ในงาน LINE Conference 2018 ก็มีสิ่งที่น่าสนใจหลายเรื่องหนึ่งในนั้นก็คือการประกาศเปิดตัว LINE Token Economy ที่มีเทคโนโลยี Blockchain ที่ไลน์พัฒนาขึ้นเองอยู่เบื้องหลัง
ถ้าคุณรู้จัก LINE COIN อยู่แล้ว เจ้า LINE Token Economy นี่จะมีไอเดียที่คล้ายๆกันแต่ยกระดับขึ้นไปอีกขั้นนึงด้วยการเอา Blockchain มาใช้กลายเป็นเงินสกุลใหม่สำหรับใช้ในอาณาจักรของไลน์
เมื่อเราใช้บริการต่างๆของไลน์ มีการเขียนรีวิวก็จะได้ Token มาเป็นรางวัล เก็บไว้สำหรับใช้จ่ายในบริการของไลน์และพันธมิตร ซึ่งต่อไปจะเปิดกว้างให้ใช้ได้กับบริการต่างๆ
BITBOX
อีกหนึ่งกลยุทธ์ใหม่ของ LINE ก็คือจับตลาดใหม่อย่าง Cryptocurrency ที่เริ่มได้รับการยอมรับทั่วโลก ทางไลน์เองก็ได้เปิดให้บริการ BITBOX หรือตัวกลางในการแลกเปลี่ยนเงินสกุลดิจิทัล จากเงินสกุลนึงให้เป็นอีกสกุลนึงเท่านั้น แต่ไม่สามารถเงินสกุลดิจิทัลเป็นเงินจริงๆได้
ไลน์เองก็มองเห็นว่าตอนนี้มีเงินสกุลดิจิทัลเกิดขึ้นมากมาย การแลกเปลี่ยนสกุลเงินที่ทำได้อย่างปลอดภัยยังมีไม่มากก็เลยเกิดเป็นบริการนี้ขึ้นมา คาดว่า BITBOX จะเปิดให้บริการในช่วงเดือนกรกฎาคมปีนี้ โดยจะเข้ามาใช้บริการได้ทั่วโลกยกเว้นสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น ซึ่งเค้าจะใช้วิธีตรวจเช็ค IP addresses เพื่อไม่ให้ใช้งานได้ ส่วนภาษานั้นจะมีทั้งหมด 15 ภาษา โดยภาษาหลักจะเป็นอังกฤษ (ส่วนภาษาไทยและญี่ปุ่นจะไม่รองรับค่ะ)
ในช่วงแรกนั้นเราจะสามารถซื้อขายเงินดิจิทัลได้ประมาณ 30 สกุลเงินซึ่งประกอบด้วย Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH), Bitcoincash (BCH), Litecoin (LTC) ซึ่งสกุลเงินที่จะเข้ามาเทรดได้ต้องผ่านการรีวิวจากคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญก่อนว่าเป็นสกุลเงินที่ได้รับการยอมรับเพื่อป้องกันความเสี่ยงต่างๆที่จะเกิดขึ้นกับผู้ใช้ ส่วนค่าบริการจะคิดอยู่ที่ 0.1% ของมูลค่าการเทรดซึ่งในเดือนแรกที่เปิดให้บริการนั้นจะไม่คิดค่าบริการค่ะ เพื่อให้คนเข้ามาลองใช้งานกันก่อน
เรียกว่า LINE gรียกว่ารุกเข้าไปในทุกธุรกิจและเทรนด์เทคโนโลยีใหม่ๆที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะเรื่องฟินเทคที่จะส่งผลต่อการใช้ชีวิตของเราในอนาคต แน่นอนซึ่งตอนนี้สังคมก็เริ่มเปลี่ยนไปสู่ยุคลดการใช้เงินสดมากขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีของไลน์ก็จะมาช่วยเร่งให้คนใช้งานมากขึ้น
VIA LINE
