อย่างภาพที่ซีถ่ายกับปราสาท Okayama ตรงนั้นแทบจะไม่มีแสงเลย แต่สามารถถ่ายภาพได้อย่างสวยงาม ยิ่งใช้งานร่วมกับระบบกันสั่น 5 แกน ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแสงน้อยแค่ไหนก็ไม่ต่องง้อขาตั้งกล้องเลย
อีกหนึ่ง Feature ที่ขาดไม่ได้คือ Wifi ที่สามารถถ่ายภาพและตั้งค่าของกล้องได้บน Smart Phone และซีก็ไม่พลาดที่จะเอารูปสวยๆ จากกล้อง Olympus มาแชร์ใน Social Network เพราะมันสามารถแชร์รูปกับ Smart Phone ได้ง่ายนิดเดียว
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่น้ำจิ้มนะ เพราะ OMD E-M10 Mark II ยังมีทีเด็ดอีกเพียบ ของอย่างนี้ต้องลองใช้งานเองถึงจะรู้ค่ะ นี่ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจทีเดียว