ใครที่เน็ตยนมือถือหมดเร็วแต่ไม่รู้ว่าใช้งานหมดไปกับอะไรบ้าง ขอแนะนำ Datally แอปที่ช่วยให้คุณเข้าใจการใช้งาน เพื่อคุมการใช้เน็ตให้ ประหยัดขึ้น แถมป้องกันเน็ตรั่ว

Datally

Datally

Google เปิดตัวแอปใหม่ Datally โดยไทย, ฟิลิปปินส์และอินโดนีเชียเป็นกลุ่มประเทศแรกในโลกที่ได้ใช้แอปนี้ โดยตั้งเป้าว่าแอปนี้จะกลายเป็น Next Billion Users หรือแอปที่มีผู้ใช้งานทั่วโลกทะลุ 1,000 ล้านคน ซึ่งตอนนี้ก็มี 7 บริการของกูเกิลที่ทำได้แล้วนั่นก็คือ Google Search ,Gmail , Chrome, Play Store, Google Maps, Youtube และ Android

จุดเริ่มต้นของ แอปนี้คือได้เปิดทดสอบแบบเงียบๆที่ฟิลิปปินส์ในชื่อว่า Triangle เมื่อปล่อยให้ดาวน์โหลดก็กลายเป็นแอปที่มีการแนะนำบอกต่อกันปากต่อปาก จนทำให้มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 5 แสนครั้ง คนรีวิวให้คะแนนเฉลี่ย 4.5 แถมผู้ใช้ 85% นั้นยังแนะนำให้กับคนอื่นใช้ต่อ ทางกูเกิลเห็นศักยภาพของแอปนี้จึงเปิดให้ทุกคนทั่วโลกได้ดาวน์โหลดไปใช้งานกัน

แอปนี้พัฒนาเพื่อช่วยแก้ปัญหากวนใจของผู้ใช้เน็ตทั่วโลกที่ประสบปัญหาเหมือนกัน คือ ปริมาณมือถือที่ใช้งานได้ในแต่ละเดือนมีจำกัด เน็ตไม่พอใช้แต่เราไม่รู้ว่าใช้งานไปกับอะไรบ้าง ความสามารถหลักของแอปนี้ก็คือช่วยให้เราเข้าใจและควบคุมการใช้งานแพคเกจอินเตอร์เน็ตบนมือถือให้คุ้มค่า นำไปใช้กับส่งที่เราต้องการใช้งานจริงๆ ฟีเจอร์หลักของแอปนี้คือ

ช่วยให้เข้าใจว่าเราใช้เน็ตไปกับอะไรบ้าง

แอปนั้นจะเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานของเรา แสดงข้อมูลได้ทั้งแบบรายวัน รายสัปดาห์และรายเดือน โดยแอปจะแจ้งเตือนทันทีเมื่อแอปใช้เน็ตมากเกินไป ซึ่งแอปจะค่อยๆเรียนรู้การใช้งาน พร้อมให้คำแนะนำในการประหยัดการใช้งาน เราสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาปรับพฤติกรรมการใช้งานของเราได้

ประหยัดเน็ตได้ถึง 30%

แอปนี้มีฟีเจอร์ Data Saver ช่วยประหยัดเน็ตได้ถึง 30% โดยแอปนี้จะไปปิดการทำงานของแอปที่ทำงานเบื้องหลังทั้งหมด เพื่อไม่ให้ใช้งานอินเตอร์เน็ต เราสามารถเปิดเฉพาะแอปที่ใช้งานจริงๆ

โชว์ข้อมูลแบบ Real Time

เมื่อเราเปิดใช้งาน Data Saver นั้น เวลาเข้าไปใช้แอปใดก็ตาม เราจะเห็นมีลูกโป่งขึ้นอยู่ด้านข้าง ซึ่งลูกโป่งนี้จะทำห้าที่วัดการใช้ข้อมูลของแอปนั้นๆแบบ Real-time ทำให้เรารู้ทันทีว่าใช้เน็ตไปเท่าไหร่แล้ว ถ้าหากใช้เน็ตมากไปเราก็ปิดการเชื่อมต่อเน็ตของแอปนั้นได้ทันทีเพื่อไม่ให้ใช้งานเน็ตมากเกินไปจนไม่เหลือไปทำอย่างอื่น

ค้นหา Wi-Fi 

ในแอปยังสามารถช่วยค้นหาไวไฟที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้ ซึ่งในแอปจะมีระบบให้คะแนนไวไฟจากผู้ใช้ด้วยกันว่าตรงนี้สัญญาณมีคุณภาพแต่ไหน ใครไปไม่ถูกก็สามารถนำทางด้วย Google Maps ได้

เหมาะกับใครบ้าง

แอปนี้เหมาะกับทุกคนที่ใช้เน็ตบนมือถือ โดยเฉพาะคนที่มีมีแพคเกจเน็ตแบบจำกัด คนที่ใช้งาน Pre-Paid รวมถึงคนที่เปิดโรมมิ่งไปทำงานต่างประเทศแต่ไม่อยากเกิดปัญหาเน็ตรั่ว

สำหรับคนที่สนใจสามารถโหลดมาใช้งานได้แล้วสำหรับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ทุกรุ่นที่เป็น Android 5.0 Lollipop หรือใหม่กว่า โดยใช้พื้นที่ติดตั้งแค่ 6.0 MB เท่านั้น นั่นหมายความว่ามือถือรุ่นเก่าๆที่สเปคไม่แรงและมีความจุน้อยก็สามารถใช้งานได้สบายๆ