LINE รุกตลาด E-commerce จับมือ Telscore หาอินฟลูเอนเซอร์ช่วยทำตลาดโปรโมตแบรนด์ เปลี่ยนการสนทนาเป็นยอดขาย ดูรีวิวจบสั่งซื้อได้ทันที

เรียกว่าตอนนี้การตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีการเติบโตด้วยการใช้คนดังและคนที่เป็นที่รู้จักมาช่วยโปรโมตสินค้า จากการสำรวจพบว่าผู้บริโภคกว่า 87% มักจะดูรีวิวก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า ส่วนทาง Forbes พบว่าผู้ใช้ 60% ชอบดูรีวิวสินค้ามากกว่าโฆษณา

LINE ถือเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมในประเทศไทย ปัจจุบันมีผู้ใช้งานในไทย 46 ล้านคนจากยอดผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต 69 ล้านคน จากการสำรวจพบว่าคนไทยใช้อินเทอร์เน็ตวันละ 216 นาทีโดยใช้งาน LINE วันละ 63 นาที ซึ่ถือเป็นโอกาสที่แบรนด์จะใช้แพลตฟอร์มนี้ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย

Influencer Commerce

ก่อนหน้านี้ทาง LINE ได้เปิดตัว LINE Idol ช่องทางใหม่ในการช่วยให้เหล่าศิลปินและคนดังเข้าถึงผู้ติดตามได้มากขึ้นซึ่งข้อดีของการใช้ Influencer Commerce บนแพลตฟอร์มของ LINE คือสามารถเข้าถึงกับคนที่ติดตามได้ 100% มาวันนี้ได้ขยายให้ครอบคลุมในส่วนของ Influencer (ซึ่งจะแบ่งเป็น Macro Influencer และ Micro Influencer)

1.Macro Influencer คือ คนที่มีผู้ติดตามมากกว่า 100,000 คนขึ้นไป โดยจะมี Official Account เป็นช่องทางหลักในการสื่อสารกับผู้ติดตาม

2.Micro Influencer คือ คนที่มีแนวโน้มที่จะเติบโตไปเป็น Macro Influencer ซึ่งการจะใช้งานผ่านบัญชีส่วนตัวโดยมีผู้ติดตามผ่าน Timeline ไม่น้อยกว่า 500 คน หากโพสต์ไหนได้รับความนิยมเป็นที่น่าสนใจ มีคนกดไลก์ กดแชร์เยอะๆ ระบบของ LINE ก็จะนำโพสต์นั้นไปแสดงในหน้า Explore บน Timeline อัตโนมัติพื่อให้เข้าถึงคนอื่นๆได้มากขึ้น ใครที่สนใจสามารถกดติดตามได้ ส่วนเรื่องความเป็นส่วนตัวหายห่วงเพราะคนที่กดติดตามนั้นจะไม่สามารถแชตคุย LINE กับ Influencer ได้

วิน-วินสองฝ่าย

LINE ได้จับมือกับ Tellscore ที่ถือว่าเป็นเอเจนซีที่รวบรวมอินฟลูเอนเซอร์ในไทยเอาไว้มากที่สุด พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยจับคู่อินฟลูเอนเซอร์ที่เข้ากับแบรนด์

ทาง Tellscore บอกว่าปัจจัยหลักในการคัดเลือกอินฟลูเอนเซอร์ เน้น 4 ด้าน คือ 1. คุณภาพ วัดจาก Engagement ของคอนเทนต์ที่ปล่อยออกมา 2. จำนวนผู้ติดตาม 3. ภาพลักษณ์ของอินฟลูเอนเซอร์ ที่ตรงกับแบรนด์ 4.ความสามารถในการปิดการขาย เปลี่ยนการสนทนาเป็นยอดขายให้กับแบรนด์

การจับมือในครั้งนี้ทางแบรนด์ต่างๆจะได้อินฟลูเอนเซอร์ที่ตรงกับแบรนด์มาช่วยสร้างคอนเทนต์ ภาพนิ่ง/วิดีโอ รวมถึงเปลี่ยนการพูดคุยเป็นยอดขายที่วัดผลได้ ส่วนทางInflencer นั้นมีโอกาสเข้าถึงผู้ใช้ LINE ทั้งหมด 46 ล้านคน สามารถสร้างฐานผู้ติดตามให้เพิ่มมากขึ้น

ในส่วนของการปิดการขายจะมีการเพิ่ม MyShop ฟีเจอร์ของร้านค้าที่ฝังอยู่ใน LINE ให้ผู้ใช้ที่สนใจสามารถคลิก ซื้อสินค้าและจ่ายเงินได้ทันทีใน LINE โดยที่ไม่ต้องออกไปแอปอื่น

การเปิดตัว Influencer Commerce สอดรับกับกระแสช้อปปิ้งออนไลน์ที่กำลังมาแรงพร้อมกับวิถีชีวิต New Normal ดังจะเห็นได้จากตัวเลขมูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซไทยเกี่ยวกับการช้อปปิ้งสินค้าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด19 (COVID-19) ที่คาดว่าจะพุ่งสูงขึ้นถึง 200,000 ล้านบาท ในปี 2563 นี้ หรือเติบโตกว่า 25% จากปีก่อนหน้า สอดคล้องกับการทำธุรกิจผ่าน LINE Official Account ที่เติบโตเช่นกัน ดังนั้น Influencer Commerce บน LINE จึงเป็นการเปิดโอกาสให้ อินฟลูเอนเซอร์ ได้พัฒนาศักยภาพการสร้างคอนเทนต์เพื่อการตลาดแบบ Influencer Marketing บน LINE Ecosystem และฟีเจอร์พิเศษอย่าง MyShop ที่ช่วยให้การช้อปปิ้งออนไลน์เป็นเรื่องง่าย โดยลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าและจ่ายเงินได้ทันทีบน LINE ที่เดียว และในอนาคตอินฟลูเอนเซอร์ที่อยู่บนแพลตฟอร์ม LINE จะสามารถสร้างรายได้ในรูปแบบของค่าคอมมิชชั่นจากยอดขายที่เกิดขึ้น นอกเหนือจากการรีวิวสินค้าหรือค่าโฆษณาให้กับแบรนด์อีกด้วย

ทาง LINE ประเทศไทยและ Tellscore จะจัดโครงการฝึกอบรมเสริมทักษะใหม่ๆ และให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้เครื่องมือต่างๆ บน LINE Official Account และ MyShop แก่อินฟลูเอนเซอร์ที่เข้าร่วม เพื่อให้สามารถนำเสนอคอนเทนต์ได้หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการไลฟ์ วิดีโอ รูปภาพ หรือบทความ ช่วยให้ผู้ติดตามไม่เบื่อกับแนวทางการนำเสนอแบบเดิมๆ และสามารถกดเข้าไปชมรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อสินค้าที่สนใจได้เลยทันที

ดังนั้น Influencer Commerce จึงเป็นทางเลือกใหม่ของการสื่อสารการตลาดบนสมาร์ทแพลตฟอร์มที่รวมเอาจุดแข็งของ LINE Ecosystem มาช่วยยกระดับการทำการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ให้สามารถวัดผลได้อย่างชัดเจน และสามารถตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการรุกตลาดช้อปปิ้งออนไลน์ หรืออีคอมเมิร์ซที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน