เดี๋ยวนี้ไม้กันสั่นเรียกว่าเป็นอุปกรณ์ที่หลายคนขาดไม่ได้ แต่ปัญหาก็คือ ไม้กันสั่นที่มีวางขายอยู่ค่อนข้างมีขนาดใหญ่พกพาไม่สะดวก นั้นจึงทำให้เกิดเป็น Atom สุดยอดไม้กันสั่นพกพา พับใส่กระเป๋าได้สบายๆ

Atom

Atom

ATOM เป็นไม้กันสั่นแบบ 3 แกนที่น่าจะมีขนาดเล็กที่สุดในตอนนี้ จุดขายอยู่ที่โครงสร้างหลักสามารถพับเก็บได้ ช่วยให้เราพับใส่กระเป๋าพกพาได้ง่ายขึ้น ส่วนความสามารถเรียกว่าไม่ได้เล็กตามขนาดนะ ใช้งานคู่กับแอปมีฟีเจอร์เจ๋งๆให้ใช้งานเพียบ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่กลายเป็นโปรเจคระดมทุนบน Indiegogo ที่มีคนบอกต่อปากต่อปาก ได้เงินระดมทุนทะลุ 100,000 ดอลล่าร์ในเวลาไม่นาน

Atom

ตัวเครื่องจะมีน้ำหนักแค่ 440 กรัมเท่านั้น แต่ข้อจำกัดก็คือเหมาะใช้งานกับมือถือที่มีน้ำหนักไม่เกิน 310 กรัม ไม่อย่างนั้นมอเตอร์จะทำงานหนักเกินไป ซึ่งก็เพียงพอกับการใช้งานมือถือจอใหญ่ๆรุ่นยอดนิยม (อย่าง Galaxy Note 9 หนักแค่ 201 กรัม iPhone XS Max มีน้ำหนักอยู่ที่ 208 กรัม)

Atom

มาดูเรื่องของการควบคุมนั้นบนด้ามจับ จะมีปุ่มต่างๆสำหรับควบคุมการทำงานควบคู่กับแอป Snoppa เช่น ปุ่มจอยสติ๊กแบบ 4 ทิศทาง, ปุ่มเมนู, ปุ่มชัตเตอร์, ปุ่มลัดสำหรับตั้งค่าฟีเจอร์ที่ใช้งานบ่อยๆ, ปุ่มล็อกตำแหน่งให้มือถืออยู่กับที่ รวมถึงปุ่มควบคุมการซูม ซึ่งปุ่มต่างๆเหล่านี้ทำให้ใช้งานมือเดียวได้ค่อนข้างถนัดทีเดียว กดแค่ครั้งเดียวก็เปลี่ยนตำแหน่งจากแนวนอนเป็นแนวตั้งได้แบบทันใจ

ในกรณีที่เราไม่ได้ลงแอป ก็สามารถใช้งานได้แค่ฟังชั่นพื้นฐานอย่างแพนซ้ายขวา หรือก้ม/เงยกล้อง ถ้าต่อแค่บลูทูธกับมือถือก็จะสั่งกดถ่ายภาพหรือวิดีโอได้ แถมด้วยช่อง 3.5 มม.สำหรับเสียบไมโครโฟนได้ด้วย

ส่วนโหมดการถ่ายนั้นก็เรียกว่าให้มาครบครัน เช่น

  • โหมดถ่ายภาพแบบมือโปร ปรับการตั้งค่า Speed, รูปรับแสงและควบคุมโฟกัสได้
  • มีระบบติดตามวัตถุและใบหน้าคนให้หมุนกล้องตามจะได้ไม่พลาดช็อตสำคัญๆ
  • สามารถหมุนได้ 360 องศาได้แบบไม่มีข้อจำกัด สำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพแนว Time Lapse
  • สามารถใช้งานกับกล้อง Action Cam อย่าง GoPro หรือ Yi Camera ได้

Atom

ส่วนคุณสมบัติอื่นๆก็คือ ใช้เป็นพาวเวอร์แบงก์ชาร์จมือถือได้ แต่ที่เหนือกว่าก็คือใส่เทคโนโลยี Qi Wireless Charging มาให้ด้วยตรงแท่นที่ติดกับมือถือ รองรับการชาร์จไร้สายกับสมาร์ทโฟนหลายรุ่น จึงทำให้มันใจได้ว่าตอนใช้งานแบตมือถือจะไม่หมดแน่นอน ส่วนแบตเตอรี่นั้นจะให้ความจุ 2,000 mAh ใช้งานได้ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

ใครที่สนใจสามารถอ่านรายละเอียดได้ในเว็บ Indiegogo ซึ่งมีเวลาเหลืออีก 21 วันที่โครงการจะปิดลง ราคาขายจริงอยู่ที่ 169 ดอลล่าร์หรือประมาณ 5,480 บาท เริ่มวางขายจริงเดือนพฤศจิกายนนี้

VIA Indiegogo