“กรุณามองมาที่ตรงนี้หน่อยนะครับ” แล้วก็ “แว่บบบบ”
ฉากที่เป็นเอกลักษณ์ในภาพยนตร์เรื่อง MIB เมื่อเหล่าเอเจนท์ที่ต้องการจะลบความทรงจำเรื่องมนุษย์ต่างดาวออกจากหัวชาวบ้าน แต่มาวันนี้เจ้าปากกาลบความทรงจำนี้อาจจะเป็นจริงได้ในอีกไม่นาน เมื่อนักวิทยาศาสตร์ประสบความสำเร็จในการทดลองใช้การกระตุ้นด้วยแสงเพื่อลบความทรงจำระยะสั้นในหนูทดลอง
ด้วยแรงบันดาลใจนี้ทีมนักวิจัยสามารถทำให้หนูทดลองนั้นลืมประสบการณ์สุดสะพรึงที่ผ่านมาได้ โดยตอนแรกทีมนักวิจัยได้ให้หนูทดลองเข้าไปยังห้องมืดที่เมื่อพวกมันเข้าไปในห้องแล้วจะปล่อยกระแสไฟฟ้าอ่อน ๆ ไปช็อตพวกมัน ทำให้พวกมันเข็ดขยาดหวาดกลัวการเข้าห้องมืดแต่ด้วยเทคนิคการลบความทรงจำที่ทีมค้นพบนี้ทำให้พวกมันลืมประสบการณ์สุดสะพรึงนี้และยังกลับเข้าไปยังห้องมืดเหมือนไม่เคยถูกไฟฟ้าช็อตมาก่อน
ซึ่งกระบวนการจัดเก็บความทรงจำนั้นจะแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ความทรงจำระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งระยะสั้นนั้นจะถูกเก็บไว้ในสมองส่วนไฮโปธารามัสในระหว่างวันที่เราตื่นอยู่ ก่อนที่สมองเราจะทำการจัดเก็บไปไว้ในสมองส่วนหน้าที่เก็บความทรงจำระยะยาว ซึ่งการถ่ายโอนความทรงจำจากระยะสั้นไประยะยาวนั้นจะเกิดขึ้นในช่วงที่เราหลับในแต่ละคืนจึงเป็นที่มาว่าทำไปการนอนพักผ่อนให้เพียงพอจึงจำเป็นต่อการเรียนรู้และท่องจำให้ติดหัวนั่นเอง
และด้วยการใช้ไวรัสที่ตัดต่อพันธุกรรมเพื่อทำให้เซลล์ในร่างกายหนูสามารถสร้างโปรตีนจำเพาะที่จะปล่อยโมเลกุลออกซิเจนชนิดไวต่อการทำปฏิกิริยาออกมาเมื่อได้รับการกระตุ้นด้วยแสง ซึ่งจะไปขัดขวางกระบวนการที่โครงข่ายเซลล์ประสาทในสมองทำการโอนย้ายข้อมูลจากส่วนความทรงจำระยะสั้นไปเป็นความทรงจำระยะยาวระหว่างที่หนูกำลังนอนหลับ
โดยเมื่อทีมสามารถระบุตำแหน่งโครงข่ายการเชื่อมโยงและถ่ายโอนข้อมูลในสมองของหนูทดลองและทำการใช้แสงกระตุ้นไปยังบริเวณดังกล่าวแล้ว ทำให้หนูทดลองนั้นสูญเสียความทรงจำระยะสั้นที่เกิดขึ้นก่อนหน้าการนอนไปเสียสิ้นราวกับว่าไม่เคยเจอกับเหตุการณ์เหล่านั้นมาก่อนเลย
ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้ไม่ใช่แค่เพื่อพัฒนาเทคนิคขึ้นมาเพื่อลบความทรงจำเท่านั้น แต่ทีมวิจัยเชื่อว่าความสำเร็จในครั้งนี้จะช่วยให้เราเข้าใจถึงกระบวนการที่สมองเราจดจำเรื่องราวต่าง ๆ รวมถึงเข้าใจถึงสาเหตุและพัฒนาวิธีการรักษาโรคอัลไซเมอร์หรือโรคจิตเภทบางประเภทที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทเกี่ยวกับความทรงจำได้
********************************************************************************************************************************************************
ไม่ใช่แค่เรื่องราวไซไฟในภาพยนตร์แต่มันคืออีกก้าวย่างของความเข้าใจในอวัยวะที่ซับซ้อนที่สุดในร่างกายของคนเรา และอาจะเป็นความหวังให้กับผู้ป่วยอัลไซเมอร์ในอนาคตก็เป็นได้
อ้างอิง:
https://www.kyoto-u.ac.jp/en/research-news/2021-11-17
https://interestingengineering.com/scientists-found-a-way-to-delete-short-term-memory-of-mice-using-light