ยุคที่ Social media ครองเมืองแบบนี้จะขายของออนไลน์ก็ต้องรู้จักปรับใช้ค่ะ โดยเฉพาะใน Instagram ที่เป็นแอปพลิเคชันหลักๆเลยที่เหล่าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์นำมาใช้ในการขายของ เพราะฉะนั้นก็ต้องรู้จักทริคและการปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ ทางเราจึงได้รวมทริคเด็ดในการใช้ Instgram ที่จะช่วยให้เราขายของกันได้ปังมากขึ้นค่ะ

 

ทริคข้อที่ 1 รูปภาพคือตัวเอก

รู้กันอยู่แล้วนะคะว่า Instagram มีหน้าที่หลักๆเป็น photo sharing app ที่มีจุดเด่นในเรื่องของรูปภาพ ซึ่งรูปภาพเป็นสิ่งที่สมองของคนเราจะจดจำและประมวลผลได้ดีกว่าตัวอักษร การใช้รูปภาพที่ดีจะทำให้มีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะรูปภาพที่สวยจะเป็นตัวดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาดูสินค้าในไอจีของเรานั่นเองค่ะ การที่ภาพสวยจะทำให้สินค้าดูสวย ถ้าสินค้าสวยแต่ภาพไม่สวย ก็อาจจะทำให้สินค้าไม่สวยได้ค่ะ ซึ่งรูปภาพที่ดีก็คือมีองค์ประกอบที่เหมาะสม จัดวางสินค้าให้สมดุล แสงก็ต้องดี มีพร็อพเข้ามาเสริมด้วยก็ได้ ยิ่งถ้าเราคุมโทนรูปภาพในไอจีให้ไปในทิศทางเดียวกันก็จะยิ่งให้ไอจีร้านเราดูสวยงามมากขึ้นไปอีก

 

ทริคข้อที่ 2 IG stories ฟีเจอร์นี้รู้จักใช้ให้เป็นประโยชน์

IG stories ถึงแม้จะเป็นโพสต์ที่อยู่ได้เพียง 24 ชั่วโมง แต่ก็เป็นช่องทางที่รวดเร็ว โพสต์ได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก ทำให้มีประโยชน์ในเรื่องของการลงพรีวิวสินค้าก่อนที่จะลงขายอย่างเป็นทางการ เป็นการสปอยล์สินค้าก่อน ลูกค้าจะได้เตรียมตัวเตรียมเงินมาซื้อสินค้าเรานั่นเอง นอกจากนี้ยังสามารถใช้ Q&A หนึ่งในฟีเจอร์ที่มีใน IG stories  ถาม-ตอบ ข้อสงสัยของลูกค้าพร้อมกับให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า ซึ่งฟีเจอร์ Q&A นี้แตกต่างจากตัว direct message ตรงที่เป็นการตอบคำถามผ่าน IG stories ที่จะทำให้ทุกคนได้เห็นคำตอบนั้นๆ คนที่มีคำถามเหมือนกันอยู่ในใจแต่ไม่กล้าถามก็จะได้รู้ไปด้วย เป็นการตอบคำถามที่ให้คำตอบแบบรู้โดยทั่วกัน ง่ายและสะดวกกว่าการตอบใน direct message เยอะ และยังมีความเป็นกันเองกับลูกค้ามากขึ้นอีกด้วยค่ะ

 

ทริคข้อที่ 3 สร้าง Community ให้กับแบรนด์

ในยุคออนไลน์เช่นนี้ แบรนด์จะอยู่รอดไม่ได้เลยค่ะถ้าไม่มีการสร้าง Community การสร้างประสบการณ์ที่ดีโดยการสร้างสายสัมพันธ์ของแบรนด์กับลูกค้า จะทำให้เกิดเป็น Community ของผู้คนที่มีไลฟ์สไตล์เดียวกันกับแบรนด์ขึ้นมา รีวิวหรือรูปภาพสวยๆที่ถ่ายโดยลูกค้าแล้วแท็กมาที่ร้านของเรา เป็นเหมือน Word of mouth ที่จะทำให้ลูกค้าคนอื่นๆเกิดแรงจูงใจในการซื้อขึ้นมาได้ ร้านเราก็จะได้ผู้ติดตามใหม่ๆจากผู้ติดตามของลูกค้า และเมื่อนำมารีโพสต์ก็จะเป็นการเพิ่มผู้ติดตามให้ลูกค้าคนนั้นด้วย เกิดเป็น community ขึ้นมาแบบนี้ไปเรื่อยๆ และเมื่อมี Community ลูกค้าก็จะกลายเป็นผู้ที่ช่วยสร้างคอนเทนต์ให้กับร้านของเราโดยอัตโนมัติ แล้วร้านเราก็จะมีความมั่นคงนั่นเองค่ะ

 

ทริคข้อที่ 4 เช็คความนิยมด้วย View Insights

ขายของอย่างเดียวไม่ได้นะ ต้องรู้จักการเช็คด้วยว่าลูกค้ามีการตอบรับสินค้าของเรายังไง เมื่อเรารู้ผลลัพธ์จะทำให้เราเกิดการพัฒนา ผลลัพธ์ที่ว่านั้นส่วนหนึ่งคือการดูความนิยมด้วย View Insights ตรงใต้โพสต์นั้นๆ โดยจะเป็นข้อมูลที่แสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมกับแบรนด์หรือร้านของเรา ซึ่งจะแสดงจำนวนคนที่เข้าถึงโพสต์นั้นๆ ว่ามีความสนใจหรือ forward ไปเท่าไหร่ เพื่อที่เราจะได้นำมาวิเคราะห์ว่าควรปรับหรือพัฒนาคอนเทนต์นั้นหรือไม่หรือควรปรับไปในทิศทางใด จะจัดการกับสต็อกสินค้ายังไง รวมทั้งสามารถนำไปวิเคราะห์เพื่อใช้กับตัวการจัดการโฆษณาต่อไปได้ค่ะ 

 

ทริคข้อที่ 5 ลองเพิ่มตัวช่วยด้วยตัวจัดการโฆษณา 

นอกจากจะให้ Influencer ช่วยโปรโมทสินค้าของเราแล้ว การมีตัวช่วยอย่างตัวจัดการโฆษณา(จะเป็นเมนูชื่อว่า Promote ใต้โพสต์) ก็สามารถเพิ่มการเข้าถึงหรือเพิ่มลูกค้าใหม่ๆ ให้กับร้านเราได้ รวมทั้งสามารถเพิ่มยอดการขายให้กับสินค้าได้ด้วย ซึ่งการใช้ตัวจัดการโฆษณาใน Instagram ก็จะขึ้นอยู่กับว่าจุดประสงค์ของเรานั้นต้องการทำอะไร จะเพิ่มการเข้าถึง จะเพิ่มลูกค้า หรือจะเพิ่มยอดขาย ซึ่งเมื่อเรารู้ความต้องการของเรา และเข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายของเรามีพฤติกรรมอย่างไรบ้างจากการวิเคราะห์ข้อมูล Engagement จาก View Insights ในทริคข้อที่ 4 จะทำให้เราสามารถเลือกได้ว่าจะจัดการโฆษณาหรือตั้งค่ายังไงเพื่อที่จะบรรลุจุดประสงค์ของเราได้นั่นเองค่ะ

 

เป็นยังไงบ้างคะกับทริคที่ทางเรานำมาฝาก ใครที่กำลังจะเริ่มต้นสร้างธุรกิจออนไลน์หรือกำลังสนใจการทำธุรกิจบน Instagram สามารถนำทริคเหล่านี้ไปใช้ได้เลยนะจะได้ขายของกันได้แบบปังๆ