ปัญหาเรื่องเงินๆทองๆนี่เรื่องใหญ่นะคะ เวลาซื้อของหรือโอนเงินให้ใครผ่านช่องทางต่างๆทั้งตู้เอทีเอ็ม Internet Banking หรือ Mobile Banking ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตามแล้วเราเกิดโอนเงินไปผิดบัญชีก็อย่าเพิ่งตกใจไปค่ะ ตั้งสติแล้วมาดูวิธีการแก้ว่าต้องทำไงบ้าง
- เก็บหลักฐานการโอนเงินไว้ให้ดีทั้งสลิปจากการโอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม หรือบันทึกหน้าจอการโอนเงินหากโอนผ่าน Internet Banking หรือ Mobile Banking สิ่งพวกนี้สำคัญมากๆ
- ติดต่อธนาคารต้นทาง (ธนาคารที่เราใช้โอน) เพื่อแจ้งปัญหา ธนาคารจะแนะนำวิธีการหรือร้องขอเอกสารที่จะใช้ดำเนินการและแจ้งระยะเวลาดำเนินการ(แต่ละธนาคารจะมีวิธีการแตกต่างกัน) เอกสารที่ทางธนาคารมักจะขอก็คือ
- หลักฐานการโอนเงินต่างๆ จากข้อ 1 ที่มีข้อมูลวันที่-เวลาทำรายการ จำนวนการโอน ช่องทางการโอน
- ข้อมูลเกี่ยวกับบัญชี เช่น ชื่อบัญชี เลขที่บัญชี ของผู้โอน ผู้ที่เราต้องการโอนไปให้ และผู้รับโอนผิด
- ใบแจ้งความหรือบันทึกประจำวัน ซึ่งทำได้โดยการนำหลักฐานการโอนเงินและสำเนาบัตรประชาชนไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ
- เมื่อทางธนาคารตรวจสอบแล้วว่าเราเป็นเจ้าของเงินที่โอนผิดจริงก็จะติดต่อเจ้าของบัญชีปลายทางเพื่อยินยอมให้โอนเงินคืน เพราะทางธนาคารไม่มีสิทธิ์ตัดเงินออกจากบัญชีใครโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบัญชี ซึ่งในขั้นตอนนี้ผลจะออกมา 2 กรณีคือ
- ยอมโอนเงินคืน – ทางธนาคารจะดำเนินการโอนเงินคืนให้
- ไม่ยอมโอนเงินคืน หรือติดต่อไม่ได้ – เราต้องดำเนินการแจ้งความเพื่อออกคำสั่งทางกฎหมายให้ธนาคารปลายทางอายัดบัญชีหรือเปิดเผยข้อมูลบัญชีของบัญชีปลายทางเพื่อให้เราดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ในทางกลับกัน หากเราเป็นคนที่ได้รับเงินที่โอนเข้าผิดบัญชีหรือมีเงินเข้าบัญชีโดยไม่รู้ที่มาที่ไป อย่าเพิ่งใช้เงินนั้นเด็ดขาดไม่ว่าจะเป็นเงินจำนวนเท่าไหร่ และอย่าเพิ่งรีบโอนเงินคืนเองหากมีคนติดต่อมา(รวมทั้งไม่บอกข้อมูลส่วนตัวสำคัญกับคนที่โทรมา) ให้แจ้งไปว่าจะติดต่อกับธนาคารเพื่อตรวจสอบว่าเงินนั้นมาจากไหน แล้วให้ทางธนาคารดำเนินการให้เพื่อป้องกันกลลวงจากมิจฉาชีพนะคะ
เวลาโอนเงินหรือทำรายการอะไรก็ตามแต่ที่เกี่ยวกับเรื่องเงินๆทองๆต้องตั้งสติให้มากๆ ตรวจสอบให้ดีแบบละเอียดเลยนะคะ ไม่ใช่ว่าจะโชคดีได้เงินคืนกันทุกคน สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือหลักฐานการทำรายการต่างๆนี่แหล่ะค่ะ เก็บไว้ให้ดีเลย จะได้ไม่มีความยุ่งยากเพิ่มขึ้นไปอีก