LINE เผยโฉม 6 สตาร์ทอัพผู้เข้ารอบ LINE ScaleUp 2019 เตรียมตัวเข้าสู่ LINE ScaleUp Camp โปรแกรมโค้ชชิ่งสุดเข้มข้น ต่อยอดความสำเร็จให้ 6 สตาร์ทอัพที่เข้ารอบ ผลักดันสู่การเป็นยูนิคอร์นสัญชาติไทยตัวแรก
หลังจากประกาศเปิดตัวโครงการ LINE ScaleUp 2019 โปรแกรม Post-accelerate จาก LINE เพื่อยกระดับศักยภาพสตาร์ทอัพไทย และเปิดโอกาสในการได้รับทุนสนับสนุนจากต่างประเทศ อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมีนาคม และเปิดรับสมัครมาจนถึง 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา LINE ScaleUp 2019 ได้รับกระแสตอบรับดีเยี่ยมจากสตาร์ทอัพไทยด้วยยอดสมัครเกือบ 100 ทีม นับว่ามากถึงเกือบ 2 เท่าของจำนวนทีมที่สมัครในปีที่แล้ว โดยสตาร์ทอัพส่วนใหญ่ที่สมัครถึงกว่า 20% เป็นสตาร์ทอัพในธุรกิจประเภท On-demand ในขณะที่อันดับ 2 และ 3 เป็นธุรกิจประเภท Fintech และ EDU Tech ตามลำดับ
โดย LINE ScaleUp 2019 ได้จัด Pitching day ขึ้นเมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อคัดเลือกทีมที่เข้ารอบ โดยมีเกณฑ์การคัดเลือก ดังนี้
1) ประสิทธิภาพของตลาด (Market Definition)
2) ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์/บริการ (Solution and Traction)
3) ประสิทธิภาพของทีม (Team)
4) ความมุ่งมั่นในการเป็นส่วนหนึ่งของ LINE ScaleUp (Aspiration)
5) วิธีการนำผลิตภัณฑ์จาก LINE ไปใช้ประโยชน์ (Leverage LINE assets)
1) Choco CRM ระบบจัดการหน้าร้าน (POS) และระบบพัฒนาความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) ให้กับผู้ประกอบการและบริษัทต่างๆ ในหลากหลายธุรกิจ เช่น ร้านเสื้อผ้า ร้านอาหาร เป็นต้น
2) Claimdi แพลตฟอร์มจัดหาผู้ช่วยสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ เช่น ตำรวจ รถพยาบาล เจ้าหน้าที่สำรวจภัยของประกันต่างๆ เป็นต้น โดยหากผู้ใช้งานเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุฉุกเฉินใดๆ สามารถใช้แพลตฟอร์มนี้ในการส่งเรื่องพร้อมรายละเอียดให้กับผู้ให้บริการได้อย่างครบครันและท่วงที
3) Finnomena แพลตฟอร์มผู้ให้บริการและคำปรึกษากับนักลงทุน โดยผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนเข้าด้วยกัน โดยมีอัตราการเติบโตของฐานผู้ใช้งานถึง 60% ในปีที่ผ่านมา และนักลงทุนได้สร้างแผนการลงทุนในแพลตฟอร์มนี้แล้วกว่า 20,000 แผนการลงทุน
4) Gowabi แพลตฟอร์มสำหรับจองบริการเกี่ยวกับสปาและบริการเสริมความงามต่างๆ ที่สามารถขยายฐานพาร์ทเนอร์กับบริษัทยักษ์ใหญ่มากมายทั้งในส่วนอีคอมเมิร์ซและธนาคารต่างๆ เช่น Rabbit LINE Pay, Lazada, True, DTACและ KTC เป็นต้น
5) Seekster แพลตฟอร์มสำหรับจัดหาผู้ให้บริการด้านการทำความสะอาด ซ่อมแซม และต่อเติมอสังหาริมทรัพย์ โดยมีเครือข่ายผู้ให้บริการราว 10,000 คน พร้อมฐานลูกค้ามากกว่า 150,000 ราย
โดยทั้ง 6 สตาร์ทอัพสามารถนำเสนอแผนธุรกิจได้อย่างดีเยี่ยม และล้วนมีพื้นฐานองค์ประกอบด้านองค์กรและด้านธุรกิจที่ค่อนข้างดี มีความเป็นไปได้ในการต่อยอดสู่สตาร์ทอัพชั้นนำของประเทศ และที่สำคัญสู่การเป็นยูนิคอร์นตัวแรกของประเทศไทย โดยหลังจากนี้ นอกจากสตาร์ทอัพทั้ง 6 ทีมจะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าใช้แพลตฟอร์มและเทคโนโลยีของLINE แล้ว พวกเขาจะได้เข้าสู่ LINE ScaleUp Camp ที่อัดแน่นไปด้วยการอบรม, Coaching เชิงลึกทั้งในด้านเทคโนโลยี ด้านธุรกิจ และด้านการลงทุน รวมไปถึงทริปสุดพิเศษเพื่อพบปะพูดคุย เรียนรู้จากสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นตัวจริงในต่างแดนตลอดเดือนกรกฏาคม – ตุลาคมนี้ เพื่อบ่มเพาะให้สตาร์ทอัพทั้ง 6 สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ ประสบการณ์และทักษะที่ได้พัฒนาธุรกิจตนเองให้ก้าวไกลสู่ระดับยูนิคอร์น โดยจะทำการคัดเลือกเพื่อหาทีมสตาร์ทอัพที่ดีที่สุดในเดือนพฤศจิกายนต่อไป
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับLINE ScaleUpได้ผ่านเว็บไซต์ https://scaleup.line.me