เสียวหมี่ (Xiaomi) ประกาศเปิดตัว  Redmi Note 10 Series สมาร์ทโฟนระดับกลางตระกูลใหม่ล่าสุด ประกอบไปด้วยสมาร์ทโฟนรุ่น Redmi Note 10 Pro, Redmi Note 10S, Redmi Note 10 และ Redmi Note 10 5G

 

สมาร์ทโฟนในตระกูล Redmi Note ยังคงสานต่อพันธกิจของเสียวหมี่ที่จะส่งมอบนวัตกรรมสมาร์ทโฟนชั้นยอดสู่ผู้ใช้งานทุกคนและสร้างนิยามใหม่ในฐานะผู้นำตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลางด้วยจุดเด่นที่แตกต่างกันในแต่ละรุ่น ไม่ว่าจะเป็นกล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซลเพื่อนักเดินทางตัวจริง กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซลเพื่อผู้รักการผจญภัย หน้าจอ AMOLED สำหรับนักสำรวจตัวยง และนวัตกรรม 5G สำหรับผู้บุกเบิก

Redmi Note 10 Pro: ครั้งแรกของตระกูล Redmi Note กับกล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซลและหน้าจอ AMOLED ที่มีอัตราการแสดงผล 120Hz

Redmi Note 10 Pro ก้าวขึ้นเป็นที่สุดของสมาร์ทโฟนกลุ่มระดับกลางที่มีฟีเจอร์ด้านการถ่ายภาพยอดเยี่ยม ด้วยกล้องหลักความละเอียดสูงที่สุดในท้องตลาด 108 ล้านพิกเซล ซึ่งรองรับทั้งเทคโนโลยีการผสานพิกเซลแบบ 9 ต่อ 1 (9-in-1 binning technology) และเทคโนโลยีวงจรการตรวจจับค่าความไวแสงแบบคู่ (Dual native ISO) จึงให้รายละเอียดภาพที่ครบถ้วนที่สุด มีรายละเอียดแสงที่โดดเด่นชัดเจน และรองรับการปรับแต่งภาพได้อย่างไร้ขีดจำกัด นอกจากนี้ Night Mode 2.0 ที่มีอัลกอริธึมการถ่ายภาพมัลติเฟรมแบบไฟล์ RAW ยังช่วยให้ผู้ใช้ถ่ายภาพที่งดงามได้แม้ในสภาพแสงน้อย

Redmi Note 10 Pro ยังมีโหมดการบันทึกวิดีโอ Timelapse แบบ Pro และแบบ Telemacro รวมทั้งยังมีฟีเจอร์ด้านการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโออีกมาก ทั้งโหมด Photo Clones, Video Clones, Dual Video และ Long Exposure ให้ผู้ใช้แชร์รูปภาพหรือวิดีโอสนุกๆ บนโลกโซเชียลได้อย่างไม่มีข้อจำกัด

Redmi Note 10 Pro ดีไซน์สวยงามและทนทานเนื่องจากใช้กระจกหน้าจอ Corning® Gorilla® Glass 5 ที่ทนต่อแรงขีดข่วนและการกระแทกเพื่อประสบการณ์การใช้งานที่เหนือระดับ เสียวหมี่ยกระดับงานออกแบบของ Redmi Note 10 Pro ไปอีกขั้น เสริมด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ ทั้งปุ่มสแกนลายนิ้วมือด้านข้างแบบโค้ง และการใช้หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้วแบบ DotDisplay ที่รองรับอัตราการแสดงผล 120Hz มี 3 สีให้เลือกได้แก่ Onyx Gray, Glacier Blue และ Gradient Bronze

Redmi Note 10 Pro ใช้ Qualcomm Snapdragon 732G ซึ่งเป็นชิปเซ็ตประมวลผล 4G ที่ทรงพลังที่สุดในท้องตลาด จึงมีประสิทธิภาพสูงสำหรับผู้ใช้งานทุกรูปแบบรวมถึงเหล่าเซียนเกมและคนชอบดูซีรีส์ อีกทั้งยังประหยัดพลังงาน มาพร้อมลำโพงแบบคู่ และใช้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5,020mAh (typ) ซึ่งรองรับการชาร์จแบบเร็ว 33W

Redmi Note 10S และ Redmi Note 10: สร้างนิยามใหม่เพื่อประสบการณ์ที่เหนือกว่าในการใช้งานสมาร์ทโฟนระดับกลาง

Redmi Note 10S และ Redmi Note 10 มอบประสบการณ์การใช้งานที่เยี่ยมยอดด้วยหน้าจอ AMOLED แบบ DotDisplay ขนาด 6.43 นิ้ว สมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นนี้ยังได้รับการอัพเกรดดีไซน์และมีการเสริมฟีเจอร์เช่นเดียวกับ Redmi Note 10 Pro ทั้งปุ่มสแกนลายนิ้วมือด้านข้างแบบโค้ง การรองรับการชาร์จแบบเร็ว 33W เซนเซอร์วัดแสงแบบ 360 องศา และลำโพงคู่

Redmi Note 10S และ Redmi Note 10 ช่วยให้ผู้ใช้บันทึกเหตุการณ์อันน่าประทับใจด้วยชุดกล้องหลัง 4 ตัว ประกอบไปด้วยกล้องอัลตร้าไวด์ความละเอียด 8 ล้านพิกเซลลำหรับการถ่ายภาพหมู่ กล้องมาโครความละเอียด 2 ล้านพิกเซล กล้องวัดระยะชัดลึกความละเอียด 2 ล้านพิกเซลสำหรับช่วยการถ่ายภาพพอร์ตเทรต และกล้องหลักที่มีความละเอียดแตกต่างกัน กล่าวคือ Redmi Note 10S ใช้กล้องหลักที่มีความละเอียด 64 ล้านพิกเซลซึ่งเหนือกว่ากล้องหลักของสมาร์ทโฟน Redmi Note Series รุ่นก่อนหน้า อีกทั้งยังมีความละเอียดมากกว่ากล้องหลักของสมาร์ทโฟนแฟลกชิปบางรุ่นอีกด้วย ขณะที่ Redmi Note 10 นั้นมีกล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซลที่ให้คุณภาพภาพถ่ายที่งดงาม นอกเหนือจาก Slow Motion, Night Mode และ Timelapse สมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นยังมีฟีเจอร์ด้านการถ่ายภาพใหม่เพิ่มเติมคือโหมดบันทึกวิดีโอ Timelapse Pro

Redmi Note 10S ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Helio G95 เพื่อประสิทธิภาพการทำงาน การเล่นเกมและการประมวลผลกราฟิกที่ดีขึ้นด้วยความเร็วการประมวลผลกราฟิกที่ 900MHz ในขณะที่ Redmi Note 10 ใช้ชิปเซ็ตรุ่นใหม่ล่าสุด Qualcomm Snapdragon 678 ที่ให้การทำงานที่เรียบลื่นตลอดการใช้งานทั้งวัน

Redmi Note 10 5G: สมาร์ทโฟน 5G สำหรับทุกคน

5G คือยุคใหม่ของสมาร์ทโฟน และเสียวหมี่พร้อมนำเสนอสมาร์ทโฟน 5G รุ่นที่ราคาเป็นมิตรที่สุดในท้องตลาดโดยไม่ตัดทอนฟีเจอร์สำคัญออกไป Redmi Note 10 5G ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 700 แบบ 7นาโนเมตร รองรับการเชื่อมต่อแบบ 5G ทั้ง 2 ช่องซิมการ์ดและมีโมเด็ม 5G มาในตัว ให้ประสิทธิภาพเทียบเคียงสมาร์ทโฟนแฟลกชิปและประหยัดพลังงาน

Redmi Note 10 5G ใช้หน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว แบบ AdaptiveSync DotDisplay รองรับอัตราการแสดงผลที่ 90Hz ซึ่งสามารถปรับอัตราการแสดงผลตามเนื้อหาต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติ เช่น การสตรีมวิดีโอที่ 30 หรือ 60 Hz หรือการใช้โซเชียลมีเดียและการเล่นเกมที่ 90Hz ช่วยให้การใช้งานลื่นไหลและใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Redmi Note 10 5G ใช้กล้องหลังที่เปี่ยมประสิทธิภาพ อันประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล กล้องมาโครความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้องวัดระยะชัดลึกที่ 2 ล้านพิกเซล ผู้ใช้จึงถ่ายภาพได้อย่างสะดวกสบายขึ้น นอกจากนี้ยังมีแบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh (typ) ซึ่งรองรับการชาร์จแบบเร็วที่ 18W จึงสะดวกสบายสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

ท้ายที่สุด Redmi Note 10 Series ยังเป็นสมาร์ทโฟนที่เป็นพันธมิตรกับการแข่งขัน PUBG MOBILE Esports 2021 ในทวีปยุโรปและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ยกเว้นประเทศอินเดีย) ผู้ใช้สมาร์ทโฟน Redmi Note 10 Series ทุกคนจึงสามารถสัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมที่เหนือระดับได้