4 ความคิดแบบผิดๆที่ต้องเปลี่ยน เพื่อความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์

Malware

จากเคสที่มัลแวร์เรียกค่าไถ่ระบาด ส่งผลให้ทั่วโลกเริ่มตื่นตัวเรื่องการรักษาความปลอดภัยบนอินเตอร์เน็ต ทุกวันสิ่งทีสำคัญสุดไม่ใช้อุปกรณ์ที่เรากำลังใช้งาน แต่เป็นข้อมูลที่อยู่ในนั้น เพราะบางครั้งถ้าเสียหายไปแล้วไม่สามารถกู้คืนมาได้ ก่อความเสียหายมากกว่าที่คิด นี่ยังไม่รวมถึงข้อมูลส่วนตัวที่เอาไปทำอะไรได้อีกมากมาย

แม้คุณจะอัพเดทระบบปฏิบัติการหรือซอฟท์แวร์ให้เป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดแล้วก็ตาม แต่ถ้าคุณยังมีความเชื่อผิดๆแบบนี้ก็ยังตกอยู่ในภาวะเสี่ยงอยู่ดี เพราะทุกวันนี้มีภัยคุกคามใหม่ๆเกิดขึ้นทุกวันจนคุณตามแทบไม่ทัน

Windows XP

1.โปรแกรมเก่ายังใช้งานได้จะเสียเงินซื้อใหม่ทำไม?

ความคิดนี้ผิดถนัดเลยค่ะ เพราะโปรแกรมต่างๆเองก็มีวันหมดอายุ เพราะมีเทคโนโลยีที่ใหม่กว่าเข้ามาแทนที่ตลอด หมดอายุในที่นี้หมายถึงการที่ผู้พัฒนาหยุดการสนับสนุนทั้งหมด จะไม่มีการอัพเดทฟีเจอร์ใหม่ๆให้แล้ว รวมถึงอัพเดทด้านความปลอดภัยจากบั๊กหรือมัลแวร์ตัวใหม่ๆ แต่เราก็ยังสามารถใช้งานได้อยู่นะ

นั่นหมายความว่า ถ้าหากมีการค้นพบบั๊กหรือช่องโหว่ใหม่ๆก็จะไม่ได้รับการแก้ไขใดๆทั้งสิ้น เปิดทางให้แฮคเกอร์เข้ามาในคอมพิวเตอร์ของเราได้ เราคงไม่โชคดีเหมือเคส WannaCry ที่ทางไมโครซอฟท์ออกมาอัพเดทความปลอดภัยให้ทั้งๆที่หยุดสนับสนุนไปนานกว่า 3 ปีแล้ว

ข้อดีของโปรแกรมเวอร์ชั่นใหม่ๆจะพัฒนาด้วยเทคโนโลยีที่ใหม่กว่า มีความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการอัพเดทอะไรต่างๆก็ทำได้เร็วกว่า

2. ของปลอมก็ใช้ได้เหมือนของแท้

หลายคนของใช้โปรแกรมเถื่อนเพราะเห็นแก่ของถูก ของฟรี ใช้งานได้เหมือนของแท้ จะเสียเงินซื้อทำไม แต่หลายครั้งโปรแกรมเหล่านี้ก็มีมัลแวร์แฝงมาด้วยโดยที่คุณไม่รู้ตัว

นอกจากนั้นทางผู้พัฒนาบางรายใส่ระบบตรวจจับซอฟท์แวร์ของปลอม เพื่อไม่ให้ทำการอัพเดทแพตช์ใหม่ๆได้ ในกรณีที่เค้าปล่อยอัพเดทความปลอดภัยมา ก็ไม่สามารถอัพเดทได้เหมือนโปรแกรมถูกลิขสิทธิ์

windows update

3. อัพเดทไปทำไม เสียเวลา?

หลายคนชอบหงุดหงิดเวลาที่ระบบปฏิบัติการหรือโปรแกรมแจ้งเตือนให้อัพเดท เวลาที่มีแพตช์ใหม่ๆมาให้โหลด หลายคนเลือกปิดการแจ้งเตือนไปเลย แถมไม่ยอดอัพเดทซะด้วยสิ แน่นอนว่าเมื่อภัยคุกคามใหม่ๆ ก็โดนเจาะระบบได้อย่างง่ายดายโดยไม่มีตัวช่วยป้องกัน เพราะฉะนั้น เราควรหมั่นอัพเดทระบบความปลอดภัยในเครื่องให้เป็นนิสัย เสียเวลานิดหน่อยแต่ใช้งานปลอดภัยขึ้นเยอะเลยค่ะ

4.ลงโปรแกรม Anti Virus ทำไมให้หนักเครื่อง?

โปรแกรมแอนตี้ไวรัสนี้จะเปิดการทำงานอยู่ตลอด ทำให้กินทรัพยากรของเครื่อง ส่งผลให้การใช้งานโปรแกรมอื่นๆทำงานอืดขึ้นบ้าง หลายคนเลยตัดสินใจไม่ติดตั้งซะเลย นั่นถือเป็นความคิดที่ผิดค่ะ เพราะแอนตี้ไวรัสจะเป็นตัวคัดกรองด่านแรกเลยว่ามัอะไรผิดปกติที่ต้องการเจาะระบบเข้ามารึเปล่า ถ้าไม่มีภัยร้ายต่างๆก็จะเข้ามาในเครื่องได้ง่ายขึ้น หลายโปรแกรมนั้นทำงานไม่หนักนะ ลองเลือกโปรแกรมที่กินทรัพยากรน้อยๆ ลงติดเครื่องไว้ เพิ่มความอุ่นใจเอาไว้ดีกว่าค่ะ

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ผู้ใช้เองที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังตัวในการใช้งานยังไงให้ปลอดภัย ไม่พาตัวเองไปสุ่มเสี่ยงในการติดไวรัสต่างๆ เช่น ไม่คลิกลิงค์หรือไฟล์แนบแปลกๆที่มาพร้อมกับอีเมลที่เราไม่คุ้น รวมถึงต้องรู้เท่าทันภัยใหม่ๆที่เกิดขึ้น จะได้รับมือได้ทันท่วงที