ต่อไปนี้สั่งสินค้าออนไลน์ แล้วส่งผ่านไปรษณีย์ไทย จะสะดวกขึ้นด้วยบริการ ‘เก็บเงินปลายทาง หรือ Cash on Delivery (COD) แล้วนะ ผู้รับปลายทางสามารถใช้บริการจ่ายเงิน กับเจ้าหน้าที่นำจ่ายเมื่อรับพัสดุ และเลือกรูปแบบการชำระเงินได้ 3 ช่องทางคือ เงินสด แอปพลิเคชันธนาคารบนสมาร์ทโฟน หรือ Mobile Banking และแอปพลิเคชันกระเป๋าเงินไปรษณีย์ หรือ Wallet@POST

cod ไปรษณีย์ไทย

เมื่อใช้บริการเก็บเงินปลายทาง COD ควบคู่กับ Wallet@POST จะยิ่งสะดวก ใช้บริการต่างๆ ต่อเนื่องได้ดีขึ้น เช่น ชำระค่าบริการไปรษณีย์ จ่ายบิล ชำระค่าสินค้าและบริการอื่นๆ โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารต่างๆ และตรวจสอบการทำธุรกรรม และขอประวัติการทำรายการบริการเก็บเงินปลายทาง

นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) บอกว่า การเติบโตของตลาด อี – คอมเมิร์ซ (e-Commerce) ส่งผลต่อพฤติกรรมการบริโภค และสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ที่เพิ่มสูงขึ้น ไปรษณีย์ไทย จึงได้เพิ่มบริการต่างๆ เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่หลากหลายของผู้คนในสังคม ด้วยบริการเก็บเงินปลายทาง หรือ Cash on Delivery (COD)

thaipostapp

ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบการทำธุรกรรม COD ด้วยเมนู ‘ประวัติการทำรายการ’ บนแอปพลิเคชัน Wallet@POST ซึ่งสามารถเลือกแสดงข้อมูลได้ทีละหลายๆ ชิ้น พร้อมส่งรายงานการทำธุรกรรมเก็บเงินปลายทาง (COD) ผ่านทางอีเมล นอกจากนี้ Wallet@POST จะอัปเดตการทำรายการ และยอดเงินจากบริการเก็บเงินปลายทาง (COD) ไปยังบัญชีของผู้ส่งภายใน 2 วัน หลังสิ่งของถึงผู้รับปลายทาง

ไปรษณีย์ไทย ยังมีแผนพัฒนาบริการเก็บเงินปลายทาง (COD) โดยการเพิ่มช่องทางการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและเดบิต เพื่อรองรับการเข้าสู่สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) และได้มีการพัฒนาแอปพลิเคชัน Wallet@POST อย่างต่อเนื่อง ด้วยการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อรองรับการใช้งานในด้านอื่นๆ มากขึ้น อาทิ ชำระค่าภาษีศุลกากรสิ่งของส่งไปรษณีย์ขาเข้า ค่าสาธารณูปโภค ค่าสินค้าและบริการจากร้านค้าที่ร่วมรายการ เป็นต้น