ใครที่ขายของออนไลน์แล้วไม่จ่ายภาษีให้ถูกต้อง ระวังตัวให้ดีเพราะทางสรรพากรเริ่มเอาจริง ตรวจสอบและทำการเรียกเก็บภาษี VAT ย้อนหลังแล้ว
VAT
ล่าสุดมีกระทู้ในเว็บ thaiseoboard ได้มีสมาชิกมาตั้งกระทู้ขอความช่วยเหลือ ว่าโดนสรรพากรเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มย้อนหลังตั้งแต่ปี 56-59 เป็นจำนวนกว่า 5 แสนบาท โดยเจ้าของกระทู้ทำธุรกิจกับเพื่อนโดยนำเข้าของมือสองจากเมืองนอกเข้ามาขายในไทย หลังจากรู้ว่าโดนภาษีจึงทำการปิดเว็บจนเรื่องเงียบไป เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ตามเรื่องให้ไปจด VAT และทำการจ่ายภาษีที่ค้างไว้ ไม่งั้นจะโดนค่าปรับ 2 เท่า แค่ค่าจ่ายเงินล่าช้าเดือนละ 1,000 บาท รวมแล้วต้องจ่ายเป็นเงินกว่าหนึ่งล้านบาท
หลังจากนั้นก็มีสมาชิกอีกหนึ่งคนที่เคยโดนเคสแบบเดียวกันมาให้ความเห็นที่น่าสนใจดังนี้
1. สรรพากรรู้ได้ยังไงว่าคุณไม่จ่ายภาษี?
– ใบหักภาษี ณ ที่จ่าย จากบริษัททั่วไป
– มีทีมสำรวจ โดยตรวจดูจากเว็บไซต์ จากหน้าวิธีชำระเงิน ดูข้อมูลบัญชีธนาคารของร้านนั้น จากนั้นก็ดูฐานข้อมูลผู้เสียภาษีว่าเจ้าของมีการเสียภาษีไหม ถ้าเสียแล้วเสียในจำนวนที่สมเหตุสมผลมั้ย ถ้าจ่ายภาษีน้อยแต่ยอดการส่งของในเว็บเยอะ ก็จะส่งหนังสือเชิญให้มาชี้แจง
– มีทีมล่อซื้อ สำหรับพวกที่คนขายของหัวหมอ ไม่เปิดเว็บ ไม่โชว์หน้าบัญชี ก็จะแฝงตัวมาเจอในรูปแบบลูกค้า มาซื้อของแล้วขอเลขบัญชี
2. เมื่อโดนตรวจสอบแล้ว สรรพากรรู้ได้ยังไงว่าแต่ละร้านมีรายได้เท่าไร?
เมื่อเราได้หนังสือ ทางสรรพากรก็จะให้เจ้าของร้านนำ Statement ย้อนหลัง 5 ปี หรือตั้งแต่เริ่มเปิดร้านไปแสดง จากนั้นเค้านำรายรับทั้งหมด มาบวกรวมกัน ถ้ารายรับทั้งปี เกิน 1,800,000 บาท ก็จะโดนคิด VAT จากรายรับนั้น แต่ที่ทำให้หลายร้านต้องจ่ายภาษีมากกว่าที่เป็นก็คือ ค่าปรับ โดยจะคิดสองส่วนคือ ภาษีบุคคลธรรมดา + ค่าปรับ และ VAT + ค่าปรับ x เท่า สมมุติว่าเรามีรายรับรวมแล้ว 2,000,000 บาท คุณต้องจ่าย 7% หรือ 140,000 บาท ถ้าโดยค่าปรับ 2 เท่า ก็ต้องเสีย 280,000 บาท
3. ถ้าโดนแล้ว จะทำยังไง?
– ปรึกษาผู้รู้จริงครับที่เคยผ่านประสบการณ์เท่านั้น เช่น สำหนักงานบัญชีหรือทนายที่ผ่านคดีแบบนี้มา เพราะจะช่วยแก้ปัญหาได้ตรงจุด
– ถ้าดื้อรั้นไม่ไปหรือไม่ให้ความร่วมมือก็ยาก เพราะคดีภาษีไม่มีหมดอายุความ ถึงจุดนึงสรรพากรยังมีอำนาจขอให้ธนาคาร นำ Statement ทั้งหมดไปให้ได้ มีกี่บัญชีรู้หมด
– ถ้าใครจะผ่อนจ่าย ตามกฎหมายผ่อนได้ 3 งวด พร้อมดอกเบี้ย โดยอาจจะทำเรื่องขอให้ลดเบื้ยปรับลงได้
– ให้ฟ้องล้มละลายไปเลย ก็ได้นะครับ แต่ถ้าพ้นจากบุคคลล้มละลายแล้ว ถ้าสรรพากรพบว่า ท่านมีรายได้ มีทรัพย์สินอื่น ก็ตามฟ้องล้มได้อีกเรื่อยๆ เพราะคดีภาษีไม่มีหมดอายุความ
ในระยะยาวนั้นทางสรรพากร ได้เริ่มทดลองใช้ระบบพร้อมเพย์ ที่ผูกเลขบัญชีเข้ากับบัตรประชาชนหรือเบอร์โทรศัพท์ อีกหน่อยอาจจะตราเป็นกฎหมายบังคับใช้ เพื่อให้รับรู้ว่าแต่ละคนมีธุรกรรมอย่างไรบ้าง ได้เงินมาจากที่ไหน ทีนี้ก็จะเก็บภาษีได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้น เคสนี้ถือเป็นกรณีศึกษาที่อยากให้คนที่ค้าขายออนไลน์ศึกษาไว้เมื่อมีรายได้ ก็ควรเสียภาษีให้ถูกต้องจะได้ไม่มีปัญหาตามมาทีหลังค่ะ
VIA thaiseoboard
