ผ่านไปแล้วกับ F8 developer conference งานใหญ่ของฝั่ง Facebook และนี่คือความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับ Facebook, Instagram, WhatsApp และ Messenger

หลังจากที่ปีที่แล้วทาง Facebook เองเจอมรสุมอย่างหนักทั้งในเรื่องของการเข้ารหัสข้อมูล, การรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว นั่นจึงเป็นแรงกดดันที่ทำให้ Facebook ต้องหาวิธีดึงให้คนกลับมาใช้แพลตฟอร์มตัวเองให้มากขึ้น ในงาน F8 เองก็มีการประกาศฟีเจอร์ใหม่หลายอย่างทั้ง Facebook เองรวมถึงแอปในเครืออย่าง Instagram, WhatsApp และ Messenger ลองไปดูกันว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง

Instagram

กล้องของ Instagram นั้นเรียกว่ามีฟีเจอร์ให้เลือกใช้งานเยอะมาก เพื่อให้ผู้ใช้ค้นหาฟีเจอร์ที่ต้องการง่ายขึ้น เค้าก็เลยเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่าโหมด Create ช่วยให้เราไม่ต้องเลือกรูปภาพหรือวิดีโอก่อนเพื่อสร้าง Stories เราสามารถใช้พื้นหลังเป็นสีจากนั้นก็ใส่ข้อความหรือรูปภาพ GIF ทับไปได้เลย

นอกจากนั้นยังมีการทดสอบซ่อนจำนวนคนกดไลค์และยอดวิวคนที่ดูคลิปวิดีโอเพื่อให้ผู้ที่ติดตามหันไปโฟกัสที่คอนเทนท์มากกว่าเครื่องมือวัดการมีส่วนร่วม เฉพาะคนที่ติดตามจะไม่เห็นข้อมูลเหล่านี้ แต่เจ้าของโพสต์ยังเห็นได้ด้วยการแตะไปยังโพสต์ที่ต้องการ ซึ่งเค้าจะเริ่มทดสอบฟีเจอร์นี้ที่แคนาดาในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

Instagram ยังมีการผลักดันเรื่องช็อปปิ้ง เปิดให้ผู้ใช้สามารถกดซื้อสินค้าได้จากบางแบรนด์ กดจ่ายเงินได้นนแอปเลยผ่าน shopping tags ที่เปิดตัวมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว ตอนนี้ทาง Facebook ได้ขยายความสามารถนี้ให้กับนักกีฬา,คนดังและเซเล็บได้ใช้ เช่น  Aimee Song, Kim Kardashian West, Candace Parker,Refinery29 ซึ่งตอนนี้จำกัดให้ใช้งานราวๆ 60 บัญชี และใช้งานได้เฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทาง Facebook ประกาศว่าจะช่วยให้ผู้ใช้ Instagram สามารถบริจาคเงินให้กับองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรได้ แบบเดียวกับฟีเจอร์ Charitable Giving บน Facebook มาวันนี้ Instagram ได้เพิ่มสติกเกอร์ใหม่ “donation stickers” บน stories สำหรับช่วยหาเงินบริจาคให้กับองค์กรอย่าง Black Girls Code, GLAAD และ No Kid Hungry ซึ่งเงินทุกบาทที่ส่งไปนั้นจะไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น

Facebook

มาดูฝั่งของ Facebook กันบ้าง เรื่องแรกคือ Facebook จะมีการออกแบบใหม่ทั้งหมดทั้งส่วนของแอปและการใช้งานบนหน้าเว็บ ซึ่งมีการทยอยปล่อยอัพเดทบน iOS และ Android ไปบ้างแล้ว ซึ่งน่าจะได้ใช้งานครบทุกประเทศภายในไม่กี่เดือนข้างหน้าในส่วนของเดสก์ท็อปนั้นจะเริ่มปล่อยตัวทดสอบในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเช่นกัน

ดีไซน์แบบใหม่นั้นจะเอาสีน้ำเงินที่หลายคนคุ้นเคยออกไป เน้นเป็นสีขาวให้ดูเรียบง่ายแต่มีความโมเดิร์น สะอาดตา ตัวโลโก้ก็เปลี่ยนจากสี่เหลี่ยมมาเป็นทรงกลม มีการย้ายไอคอนไปวางไว้ด้านบนให้เลือกกดได้สะดวกขึ้น รวมถึงมีการเพิ่ม Dark Mode มาให้ใช้งานด้วย

ฟีเจอร์ต่อมาคือการช่วยให้เราหาเพื่อนใหม่ได้ง่ายขึ้นกับฟีเจอร์  “Meet New Friends” โดยจะแนะนำคนที่แชร์ข้อมูลว่าอยู่โรงเรียนเดียวกัน, ทำอาชีพเดียวกันหรืออยู่เมืองเดียวกัน ส่วนใครที่แอบชอบเพื่อนตัวเองอยู่ Facebook Dating ก็เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ “Secret Crush” ที่จะเลือกรายชื่อของเพื่อน 9 คนที่เราแอบรักอยู่ได้ ในกรณีที่เพื่อนใจตรงกัน เลือกเราเหมือนกันก็จะส่งการแจ้งเตือนให้รู้ เรียกว่าเหมาะกับคนขี้อายมากๆ

Facebook เน้นเรื่องของ groups มากขึ้น ส่งเสริมให้คนใช้งานมากขึ้น ค้นหาสิ่งที่สนใจได้ง่ายขึ้น, แชร์ข้อมูลจาก groups ง่ายขึ้น รรวมถึงเพิ่มฟีเจอร์ใหม่อย่าง การโพสต์แบบไม่ระบุตัวตนสำหรับกลุ่มด้านสุขภาพ

Facebook Messenger 

ทาง Facebook มองว่าตลาดของ private messaging บนออนไลน์นั้นมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เฉพาะ messenger เองมีการใช้งาน VDO Call เติบโตปีละ 40% เลยทีเดียว เพื่อเพิ่มความสามารถการแข่งขันกับ FaceTime และ iMessage ของ Apple ทาง Facebook ก็เตรียมออกแอปสำหรับใช้งานบนแล็ปท็อปจากก่อนหน้านี้เราใช้งานได้ผ่านหน้าเว็บเท่านั้น แถมยังไม่สามารถใช้ฟีเจอร์อย่าง group calling เหมือนบนมือถือได้ ซึ่งแอปบนคอมพิวเตอร์นี้จะใช้ความสามารถเหล่านี้ได้ครบถ้วน

ในส่วนของความบันเทิงนั้น Facebook เตรีนมทดสอบฟีเจอร์ “group watch” สำหรับชวนเพื่อนผ่าน Messenger มาดูคลิปวิดีโอพร้อมกัน แถมยังแชทได้แบบ real time คล้ายๆ Twitch

WhatsApp 

ธุรกิจไหนที่กำลังใช้ WhatsApp ตอนนี้สามารถสร้างโปรไฟล์ บรรยายสรรพคุณบริษัทและเบอร์ติดต่อได้แล้ว รวมถึงแสดงแคตาล็อกของผลิตภัณฑ์บนโปรไฟล์ในแอป เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้ ซึงฟีเจอร์นี้พัฒนาเพื่อบริษัทที่ไม่ได้มีเว็บไซต์ของตัวเอง ในบางประเทศเช่น อินเดีย ช่วยให้ขายของผ่านออนไลน์ได้ง่ายขึ้น

ความเป็นส่วนตัวคือเรื่องสำคัญ

แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่ Mark Zuckerberg เน้นย้ำก็คือ ความเป็นส่วนตัวที่จะให้อิสระในการแสดงความเป็นตัวตนของเรา จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เราจะสื่อสารอย่างรวดเร็วในกลุ่มเล็ก ซึ่งเค้าเชื่อว่า ความเป็นส่วนตัวคืออนาคต แต่หลายคนไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องนี้

Zuckerberg เองตั้งใจจะผลักดันให้ Facebook เป็น “สื่อสัวคมออนไลน์ที่มีความเป็นส่วนตัว (private social platform)” รวมถึงแอปทั้งหมด WhatsApp, Messenger, Instagram และ Facebook

VIA BuzzfeedsNews