รัฐบาลญี่ปุ่นทุ่มงบ 37,500 ล้านเยน ผ่านโครงการอุดหนุนรถใหม่คันละ 800,000 เยนหรือประมาณ 240,000 บาท ผลักดันให้ประชาชนหันมาซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น พร้อมขยายสถานีชาร์จ จาก 30,000 จุด 150,000 จุดภายในปี 2030
งบประมาณ 37,500 ล้านเยนนี้จะเป็นงบเสริมของปี 2021 ในการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้า โดยงบหลักนั้นจะเน้นไปที่การอุนหนุน ช่วยให้ประชาชนซื้อรถยนต์ไฟฟ้าได้ในราคาที่ถูกลง และงบอีกส่วนจะนำไปใช้สร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างสถานีชาร์จและสถานีไฮโดรเจน
ทางนิเคอิรายงานว่า งบ 25,000 ล้านเยนจะถูกใช้ช่วยอุดหนุนราคารถยนต์ ซึ่งจะแบ่งเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและรถยนต์พลังงานไฮโดรเจน ซึ่งประชาชนจะได้รับเงินอุดหนุนสูงสุดถึง 800,000 เยนหรือประมาณ 240,000 บาท เมื่อซื้อรถ EV แต่ต้องแสดงหลักฐานด้วยว่าที่บ้านหรือที่ทำงานมีจุดชาร์จไฟ
ส่วนงบที่เหลืออีก 6,000 ล้านเยนจะถูกนำไปใช้สร้างสถานีชาร์จไฟ เนื่องจากเป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดให้คนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า ปัจจุบันญี่ปุ่นมีสถานีชาร์จไฟทั่วประเทศราวๆ 15,000 จุด เมื่อคิดค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ 2.3 ต่อจำนวนประชากร 10,000 คน ถือว่ายังน้อยมาก เมื่อเทียบกับประเทศฝรั่งเศสจะอยู่ที่ 6.9 สถานีต่อประชากร 10,000 คน
ทางภาครัฐเองก็ตั้งเต้าจะขยายสถานีชาร์จจาก 30,000 สถานีเป็น 150,000 แห่งภายในปี 2030 แต่ด้วยงบที่ให้มาตอนนี้ยังสามารถสร้างเพิ่มได้ไม่กี่พันแห่งเท่านั้น
ที่มา Electrive