หลายคนยังไม่รู้ว่ามีการเก็บภาษีจากสื่อเปล่าๆชนิดที่บันทึกได้อยู่ วันนี้เรามาลองทำความรู้จักกับมันกันดีกว่า
Blank media tax หรือ private copying levy เป็นภาษีที่รัฐบาลเรียกเก็บเงินเพิ่มจากการซื้อสื่อชนิดที่บันทึกได้ (recordable media) เช่น เทปคาสเซ็ทเปล่า แผ่นซีดี/ดีวีดี/บลูเรย์ชนิดที่บันทึกข้อมูลลงไปได้ รวมถึง USB flash drive ด้วย มันถูกเริ่มต้นใช้ครั้งแรกเมื่อเทปคาสเซ็ทเริ่มเป็นที่นิยม สาเหตุที่เค้าต้องออกกฎหมายเพื่อเก็บภาษีตัวนี้ขึ้นมาก็เพราะว่า สื่อบันทึกข้อมูลเปล่าๆจะส่งผลกระทบต่อยอดขายของเทปเพลงที่วางขายทั่วไป เพราะคนสามารถนำมาก็อปปี้คอนเท้นท์ลงไปได้ ซึ่งภาษีส่วนนี้จะนำไปชดเชยให้กับอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ หลายคนอาจจะเถียงว่าการเก็บภาษีสื่อแบบบันทึกได้ก็ไม่ยุติธรรมกับทุกคนสิ เพราะคนซื้อก็ไม่ได้เอาไปทำสำเนาไฟล์ละเมิดลิขสิทธิ์ทุกคน บางคนก็ใช้เก็บไฟล์ส่วนตัว,ไฟล์งานที่สร้างขึ้นมาเองหรือไฟล์รูปถ่ายจากกล้องดิจิตอล ซึ่งคนกลุ่มนี้ต้องมาแบกรับภาษีไปด้วย และคำถามที่ตามมาอีกข้อก็คือสื่อแบบบันทึกได้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงกับอุตสาหกรรมเพลงและหนังจริงหรือ
ในประเทศเยอรมัน ผู้บริโภคก็กำลังช็อคอย่างมากกับเรื่องภาษีตัวนี้ที่เก็บจาก USB flash drive ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย จากเดิมเก็บแค่ 10 เซนต์หรือ 3 บาทต่อตัวเท่านั้น แต่ในปัจจุบันมันกลับเพิ่มเป็น 1.93 $ ต่อตัวใน USB flash drive ที่มีความจุไม่เกิน 4GB ส่วนอันที่มีความจุเกินกว่านี้จะทำการเก็บ 2.42$ ต่อตัว นั่นหมายความว่าภาษีพุ่งขึ้นจากเดิมถึง 1,850% และ 2,338% ตามลำดับ
ถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการประกาศเหตุผลชี้แจงออกมาว่าทำไมภาษีถึงต้องเพิ่มสูงขึ้นมากขนาดนี้ ในขณะที่บทความใน Federal Gazette เดาว่าน่าจะเป็นค่าชดเชยจากการละเมิดลิขสิทธิ์ ส่วนบริษัท GEMA และ VG Bild-Kunst ที่อยู่ในอุตสาหกรรมดนตรีของเยอรมันที่มีส่วนผลักดันให้มีการเรียกเก็บภาษีสูงขึ้นก็ออกมาบอกว่าผู้ใช้มีสิทธิในการ backup copy บนสื่อต่างๆเหล่านี้ แต่การอ้างแบบนี้ก็ดูเหมือนเป็นเรื่องที่น่าขันเพราะมันไม่เกี่ยวกับ fair use copying policy เลย การขึ้นภาษีสูงถึง 2000% ดูเป็นอะไรที่ไม่สมเหตุสมผลเลย มีแต่ผู้บริโภคในเยอรมันที่ต้องรับกรรมซื้อของในราคาที่แพงขึ้นเท่านั้น
VIA geek