กีฬาสมัยนี้ได้รับความนิยมขึ้นมากกว่าแต่ก่อน ไม่ว่าจะเป็น เด็ก วัยรุ่น วัยกลางคน ผู้สูงอายุ ทั้งชายและหญิง ต่างก็หันมาให้ความสนใจ เกาะกลุ่มชวนกันไปกำลังกายกันตามสถานที่ต่างๆ เช่น สวนลุมพินี สวนรถไฟ สวนจตุจักร หรือสวนสาธารณะตามสถานที่ต่างๆ วันนี้เราเลยลองสุ่มอันดับความชอบในกีฬาแต่ละชนิดของแต่ละวัยว่า วัยใดชอบออกกำลังกายแบบใดกันมากที่สุด

runtastic-1

  1. วัยเด็ก – จักรยาน , ฟุตบอล , ว่ายน้ำ , เทควันโด
  2. วันรุ่น  –  ฟุตบอล , จักรยาน , วิ่ง , ฟิตเนสในร่ม
  3. วัยกลางคน –  จักรยาน , วิ่ง , โยคะ , ฟิตเนส
  4. วัยสูงอายุ  –   เดิน , วิ่ง , รำไทเก๊ก , รำจี้กง , เปตอง

สิ่งเหล่านี้เป็นกีฬาแต่ละประเภทแต่ละชนิดที่แต่ละคนชื่นชอบก็จะต่างกันไป แต่สิ่งที่เหมือนกันคือมันคือการออกกำลังกาย ต้องเสียเหงื่อ สร้างภูมิต้านทาน ซ่อมแซมส่วนต่างๆ แต่การออกกำลังกายบางทีเราก็อยากรู้ว่าวันนี้หัวใจเต้นไปแค่ไหนนะ ปรกติหรือเปล่า เราเสียแคลลอรี่ไปเท่าไรเพียงพอที่จะลดความอ้วน วิ่งไปกี่รอบ ความเร็วเท่าไร มันต้องมีบ้างละหนาสำหรับความคิดแบบนี้และก็คิดว่าส่วนใหญ่ก็จะคิดซะด้วยซิ วันนี้เราเลยมาลองรีวิวเจ้านวัตกรรมตัวนี้กันดีกว่า ที่สามารถวัดสิ่งที่เกริ่นเมื่อสักครู่นี้ได้ เจ้าสิ่งนี้คือ Runtastic GPS Watch And Heart Rate Monitor แค่ชื่อก็รู้ละว่ามันต้องเกี่ยวกับหัวใจแน่ๆ ลองมาดูหน้าตา คุณสมบัติ และอุปกรณ์ของนาฬิกาเจ้าตัวนี้กันดีกว่า 

Runtastics เป็นชื่อ Brand สินค้าที่ออกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการกีฬาไว้หลายอย่าง ที่ได้เปิดอย่างเป็นทางการไปเมื่อช่วงต้นเดือนกุมพาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมาในงาน Thailnad Mobile Expo 2014 ได้รับตอบการรับที่ดีจากผู้เข้าชมและทดลองสินค้า ผลิตภัณฑ์ตัวนึงที่ได้รับความนิยมมากไม่แพ้ซีรี่อื่นของ Runtastics คือ  Runtastic GPS Watch And Heart Rate Monitor เป็นรูปแบบของนาฬิกาที่มาพร้อมกับระบบตั้งเตือนพร้อมให้คุณตื่นตัวที่จะเข้าสู่โหมดออกกำลังกาย เพียงแค่เลือกโหมดให้เหมาะกับประเภทกีฬาที่คุณกำลังจะเล่น อีกทั้งยังช่วยเป็น Training and Trainner  ไปในตัวในระหว่างที่เล่นกีฬา ในส่วนของโหมดนั้นใหญ่ๆ ประกอบการวัดระดับการเต้นของหัวใจ การวัดระดับความชัน ความเร็วในการวิ่ง ค่าเฉลี่ยของชนิดแต่ละประเภทของกีฬา

และเวลาทั้งหมดที่ใช้ไป ทั้งนี้ยังถูกออกแบบมาให้มีระยะในใช้งานในยาวอีกด้วย  16 ชั่วโมง จัดเต็มครับ และที่พิเศษคือเจ้านาฬิกาตัวนี้ติดระบบนำร่อง GPS ในตัวทำให้การอ่านค่าเฉลี่ยของแต่ละค่านั้นมีความเสถียรยิ่งขึ้น อีกทั้งยังนำค่าเฉลี่ยเหล่านี้ถ่ายโอนข้อมูลผ่านสายชาร์จ USB ได้ทั้ง Window และ Mac ได้อีกด้วย

อุปกรณ์   กล่องนาฬิกาข้อมือรุ่นนี้ผลิตจากกระดาษเนื้อแข็งอย่างดีแต่ขนาดค่อนข้างใหญ่สำหรับกล่องนาฬิกาโดยทั่วไป ลองมาดูว่ามีอะไรด้านในดีกว่า เปิดออกก็จะเจอดังภาพข้างล่างนี้ครับ

1. นาฬิกา Runtastic GPS Watch วัสดุตัวสายและตัวเรือนผลิตจากยางโพลีเมอร์ ดูผ่านๆ ก็คือนาฬิกาดิจิตอลโดยทั่วไป ตัวสายออกแบบให้เป็นการใส่แบบรัดเข็มสอดเก็บสายเหมือนนาฬิกาทั่วๆไป ด้านหลังที่ใส่แบเตอรี่และแผ่นหมุดขั้วทองแดงไว้สำหรับชาร์จไฟ ตรงหน้าปัดมีปุ่มทั้งคอนโทรวทั้ง 4 ด้าน ประกอบไปด้วย

runtastic-2

– ซ้ายบน ปุ่มเปิดไฟในตอนกลางคืนหรือที่มืด

– ซ้ายล่าง ปุ่มปรับเข้าโหมดต่างๆ เช่น โหมดวัดรอบการวิ่ง ค่าเฉลี่ยระยะทางและเวลา จำนวนแคลเลอรี่ที่เสียไป และระดับการเต้นของหัวใจ , โหมดเข็มทิศช่วยให้คุณไม่หลงขณะที่ออกกำลังกายและระบบ GPS

– ด้านขวาบน ปุ่มสตาทและหยุดเพื่อทำการจับเวลาและค่าเฉลี่ยต่าง ๆ

– ตรงกลางปุ่มสีฟ้า เป็นปุ่ม View คอยดูสถานะของตัวเครื่อง เช่น แบตเตอรี่ จับเวลา ดูเวลา และตั้งปลุกคอยเตือน

– ด้านมุมขวาล่าง  ดูพวกรอบและคอยกดรีเซทเพื่อเริ่มใหม่ 

2. สายรัดคาดอก ตัววัดอัตราการเต้นของหัวใจ วัสดุเป็นแถบยางพลาสติกปนผ้ายืด ปรับขนาดได้เพื่อรองรับขนาด ของรอบอกผู้ใช้ ตรงกลางสายเป็นตัวส่งสัญญานไปที่ตัวรับคือนาฬิกาถึงการเต้นระดับของหัวใจ ใช้งานด้วยการใส่ถ่านก้อนแบน ด้านหลังเป็นเลขรหัสของผลิตภัณฑ์

runtastic-3

3. สายชาร์จ เป็นสายชาร์จแบบ USB สามารถเชื่อมต่อเข้ากับ CPU ได้ทั้งสองระบบทั้ง Window , Mac เพื่อโอนถ่ายข้อมูลหลังจากเล่นกีฬาเสร็จ เพื่อวัดค่าเฉลี่ยของตนเองว่าได้ระดับที่ตั้งไว้หรือไม่ ส่วนตัวหัวของสายชาร์จ จะเป็นตัวคลิปหนีบเพื่อชาร์จไฟกับตัวนาฬิกา

runtastic-4

4. แปรงปัดฝุ่นทำความสะอาดขนาดเล็ก ธรรมดาไม่มีอะไรพิเศษ

5. แท่นยึดติดกับแฮนด์จับของจักรยาน เผื่อในกรณีที่เราปั่นจักรยานแล้วอยากดูโดยที่ไม่ต้องยกข้อมือขึ้นมาดูระดับต่างๆ ทำโดยมานำสายรัดนาฬิกาสอดสายเข้ากับตัวแท่นแล้วล๊อก ง่ายมากสบายๆ

runtastic-5

 

การใช้งานและการตั้งค่า

  1. Runtastic Gps Watch เป็นระบบ Dual Camera ตั้งเวลาดูได้สองประเทศ ล๊อกหน้าจอได้โดยการกดปุ่ม Light and View ค้างไว้เท่านั้น อีกทั้งรุ่นนี้สามารถบันทึกบันทึกเส้นทางการออกกำลังกายของเราได้ทั้งหมด 10 เส้นทาง โดยบันทึกผ่านระบบ GPS ที่ตัวนาฬิกา แต่จะสามารถบันทึกได้เพียง 1 ครั้งต่อ 1 เส้นทางเท่านั้น โดย 1 เส้นทางจะมี Waypoint 99 จุดเป็นตัวคำนวนเส้นทางให้ในแต่ละจุดเพื่อเชื่อมโยงกับเส้นทาง เราลองมาดูการเข้า Mode ต่างๆ ดูกันดีกว่า

การตั้งค่าเข้าได้อย่างง่ายได้เพียงแค่กดปุ่ม Mode ค้างไว้ ส่วนการทำงานของปุ่มต่างๆ จะแบ่งแบบนี้

St./STP. ตัวเลื่อนขึ้น ,  View ปุ่มสีฟ้าทำหน้าที่เป็นตอบตกลงหรือ Confirm , Lap/Reset เป็นตัวเลื่อนลง หากต้องการออกจากโหมดต่างๆ ก็กด Mode อีกที เมื่อเราได้แถบปุ่ม Control ต่างๆ แล้วต่อไปจะมานูในขึ้นตอนของ Mode Adjustment กันละ พอกด Mode ค้างไว้ แถบเมนูก็จะปรากฎขึ้นมาเยอะแยะชวนหัวปวดแก่นกันไปนาน แต่ละโหมดและการทำงานมีดังต่อไปนี้

Workout – ประกอบไปด้วย   Profile , History ,  Smartlab , Viewscan , Tracklog , Delete โดยโหมดนี้จะเป็นการตั้งค่าเซทประเภทของกีฬาของผู้ใช้ว่าต้องการประเภทใด เช่น วิ่ง , พายเรือ , ปีนเขา , จักรยาน อีกทั้งยังสามารถบันทึกหรือลบได้อีกด้วย

Navigation – โหมดนี้จะใช้เพื่อการเซทค่าการเดินทางของกีฬา สามารถบันทึกได้ถึง 10 เส้นทาง

GPS –  โหมดเปิดปิดการใช้งานระบบนำร่อง GPS แถมตั้งเวลาเปิดปิดทั้งแบบ 5 นาที หรือ 30 นาที

HRM หรือ Heart rate monitor  –  ตัวตั้งค่าปิดเพื่อซิ้งเข้ากับสายคาดอกเพื่อทำการจดบันทึกค่าต่างๆ เช่น สุขภาพ เบิร์นไปกี่แคลลอรี่ อีกทั้งยังเปิดสัญญานการเตือนได้อีกด้วย

Setting –  โหมดการตั้งค่าระบบพื้นฐานของเครื่อง เช่น วัน เดือน ปี , เพศ น้ำหนัก ส่วนสูงของผู้ใช้

ระบบการเตือนต่างๆ , เสียงปุ่มกด ความคมชัดของหน้าจอ

Memory – ดูค่าบันทึกความจำและข้อมูลว่าตัวเครื่องใช้ไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว คิดเป็น % ออกมา

  1. การใช้งานของนาฬิกาในขณะที่ออกกำลังกายและรับส่งสัญญานผ่านสายคาดตรงหน้าอกนั้น ทำออกมาได้ตรงกับค่าความจริงที่ผู้ใช้ต้องการหากนำไปเทียบข้อมูลกับรุ่นอื่นๆ ที่ใช้งานพร้อมกัน
  2. ความเร็ว , ค่าเฉลี่ยต่างๆ สมจริงและสะดวกการเตือนของระบบหากถึงจุดที่กำหนดไว้ก็เตือนได้อย่างแม่นยำ
  3. การใช้งานของแบตเตอรี่ถือว่าผลิตออกมาได้ดีมาก 16 ชั่วโมงนี้คุ้มจริงๆ
  4. ส่งลิ้งข้อมูลผ่านสาย Data และยังแชร์ข้อมูลผ่านได้ทั้ง Facebook , Twitter อันนี้ชอบมาก

 

ข้อดีข้อเสียหลังการใช้งาน

ข้อดี        1.  ระบบการทำงานค่อนข้างแม่นยำและเสถียร

2.  วัสดุตัวสายตัวเรือนออกแบบผลิตภัณฑ์ได้ตรงจุดของการออกกำลังกาย

3.  แบตเตอรี่ใช้งานได้นานมาก แม้ว่าจะเปิดระบบ GPS ทิ้งไว้ก็ตาม

4.  ระบบเสียงเตือนเสียงดังใช้ได้ แม้กระทั้งอยู่ระหว่างการเล่นกีฬาก็ตาม

ข้อเสีย     1.  ระบบ GPS ยังคงหาสัญญานได้ไม่ค่อยดีเท่าไรหากวันใดมีเมฆหรือฟ้าฝน

2.  สายคาดอกสร้างความรำคาญและอึดอัดในระหว่างการเล่นกีฬา

3. ไฟส่องหน้าปัดทำออกได้ค่อนข้างแย่เลย คือมองเห็นเป็นเงาๆ เรืองแสงออกเขียวๆ ทำให้องศาการมองหน้าปัดนั้นดูดรอปลงไปมาก ทำแบบนี้ออกเป็นจอสีเลยดีกว่า

4.  สายชาร์จหรือเข็มตัวชาร์จไฟที่ต่อเข้ากับด้านใต้ของนาฬิกา ออกแบบมาฆ่าตัวตาย

–  หนีบเข้ากับตัวนาฬิกายากมากต้องให้ตรงรูซึ่งเล็กมาก

–  เข็มเล็กนั้นสร้างรอยขีดข่วนได้ง่ายมากเพราะกว่าจะเอาลงรูได้ก็ต้องเลื่อนไปเลื่อนมา

5.  กันน้ำได้แค่นิดเดียว ไม่สามารถนำลงไปว่ายน้ำได้ น่าจะทำออกได้ดีกว่านี้

6.  ไม่มีหัวต่อสายชาร์จไฟ ต้องไปหาเอง

7.  ตัวแถบจุดทองแดง 4 จุดด้านใต้นาฬิกา มีจุดบอดของการกำลังกาย หากหลังจากเล่นกีฬาเสร็จแล้วไม่ได้รับการดูแลรักษาความสะอาดเท่าที่ควร อาจเกิดคราบเขียวๆ ขึ้นได้เป็นปัญหาการชาร์จไฟในอนาคตได้

8.  ไม่รองรับการ Sync ผ่านแอฟของ Smart Phone ต้องดาวโหลดผ่านสาย Data เท่านั้นยุ่งยากมาก

ความคิดเห็นของผู้เขียน

ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องปรับปรุงและพัฒนาให้ได้มากกว่านี้หากจะเทียบกับรุ่นใหม่ๆ ที่ออกมาเพราะสายการผลิตระบบนี้ผลิตภัณฑ์แบบนี้เริ่มออกมาเยอะแล้ว เช่น Android wear ซึ่งเป็นแบบทั้ง หน้าจอสี ,  ฟังเพลง , ถ่ายรูป Sync ผ่าน App ต่างๆ ทำได้ง่าย ก็คงต้องพัฒนากันอีกเยอะหากเทียบกับ Brand ยักษ์ใหญ่ต่างๆ เพราะคนทุกวันนี้ชอบความสะดวกสบายที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่เดินไปข้างหน้าอย่างยิ่งยวด คิดว่ายังไม่ตอบโจทย์กับผู้เขียนซะเท่าไร ยังมาไม่หมด ยังติดๆ อยู่เล็กน้อย แต่กระนั้นก็ขึ้นอยู่กับการใช้ของผู้ใช้ และ ผู้ผลิตว่าจะสร้างออกมาเพื่อสนองความต้องการมากแค่ไหน ใช้ตามความต้องการของตัวเรามากแค่ไหน

via : Runtastics.com , Pantip , นิตยสาร Health , Youtube

เรียบเรียงโดย: NuTty m00yai