กลายเป็นไวรัลไปทั่วโลกแล้วกับโครงการ “MAKE INSTAGRAM INSTAGRAM AGAIN” บน Change.org ที่มีคนร่วมลงชื่อกว่า 114,000 คนแล้ว แถมยังมีคนดังช่วยแชร์ ร่วมทวงคืน Instgram กลับมาให้เป็นเหมือนเดิม


ก่อนหน้านี้ทาง Mark Zuckerberg ผู้บริหารของ Meta ได้ประกาศอย่างชัดเจนว่า จะผลักดัน Instagram เพื่อแข่งกับ TikTok ที่มาแรงสุดๆ ด้วยการปรับการแสดงผลเนื้อหาบนหน้าฟีด จากเดิมที่โชว์เนื้อหาจากคนที่เราติดตามน้อยลง พร้อมนำ AI มาช่วยแนะนำให้เราเจอเนื้อหาที่คาดว่าเราจะสนใจจากคนที่เราไม่ได้กดติดตามมากขึ้น นอกจากนั้นยังมีการบังคับให้คลิปวิดีโอที่โพสต์ปรับให้เป็น Reels หรือวิดีโอแนวตั้งทั้งหมด เพื่อตามรอยความสำเร็จของ TikTok ที่กลายเป็นช่องทางยอดฮิตของคนรุ่นใหม่

สิ่งเหล่านี้กำลังทำลายจุดแข็งของ Instgram ที่เริ่มต้นมาจากการเป็นแพลตฟอร์มโชว์รูปภาพสวยๆ จากเพื่อนหรือคนที่น่าสนใจ นั่นทำให้ผู้ใช้ Insatgram หลายคนไม่พอใจ จนเกิดแคมเปญทวงคืน Insatagram ที่เราคุ้นเคยกลับมาบน Change.org ซึ่งตอนนี้มีคนร่วมลงชื่อแล้วมากกว่า 114,000 คน
แคมเปญนี้มีชื่อว่า “MAKE INSTAGRAM INSTAGRAM AGAIN” หยุดทำตัวเป็น TikTok ฉันต้องการเห็นรูปน่ารักๆจากเพื่อนๆ สร้างโดย Tati Bruening อินฟลูเอนเซอร์และช่างภาพที่ต้องการเปลี่ยน Instagram ให้กลับไปเป็นแบบเดิม โดยเน้น 4 เรื่องใหญ่ๆ คือ
  • เอาหน้าฟีด เรียงตามไทม์ไลน์กลับมา เราไม่ต้องการความยุ่งยาก แค่อยากเห็นสิ่งที่เพื่อนโพสต์ทันทีที่ลงรูป อยากเห็นช่วงเวลาดีๆแบบ Realtime
  • หยุดที่จะเป็น TIKTOK! เราใช้ Tiktok เพราะมันคือ TikTok แต่ Reels คือการเอา TikToks มารีไซเคิล
  • อัลกอริทึมเน้นรูป! กลับไปยังรากเหง้าเดิม คือ การแชร์รุปภาพ เราไม่ได้อยากมีวิดีโอ อย่าเดินหลงทาง
  • ฟังเสียงครีเอเตอร์!  การเปลี่ยนอัลกอริทึมนั้นส่งผลกระทบต่อครีเอเตอร์ ซึ่งอุทิศตนให้แพลตฟอร์มแห่งนี้ ทำให้ต้องเปลี่ยนทิศทางการทำเนื้อหาและไลฟ์สไตล์ให้เข้ากับอัลกอริทึมใหม่ จงฟังเสียงพวกเขาเหล่านี้แล้วเก็บเอาไปคิด

หลังจากที่แคมเปญนี้ถูกปล่อยออกไป ก็มีคนดังและอินฟลูเอนเซอร์เข้ามาสนับสนุนหลายราย เช่น Kylie Jenner คนที่มีอิทธิพลต่อกลุ่มคนคนรุ่นใหม่ มีผู้ตามบน Instagram กว่า 36 ล้านคน ซึ่งเป็นการจุดกระแสออกไปในวงกว้าง

Kylie Jenner Instagram Story

 

คนต่อมาก็คือ Kim Kardashian ที่มีผู้ติดตามบน IG มากกว่า 326 ล้านคน ก็ได้แชร์ภาพและลิงก์ร่วมลงชื่อบนบัญชีของตัวเอง

การเพิ่มฟีเจอร์บางอย่างนั้นถือเป็นเรื่องสมเหตุสมผลเพราะพฤติกรรมผู้ใช้นั้นก็เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา  แต่การที่เปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นเหมือนคู่แข่งโดยลืมจุดกำเนิดของตัวเอง เป็นสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการจริงๆรึเปล่า นี่คือสิ่งที่ Instagram ต้องตอบคำถามให้ได้ เพราะไม่อย่างนั้นก็จะสูญเสียผู้ใช้ออกไป ถ้ามีแอปใหม่ที่สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้ได้มากกว่า คนก็พร้อมที่จะย้ายไปใช้งานสิ่งที่คิดว่าใช่เสมอ แล้วคุณล่ะเห็นด้วยกับแคมเปญนี้หรือไม่ แสดงความเห็นกันได้นะ

ที่มา socialmediatoday