ในปีที่ผ่านมากูเกิ้ลมีรายได้ประมาณสี่หมื่นล้านเหรียญ ส่วนเฟซบุ้คมีรายได้สี่พันล้านเหรียญห่างกันถึงสิบเท่าตัว แต่มีคนบอกว่าถ้าการพนันออนไลน์ถูกกฎหมายเมื่อไหร่ เฟซบุ้คจะกลายเป็นบริษัทที่มีรายได้นับล้านล้านดอลล่าร์ จำนวนเงินล้านล้านเหรียญเนี่ยนับเฉพาะรายได้เท่านั้นนะ แต่ไม่ใช่มูลค่าตลาดของบริษัท (แต่ระดับเฟซบุ้คแล้วการจะไปถึงมูลค่าตลาดขนาดนั้นคงใช้เวลาอีกไม่นานแล้วล่ะ)

ปัจจุบันเกมโซเชียลออนไลน์บนเฟซบุ้คได้รับความนิยมสูงมาก และเฟซบุ้คมีส่วนแบ่งรายได้ 30% จากการซื้อสินค้าเสมือนจริงในเกมด้วย Facebook Credits ผ่านบริษัทต่างๆอย่างเช่น  Zynga ผู้ให้บริการเกมออนไลน์ Zynga มีรายได้สุทธิประมาณหนึ่งพันล้านเหรียญต่อปี นั่นหมายความว่าเฟซบุ้คมีรายได้จากเกมเหนาะๆ 400 ล้านเหรียญต่อปีจากบริษัท Zynga แค่เพียงบริษัทเดียว แม้ว่ารายได้หลักของเฟซบุ้คจะมาจาการขายโฆษณา แต่ธุรกิจการขาย Facebook Credits ก็มีความหมายมากทีเดียว

จากบทความของ Wall Street Journal เขียนเกี่ยวกับบริษัท Zynga ที่จะเปิดธุรกิจใหม่ด้านการพนันออนไลน์ ถ้าเกิดให้มีการเล่นพนันออนไลน์บนเฟซบุ้คอย่างถูกกฎหมาย เช่นไพ่โป๊กเกอร์หรือไพ่แบล็คแจ๊ค  แน่นอนว่าจะต้องทำให้รายได้ของเฟซบุ้คถล่มทลายอย่างแน่นอน รายได้ล้านล้านเหรียญก็คงจะเป็นเรื่องที่ไม่ไกลเกินเอื้อม ลองนึกถึงความบ้าของคนเวลาที่เล่นการพนันดูสิ เมื่อมาผนวกกับจำนวนผู้ใช้และพลังของสื่อสังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ้คแล้ว ทำให้การพนันออนไลน์เป็นโอกาสทำเงินก้อนใหญ่เลยทีเดียว

เมื่อปลายปีที่แล้ว มีข่าวลือว่าเฟซบุ้คกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับ hosting gambling ในประเทศอังกฤษที่การพนันออนไลน์เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมาย ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีถ้าหากรัฐบาลเปิดให้มีการพนันออนไลน์ในสหรัฐได้ เฟซบุ้คจะได้เดินหน้าดำเนินการได้เลย

ตอนนี้หลายๆรัฐกำลังมองหาแหล่งรายได้แห่งใหม่ จึงผลักดันเพื่อให้การพนันออนไลน์เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมาย บริษัทคาสิโนยักษ์ใหญ่หลายบริษัทก็พยายามกดดันให้รัฐบาลเปลี่ยนกฎหมาย ส่วนบริษัท Indian tribes และ lottery groups ก็พยายามล็อบบี้ให้มีการเปลี่ยนกฎหมายในระดับรัฐเช่นกัน  ดังนั้นการพิจารณาเปลี่ยนแปลงกฎหมายจึงอาจเป็นไปได้

ถ้าเกิดการพนันออนไลน์ในอเมริกากลายเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายขึ้นมา แล้วนั่นจะทำให้เฟซบุ้คเป็นบริษัทที่มีรายได้ล้านล้านเหรียญจริงหรือเปล่าก็น่าคิดนะ? เพราะเงินล้านล้านเหรียญก็เป็นจำนวนที่มากอยู่ แต่สิ่งนึงที่แน่นอนก็คือมันจะทำให้เฟซบุ้คกลายเป็นบริษัทใหญ่โตและทรงอิทธิพลขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน

VIA businessinsider