ใครที่ชอบเดินไปใช้มือถือไปต้องระวังให้ดี ล่าสุดมีนักท่องเที่ยวรายนึงในออสเตเลีย เดินไม่ดูทางขนเดินตกท่าเรือ

นี่ถือเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการใช้สมาร์ทโฟนแบบไม่ระวัง ตามองแต่จอมือถือจนทำให้เราลืมการใช้ประสาทสัมผัสอย่างอื่น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวชาวไต้หวันคนนึงที่ไปเที่ยวออสเตรเลีย เธอเอาแต่อ่านฟีดบนเฟสบุ้คก็เลยทำให้เดินไปจนตกท่าน้ำ หล่นลงไปในทะเล โชคดีที่เธอไม่เป็นอะไรมาก รวมถึงมือถือของเธอก็ยังถูกกำไว้แน่นแม้จะตกน้ำก็ตาม สถานที่เกิดเหตุก็คือท่าเรือ St. Kilda ในเมืองเมลเบิร์น ซึ่งถ้าดูจากรูปด้านล่างแล้วก็ต้องบอกว่าถ้าเดินไม่ระวังก็จะตกลงไปในทะเลได้ง่ายๆ เพราะขอบด้านนึงไม่มีรั้วกั้นเอาไว้ 
Dean Kelly นายตำรวจอาวุโสแห่ง Victoria police ได้บอกกับสถานี ABC News ว่าได้รับสายแจ้งเหตุจากผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เมื่อตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุก้พบว่ามีผู้หญิงคนนึงลอยคออยู่ไม่ห่างจากท่าเรือในมือยังกำมือถือแน่น ซึ่งตำรวจมารู้ภายหลังว่าเธอว่ายน้ำไม่เป็น หลังจากที่ช่วยเธอขึ้นมาจากน้ำ เธอก็ขอโทษขอโพยยกใหญ่ที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวาย เธอบอกสาเหตุของการตกลงไปในน้ำครั้งนี้ว่า เธอมัวแต่เช็คเฟสบุ้คบนมือถือ เลยไม่ระวังทางพลาดตกลงไปในน้ำ

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีข่าวประเภทนี้ที่ผู้ใช้มือถือไม่ระวังจนตกไปในน้ำ เดินตกเขา เดินตกถนน สื่อและสังคมออนไลน์ต่างๆก็เคยลงข่าวมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่เหตุการณ์นี้ก็ยังเกิดขึ้นซ้ำซาก อย่างเมื่อต้นปีนี้ก็มีข่าว Laura Safe หญิงชาวอังกฤษเดินตกคลองในขณะที่ส่งข้อความหาแฟน ,Bonnie Miller ชาวอเมริกันก็พลัดตกลงไปในแม่นำอินเดียน่าขณะใช้โทรศัพท์ รวมถึง ชายคนนึงที่รัฐเท็กซัสขับรถตกสะพานหลังจากส่งข้อความขณะขับรถ เหตุการณ์นี้ทำให้เค้าอยากจะเลิกส่งข้อความบนมือถือไปเลย จากข้อมูลของ Consumer Product Safety Commission เมื่อปี 2012 พบว่ามีคนในอเมริกามากกว่า 1,150 คนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นเวลา 12 เดือนเพื่อบำบัดอาการ ‘distracted walking’ มัวแต่สนใจเรื่องอื่นจนไม่ระวังในการเดิน

ในขณะที่คนบางส่วนได้พัฒนาระบบเตือนภัยบนมือถือ เช่น ระบบ CrashAlert ที่ใช้เซนเซอร์ตรวจับสิ่งแวดล้อมรอบตัวของผู้ใช้มือถือขณะก้มมองจอ แฃะคอยเตือนให้รู้เมื่อมีสิ่งกีดขวาง แต่ถึงระบบนี้จะก้าวล้ำและดีเพียงใดถ้าคุณยังไม่หยุดพฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้ รับรองว่าเหตุการณ์แบบนี้ก็ยังจะเกิดซ้ำขึ้นอีก

VIA digitaltrends