หลังจากลือมาหลายวัน ล่าสุด Facebook ประกาศรีแบรนด์ครั้งใหญ่ เปลี่ยนชื่อบริษัทแม่เป็น Meta ตั้งเป้าพัฒนา Metaverse เพื่อเป็นมากกว่าบริษัทสื่อสังคมออนไลน์ด้วยเทคโนโลยี AR/VR

Mark Zuckerberg บอกว่า การเปลี่ยนชื่อในครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อแพลตฟอร์มในเครือ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram หรือ Whatsapp ก็ยังคงใช้ชื่อเดิมต่อไป เปลี่ยนแค่ชื่อบริษัทแม่เท่านั้น เพราะที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์ต่างๆในเครือมักจะถูกผูกเข้ากับ Facebook จึงต้องเปลี่ยนชื่อที่มีความหมายครอบคลุมบริการต่างๆให้มากขึ้น

ในส่วนของเพจบน Facebook และ YouTube ก็เริ่มเปลี่ยนชื่อเรียบร้อยแล้ว ส่วนผลิตภัณฑ์อื่นๆที่จะมีการรีแบรนด์ก็คือ กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse ประกอบด้วย Oculus Quest จะเปลี่ยนมาใช้ชื่อ Meta Quest แทน ส่วนแอป Oculus App เปลี่ยนชื่อเป็นแอป Meta Quest App โดยจะเริ่มเปลี่ยนอย่างเป็นทางการในปีหน้า นอกจากนั้นผลิตภัณฑ์กลุ่ม Facebook Portal ก็จะเปลี่ยนชื่อเป็น Meta Portal เช่นกัน

คำว่า Meta นั้นจะสะท้อนถึง metaverse หรือโลกใบใหม่ที่ทางบริษัทกำลังตั้งเป้ามุ่งไปสู่ ที่เชื่อมต่อผู้คนทั้งโลกด้วยเทคโนโลยี  AR/VR ที่ผ่านมาทางบริษัทเองก็ลงทุนด้านนี้ด้วยเม็ดเงินจำนวมหาศาล ซึ่งเราจะเห็นเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มใหม่เกิดขึ้น โดย Facebook จะไม่ได้ถูก ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกๆอีกต่อไป

Metaverse นั้นจะเป็นโลกใบใหม่ที่หลอมรวมเทคโนโลยีหลายๆด้านเข้าด้วยกัน แต่เราสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมได้ผ่านการสร้าง Avatar สามมิติแทนตัวเราเข้าไปในโลกเสมือนจริง ที่เราสามารถทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเรียนออนไลน์และการทำงานที่จะมีปฏิสัมพันธ์ได้มากขึ้นพบปะสังสรรค์เพื่อน ความบันเทิง จนไปถึงการทำธุรกิจ

ส่วนรูปแบบการใช้งานนั้นจะแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ

  • ใช้งานแบบเต็มตัว ด้วยการใส่แว่น VR (Virtual Reality) เอาตัวเราเข้าไปอยู่ในโลกเสมือนจริงเพื่อให้ได้ประสบการณ์การใช้งานเต็มที่
  • ใช้งานแบบผสมผสาน (Mixed Reality) ด้วยแว่นตา AR (Augmented Reality) ซ้อนทับไปกับโลกแห่งความจริง
  • ใช้งานผ่านอุปกรณ์อื่นๆ เช่น คอมพิวเตอร์ หรือ โทรศัพท์มือถือ

ทาง Facebook ได้พัฒนา Horizon ให้เป็นแพลตฟอร์มหลักในการรองรับ Metaverse ไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโลกจำลองแบบที่เราต้องการได้ มีห้องทำงานออนไลน์สำหรับทำงานบนโลกเสมือนจริงได้ จนไปถึง Marketplace สำหรับซื้อของ เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์เอาไว้ตกแต่งในโลก Metaverse ซึ่งสิ่งของเหล่านี้อาจจะอยู่ในรูปแบบของ NFT ด้วย ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ว่าในอนาคตเราอาจจะได้ใช้งานสกุลดิจิทัล Diem (หรือชื่อเดิมคือ Libra ที่ทาง Facebook ให้การสนับสนุน) ในนี้ได้ด้วย เปิดทางให้สร้างรายได้ในรูปแบบใหม่ๆโดยไม่ยึดติดกับการขายโฆษณาที่เป็นรายได้หลักในตอนนี้

นอกจากนั้นทาง Facebook เองก็เตรียมเครื่องมือและคอร์สสำหรับนักพัฒนาเพื่อช่วยเตรียมตัวให้รองรับเทคโนโลยีใหม่ด้วย แน่นอนว่ากว่าที่ Metaverse จะใช้งานจริงได้อาจจะต้องรอเวลาอีกพักใหญ่ๆเพื่อให้ทุกฝ่ายพร้อมก่อน แต่เชื่อว่ารอไม่นานจะเกิดขึ้นจริงแน่นอน

ที่มา CNN / BBC