เรื่องของ Edward Snowden อดีตนักวิเคราะห์ข่าวกรองชาวมะกัน ผู้ปล่อยข่าวรายละเอียดของโครงการการสอดส่องดูแลมวลชนลับสุดยอดของรัฐบาลสหรัฐ และอังกฤษหลายโครงการแก่สื่อยังคงไม่จบง่าย แถมยังมีการขยายผลต่ออีกด้วย

เนื่องจากล่าสุดมีการกล่าวหาบริษัทซอฟต์แวร์ และอินเทอร์เน็ตหลายๆ บริษัทในสหรัฐที่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ (การเปิดเผยโครงการ PRISM ของ NSA) หนึ่งในบริษัทที่มีชื่อโผล่ในเอกสารก็คือ ไมโครซอฟท์ (Microsoft)  โดยสื่อออนไลน์ในเยอรมันชื่อว่า Zeit Online อ้างทีมงานได้รับเอกสารที่หลุดออกมา ซึ่งในเอกสารดังกล่าวมีการระบุผู้เชี่ยวชาญไอทีของรัฐบาลเยอรมันเชื่อ Windows 8 เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องดังกล่าว เนื่องจากมันมีความเสี่ยงในระบบรักษาความปลอดภัยของซอฟต์แวร์

สื่อแดนไส้กรอกชี้ผู้เชื่ยวชาญฟันธงว่า Windows 8 มีช่องโหว่ของระบบรักษาความปลอดภัยที่เรียกว่า backdoor ที่ยังไม่ถูกปิด ซึ่งทำให้ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ กังวลเกี่ยวกับวิธีการทำงานของ Windows 8 กับ Trusted Platform Module โดยส่วนของช่องโหว่ระบบรักษาความปลอดภัย หรือ backdoor จะเปิดโอกาสให้ไมโครซอฟท์ หรือแม้แต่ NSA สามารถเข้าควบคุมคอมพิวเตอร์ที่รัน Windows 8 ผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้นั่นเอง อย่างไรก็ตาม ในปี 2015 มีการคาดการณ์กันว่า Windows 8.x จะอยู่บนคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง ซึ่งมีระบบการอัพเดทผ่านอินเทอร์เน็ตโดยที่ผู้ใช้ไม่ทันได้รู้ตัว (silent update) เลยด้วยซ้ำ การทำงานลักษณะนี้ผู้เชี่ยวชาญสรุปว่า มันถือเป็นการขาดการควบคุมความสามารถของระบบไอทีโดยสมบูรณ์ เนื่องจากขัดต่อหลักพื้นฐานระบบรักษาความปลอดภัยที่ผู้ใช้ควรทราบเมื่อซอฟต์แวร์กำลังมีการทำงานอะไรอยู่ขณะนั้น ในขณะที่ Windows 8 ถูกกำกับด้วยคำว่า “ใช้การไม่ได้” ในเอกสารดังกล่าวเนื่องจากมีช่องโหว่ backdoor สื่อออนไลน์เยอรมันยังเปิดเผยอีกว่า เอกสารที่หลุดมาพร้อมกันอีกชุดหนึ่งอ้าง Windows 7 มีความปลอดภัยกว่า และสามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจถึงปี 2020 งานนี้ต้องดูว่า ไมโครซอฟท์จะออกมาชี้แจงอย่างไร หรือไม่

ซีทดลองใช้ฟีเจอร์ embed post ที่มาจากแฟนเพจ ceemeagain ค่ะ 😀

 

via zeit online