Sony ประกาศเปิดตัว a7R III กล้องมิลเลอร์เลสความละเอียด 42.4 ล้านโดยใช้ประสบการณ์จากรุ่น A9 ที่ใช้ถ่ายกีฬา จนได้กล้อง full frame ที่สามารถถ่ายต่อเนื่องได้ 10 เฟรมต่อวินาที พร้อมปรับปรุงระบบออโต้โฟกัสให้แม่นยำขึ้น รวมถึงปรับปรุงอีกหลายๆด้านตามที่ผู้ใช้ a7R II คาดหวังเอาไว้
A7R III
ตัวกล้องนั้นมีขนาดบอดี้เหมือนกับ a7R II แต่ก็ยังสามารถเพิ่มจอยสติ๊กสำหรับเลือกจุดโฟกัส, ปุ่ม AF-On, ช่องเสียบ SD card แบบคู่, ช่องซิงค์แฟลชและแบตเตอรี่ความจุสูงพอๆกับ a9 นอกจากนั้นยังปรับช่องมองภาพเป็นจอ OLED ขนาด 3.69 ล้านให้ภาพที่ละเอียด 1280 x 720 พิกเซล
ความเร็ว
เซนเซอร์ที่ใช้ยังเป็นเซนเซอร์ฟูลเฟรม BSI CMOS 42.4 ล้านตัวเดิม แต่เพิ่มเติมฮาร์ดแวร์และปรับการประมวลใหม่ให้ดียิ่งขึ้น มีทั้งชิป ‘Bionz X’ ที่ทำงานเร็วขึ้นและ front-end LSI processor ช่วยให้ประมวลผลได้รวเร็วยิ่งขึ้น เมื่อมารวมกับการออกแบบใหม่, ปรับกลไกของชัตเตอร์ให้มีการสั่นไหวต่ำจึงทำให้สามารถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 10 เฟรมต่อวินาทีพร้อมระบบออโต้โฟกัสเต็มรูปแบบ ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้ชัตเตอร์แบบ mechanical หรือ electronic นอกจากนั้นยังสามารถทำ ‘live view’ ได้ต่อเนื่องสูงสุด 8 เฟรมต่อวินาที การถ่ายต่อเนื่องนั้นสามารถ่ายเป็นไฟล์ปกติได้สูงสุด 87 ภาพต่อหนึ่งครั้งแต่ถ้าเป็นไฟล์ RAW ก็จะถ่ายต่อเนื่องได้แค่ 28 รูปเท่านั้น ในส่วนของ dynamic range นั้นก็ให้มาถึง 15 stops
เรื่องการประมวลผลนั้นทางโซนี่เคลมว่า สามารถโฟกัสวัตถุได้ดียิ่งขึ้นในโหมดของ subject tracking และ Eye-AF มากกว่า a7R รุ่นปัจจุบัน
ถ่ายนิ่งขึ้น
a7R Mark III เพิ่มความสามารถด้วยการปรับปรุงกลไกซัตเตอร์ใหม่ให้ทำงานเร็วขึ้นและการสั่นไหวน้อยลง ช่วยลดปัญหาของ shutter shock เพิ่มความคมชัดของภาพ แถมความทนทานนั้นยังรับประกันว่าเกรดเดียวกับกล้องระดับมืออาชีพ ในส่วนของระบบกันสั่นนั้นมีการปรับปรุงกันสั่นแบบ 5 แกนจนได้เรตติ้ง 5.5 ตามมาตรฐานทดสอบของ CIPA แถมยังใช้งานในโหมดถ่ายวิดีโอด้วย
Ergonomics
แม้บอดี้จะเหมือนกับ a7R II แต่ก็มีการปรับปรุงตัวเครื่องบางจุดตามหลักการยศาสตร์เพื่อให้จับใช้งานได้สบายมือยิ่งขึ้น การวางตำแหน่งของปุ่มใหม่ก็ควบคุมได้ดียิ่งขึ้น ในส่วนของหน้าจอด้านหลังนั้นก็เป็นจอสัมผัสสามารถใช้กดเลือกจุดโฟกัสได้ รวมถึงกดสั่งงานฟังก์ชั่นต่างๆในโหมดถ่ายวิดีโอ
การถ่ายวิดีโอ
กล้องรุ่นนี้รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K ซึ่งเค้าเคลมว่าให้ภาพที่ดีกว่าใน Super 35 crop mode นอกจากนั้นยังเพิ่มฟีเจอร์ Hybrid Log Gamma แบบเดียวกับ Panasonic GH5 ที่เก็บข้อมูล Log footage พร้อมกับ metadata ที่ช่วยให้หน้าจอ HDR ที่รองรับ HLG สามารถแสดงสีสันได้ถูกต้อง โดยไม่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการ post-processing
Multi-shot resolution mode
a7R III มาพร้อมโหมดใหม่ multi-shot resolution คล้ายกับในกล้อง Pentax DSLR โดยกล้องจะถ่ายภาพ 4 ภาพจากนั้นก็จะย้านเซนเซอร์ไปมาระหว่างรูปเพื่อให้รูปจริงนั้นเก็บข้อมูลสีได้หมดทุกพิกเซล นอกจากนั้นยังช่วยลด noise ได้ด้วย แต่สิ่งที่ต่างจากกล้อง DSLR คือ a7R III นั้นจะไม่ได้รวมทั้ง 4 ภาพในกล้องเลย แต่จะต้องประมวลผลผ่านโปรแกรมฟรีของโซนี่บน PC
ฟีเจอร์อื่นๆ
ส่วนฟีเจอร์อื่นๆที่เพิ่มเข้ามาก็มี โหมด anti-flicker ลดอาการภาพเป็นเส้นเวลาที่ถ่ายวัตถุที่มีแสงเช่นจอภาพหรือหลอดไฟเพื่อป้องกันภาพมืดหรือสภาวะที่แสงไม่สม่ำเสมอ ในส่วนของการเชื่อมต่อนั้นจะมาพร้อม USB 2 ช่อง, USB-C 1 ช่อง และ microUSB ช่องเสียบการ์ดคู่ ช่องนึงจะรองรับ UHS-II ที่มีความเร็วสูง ส่วนอีกช่องนึงจะรองรับ UHS-I จะมีความเร็วต่ำกว่า
Battery life
แบตเตอรี่นั้นใช้ NP-FZ100 ซึ่งการใช้งานนั้นจะนานขึ้น 2.2 เท่าเมื่อเทียบกับแบตเตอรี่เดิม หรือถ่ายภาพนิ่งได้ 650 รูปต่อการชาร์จหนึ่งครั้งเมื่อใช้จอ LCD ด้านหลัง แต่ถ้าใช้ EVF จะถ่ายได้ 530 รูป นอกจากนั้นยังสามารถใช้งานร่วมกับ VG-3EM กริ๊ปแบตเตอรี่ของ a9 ได้อีก
ส่วนสนนราคาขายอยู่ที่ 3,199 ดอลล่าร์โดยจะเริ่มวางขายวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้
VIA Dpreview